iot_002 IoT ต้องการความเชี่ยวชาญด้านใด
Internet of Things (IoT)
การใช้งานและการพัฒนา IoT ต้องการการผสมผสานของความเชี่ยวชาญจากงานในสาขาต่างๆ ที่มาทำงานร่วมกัน ตัวอย่างความรู้ความเชี่ยวชาญที่ควรมีในการทำงานด้าน IoT เช่น
- การออกแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Design) การทำความเข้าใจส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ (hardware components) เซ็นเซอร์ (sensors) ไมโครคอนโทรลเลอร์ (microcontrollers) ระบบฝังตัว (embedded systems) และการออกแบบวงจร (circuit design) จากที่กล่าวมาจะพบว่ามีหลากหลายความรู้ความชำนาญในงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างอุปกรณ์ IoT ความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบ PCB (แผ่นวงจรพิมพ์) และการสร้างต้นแบบจะเป็นประโยชน์
- เครือข่ายและการเชื่อมต่อ (Networking and Connectivity) ความรู้เกี่ยวกับโปรโตคอลเครือข่าย (networking protocols) เช่น TCP/IP, MQTT, CoAP และเทคโนโลยีไร้สาย (wireless technologies) เช่น Wi-Fi, Bluetooth, Zigbee หรือเครือข่ายเซลลูลาร์ (cellular networks) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT เข้าด้วยกันและกับอินเทอร์เน็ต
- การพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development) ความเชี่ยวชาญในภาษาการเขียนโปรแกรมที่ใช้กันทั่วไปใน IoT เช่น C, C++, Python, Java หรือ JavaScript มีความสำคัญต่อการพัฒนาเฟิร์มแวร์ (firmware) สำหรับอุปกรณ์ IoT การสร้างแอปพลิเคชัน และการทำงานกับแพลตฟอร์ม IoT นอกจากนี้ ความรู้ด้านการพัฒนาเว็บ (web development) คลาวด์คอมพิวติ้ง (cloud computing) และการจัดการฐานข้อมูล (database management) ยังมีประโยชน์สำหรับการสร้างระบบแบ็กเอนด์ (backend) IoT
- การวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้ของเครื่อง (Data Analytics and Machine Learning) การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และเทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องสามารถช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีความหมายจากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สร้างโดยอุปกรณ์ IoT ความเชี่ยวชาญด้านการแสดงข้อมูล การวิเคราะห์ทางสถิติ (statistical analysis) และการสร้างแบบจำลองเชิงคาดการณ์ (predictive modeling) สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ IoT
- ความปลอดภัย (Security) ความปลอดภัยของ IoT เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ความเชี่ยวชาญในการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย IoT การใช้กลไกการเข้ารหัส การจัดการการควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้ และการรับรองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องระบบ IoT จากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (cyber threats)
- ความรู้ด้านอุตสาหกรรม (Industry Knowledge) การมีความรู้เฉพาะด้านในอุตสาหกรรมหรือพื้นที่แอปพลิเคชันที่มีการใช้งาน IoT นั้นมีประโยชน์ ซึ่งรวมถึงการทำความเข้าใจความท้าทาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดเฉพาะของภาคส่วนต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การผลิต การขนส่ง การเกษตร หรือเมืองอัจฉริยะ
- การจัดการโครงการ (Project Management) ความเชี่ยวชาญในวิธีการและแนวทางปฏิบัติในการจัดการโครงการสามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่าการนำโครงการ IoT ไปใช้จะประสบความสำเร็จ ซึ่งรวมถึงทักษะในการรวบรวมความต้องการ การรวมระบบ การทดสอบ การปรับใช้ และการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า IoT เป็นสาขาสหสาขาวิชาชีพ และความเชี่ยวชาญในสาขาเหล่านี้ทั้งหมดอาจไม่จำเป็นสำหรับทุกโครงการ IoT ความเชี่ยวชาญเฉพาะที่จำเป็นจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงการ อุตสาหกรรม และบทบาทภายในทีมพัฒนา IoT การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ของ IoT สามารถนำไปสู่ความสำเร็จของโครงการ IoT
---------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------
สนใจเรื่องราวเพิ่มเติมคลิกที่นี่
รวมข้อมูล Internet of Things (IoT)