iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
 ai ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เบื้องต้น

 

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เบื้องต้น

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ คือ เทคโนโลยีที่เลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ และนำไปประยุกต์ใช้กับงานต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น การรู้จำภาพ การแปลภาษา การขับรถอัตโนมัติ ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ได้กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เทคโนโลยีนี้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา ตั้งแต่การใช้ AI ในแชตบอต การแปลภาษา รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์สามารถเลียนแบบกระบวนการคิดของมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ (Learning), การให้เหตุผล (Reasoning), และการแก้ปัญหา (Problem-Solving)

ระดับ AI สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่

ระดับ 1 Artificial Narrow Intelligence (ANI) เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะด้าน ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะด้าน เช่น Siri, Google Assistant, ระบบแนะนำสินค้าของ Amazon หรือ AI ในแอปพลิเคชันแปลภาษา

ระดับ 2 Artificial General Intelligence (AGI) เป็น AI ที่มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ สามารถเรียนรู้และทำงานได้หลากหลายด้าน สามารถคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์ (ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา)

ระดับ 3 Artificial Super Intelligence (ASI) เป็น AI ที่มีความฉลาดเหนือกว่ามนุษย์ สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว มีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน (แนวคิดในอนาคต)

AI ทำงานอย่างไร 

AI ใช้หลักการของ Machine Learning (ML) และ Deep Learning (DL) เพื่อเรียนรู้จากข้อมูลและปรับปรุงการทำงานของตัวเอง โดย

1. Machine Learning (ML) ระบบเรียนรู้จากข้อมูลและสามารถทำนายหรือแก้ปัญหาได้ โดยไม่ต้องมีการตั้งโปรแกรมแบบตายตัว เป็นสาขาหนึ่งของ AI ที่เน้นการเรียนรู้จากข้อมูล เรียนรู้จากประสบการณ์ โดยมี 3 ประเภทหลัก คือ 

- Supervised Learning คือ การเรียนรู้แบบมีผู้สอน โดยมนุษย์จะคอยบอกโมเดลว่า input ที่ใส่เข้าไปคืออะไร และควรจะได้ output เป็นอะไร ตัวอย่างเช่น linear equation ที่มีสูตร y = wx + b โดย x คือ input, y คือ output ส่วน w กับ b คือ parameter ที่โมเดลต้องหาค่าที่ดีที่สุดผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น cost function และ gradient descent 

Supervised Learning เป็นการเรียนรู้จากข้อมูลที่มีป้ายกำกับ เช่น การจำแนกประเภทของสัตว์

- Unsupervised Learning คือ การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน โมเดลจะเรียนรู้และหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง เช่น การแบ่งกลุ่มข้อมูล (clustering) โดยที่เราไม่ต้องบอกว่าข้อมูลแต่ละกลุ่มคืออะไร

Unsupervised Learning เป็นการเรียนรู้จากข้อมูลที่ไม่มีป้ายกำกับ เช่น การจัดกลุ่มข้อมูล

- Reinforcement Learning คือ การเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก คล้ายกับการเรียนรู้ของเด็กทารก โดย AI จะอยู่ใน environment จำลองและเรียนรู้จากการลองทำสิ่งต่างๆ ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีก็จะได้ reward เพื่อนำไปปรับปรุงการเรียนรู้ต่อไป

Reinforcement Learning เป็นการเรียนรู้จากการกระทำและผลตอบรับ เช่น การเล่นเกม

2. Deep Learning (DL) คือ AI ที่เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีข้อเสียคืออธิบายผลลัพธ์ได้ยากซึ่งเป็น Machine Learning algorithm ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า Neural Network 

Deep Learning เป็นเทคนิคหนึ่งของ Machine Learning ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถเรียนรู้จากข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดีกว่าเทคนิคอื่นๆ อัลกอริธึมที่เลียนแบบโครงสร้างของสมองมนุษย์ ใช้ Artificial Neural Networks เพื่อเรียนรู้ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การจดจำใบหน้า หรือการแปลภาษาอัตโนมัติ

Deep Learning มีแนวคิดจากการเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ โดยสร้างเซลล์ประสาทจำลองขึ้นมา แต่ละเซลล์จะมี input และ output เชื่อมต่อกันเป็น layer หลายๆ ชั้น การทำงานของ Deep Learning คือ input จะถูกส่งผ่านไปยังแต่ละเซลล์ในแต่ละ layer โดยแต่ละเซลล์จะมีการคำนวณด้วย linear equation คล้ายกับที่กล่าวถึงในช่วง Machine Learning แต่จะเป็นการคำนวณแบบ vector และส่ง output ไปยัง layer ถัดไปเรื่อยๆ จนถึง output สุดท้าย

ข้อดีของ Deep Learning คือยิ่งมีข้อมูลมาก และโมเดลใหญ่ขึ้น ประสิทธิภาพก็จะยิ่งดีขึ้น แต่ข้อเสียคือ การอธิบายผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมี parameter จำนวนมาก ทำให้ไม่รู้ว่าตัวแปรไหนส่งผลต่อผลลัพธ์บ้าง จึงมักถูกมองว่าเป็น Black Box

AI เป็นเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นและมีศักยภาพสูง แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการพัฒนาและใช้งาน หากเราสามารถใช้ AI ได้อย่างเหมาะสม AI ก็จะสามารถช่วยสร้างอนาคตที่ดีให้กับทุกคนได้

ข้อดีและข้อเสียของ AI

ข้อดีของ AI สามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์, สามารถทำงานที่เป็นอันตรายหรือทำได้ยากสำหรับมนุษย์, สามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสามารถทำงานซ้ำๆ ได้โดยไม่เหนื่อย, ช่วยลดข้อผิดพลาดของมนุษย์มีความแม่นยำสูงกว่ามนุษย์, พัฒนานวัตกรรมใหม่ใช้ช่วยในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การแพทย์ การเงิน และการศึกษา

ข้อเสียของ AI อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม, อาจทำให้เกิดการว่างงาน, อาจนำไปสู่การสร้างอาวุธที่ทรงอานุภาพ, แทนที่แรงงานมนุษย์งานบางประเภทอาจถูกแทนที่ด้วย AI, ค่าใช้จ่ายสูงในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ต้องใช้ทรัพยากรและงบประมาณสูง, อาจนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย เช่น Deepfake หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

อนาคตของ AI

ในอนาคต AI จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตของเรา ตั้งแต่เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์อัจฉริยะ ไปจนถึงการพัฒนาระบบ AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์ มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ในทางที่ดีแต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง เราจึงต้องร่วมกันพัฒนา AI เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์และสังคมในระยะยาว

ตัวอย่าง AI ในชีวิตประจำวันเราพบ AI ได้ในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น

ผู้ช่วยอัจฉริยะ: Siri, Google Assistant, Alexa

ระบบแนะนำเนื้อหา: Netflix, YouTube, Spotify แนะนำหนังหรือเพลงที่คุณน่าจะชอบ

การแปลภาษา: Google Translate สามารถแปลภาษาต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์

รถยนต์ไร้คนขับ: Tesla ใช้ AI ในการขับขี่อัตโนมัติ

AI ด้านการแพทย์: ช่วยวิเคราะห์โรคจากภาพเอกซเรย์

AI ในอีคอมเมิร์ซ: แชตบอตช่วยตอบคำถามลูกค้าใน Shopee, Lazada

AI จะเปลี่ยนแปลงโลกอย่างไร

AI ในธุรกิจ – ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

AI ด้านสุขภาพ – AI ช่วยตรวจโรคและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย

AI ในการศึกษา – AI ใช้สอนนักเรียนและพัฒนาระบบการเรียนรู้ส่วนบุคคล

จริยธรรมของ AI (AI Ethics) หมายถึง หลักการและแนวทางที่ใช้กำกับการพัฒนาและใช้งาน AI ให้มีความรับผิดชอบ โปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม หลักจริยธรรมสำคัญ มีดังนี้

- ความโปร่งใส (Transparency) AI ต้องมีความโปร่งใสในการตัดสินใจ ผู้ใช้ควรทราบว่า AI ทำงานอย่างไร ใช้ข้อมูลอะไรในการตัดสินใจ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและประเมินความถูกต้องได้ ระบบ AI ต้องสามารถอธิบายได้ว่าตัดสินใจหรือทำงานอย่างไร

ตัวอย่าง: ระบบ AI ในการให้สินเชื่อ ควรชี้แจงได้ว่าทำไมลูกค้ารายหนึ่งจึงได้รับอนุมัติสินเชื่อ ในขณะที่อีกรายถูกปฏิเสธ

- ความยุติธรรมและไร้อคติ (Fairness & Bias) AI ต้องมีความยุติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น การเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ เพศ หรือ ศาสนา AI ไม่ควรมีอคติที่ส่งผลเสียต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม

ตัวอย่าง: ระบบ AI ด้านการสรรหาพนักงานที่มีอคติทางเพศ อาจคัดเลือกเฉพาะเพศชายและกีดกันผู้สมัครหญิงโดยไม่ตั้งใจ

- ความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล (Privacy & Data Protection)  AI ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับการปกป้องและไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ข้อมูลที่ AI ใช้ต้องได้รับการคุ้มครองและไม่ละเมิดสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล

ตัวอย่าง: AI ในระบบเฝ้าระวังอาจใช้ข้อมูลของผู้คนโดยไม่ได้รับความยินยอม ซึ่งเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว

- ความปลอดภัย (Security) ระบบ AI ต้องถูกออกแบบให้ปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์และการใช้งานในทางที่ผิด

ตัวอย่าง: AI ในรถยนต์ไร้คนขับต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยป้องกันแฮ็กเกอร์ที่อาจเข้ามาควบคุมรถ

- ความรับผิดชอบ (Accountability) ผู้พัฒนา AI ต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดจาก AI ที่สร้างขึ้น ต้องมีระบบตรวจสอบและควบคุมการทำงานของ AI ต้องมีบุคคลหรือองค์กรที่รับผิดชอบเมื่อ AI ก่อให้เกิดผลกระทบ

ตัวอย่าง: หาก AI ที่ใช้ในการแพทย์วินิจฉัยโรคผิดพลาดจนทำให้เกิดผลเสีย ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ?

- ความยั่งยืน (Sustainability) การพัฒนาและใช้งาน AI ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

AI กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว และมีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่ธุรกิจ อุตสาหกรรม การแพทย์ ไปจนถึงความปลอดภัยและกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI อย่างไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ จริยธรรมของ AI จึงจำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจ เพื่อใช้ในการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีนี้อย่างรับผิดชอบ

AI คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์สามารถคิดและตัดสินใจได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่ธุรกิจ การศึกษา ไปจนถึงการแพทย์ แม้ AI จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ต้องมีการควบคุมและพัฒนาอย่างมีจริยธรรม AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกในแทบทุกด้าน การพัฒนาและใช้งาน AI ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและมีกรอบจริยธรรมที่ชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ และไม่กลายเป็นภัยคุกคามในอนาคต เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และสังคมอย่างแท้จริง 

.

----------------------

ที่มาข้อมูล

.

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward