รูปแบบโครงสร้างซัพพลายเขนแบบ Diamond Model
รูปแบบ (Model) ของการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนนั้น มีหลายรูปแบบของการดำเนินการซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีวิธีการหลักการในการดำเนินการ ความสัมพันธ์ การเชื่อมโยง และส่วนประกอบของรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ในบทนี้จะกล่าวถึงรูปแบบดังต่อไปนี้ 1) Diamond Model 2) Value Chain
นอกจากนั้นยังมีส่วนหลักการของการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เช่น Market/Value Driven Value Driven Value Creation
รูปแบบโครงสร้างซัพพลายเขนแบบ Diamond Model
Diamond Model คือ กรอบแนวคิด หรือ ตัวแบบสำหรับการวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขัน ของเครือข่ายวิสาหกิจในระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน หรือลักษณะชองการรวมตัวกันในรูปแบบคลัสเตอร์ โดยMichael E. Porter ได้พัฒนาขึ้นเมื่อปี 1990 ได้มีการศึกษากันว่าเครื่องมือและกระบวนการอันสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศได้คือการพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจ หรือ “คลัสเตอร์” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
รูปแบบ Diamond Model เป็นการพิจารณาและประเมินสภาวการณ์ปัจจุบันของปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจที่สำคัญ 4 ด้านที่จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการเพิ่มผลิตภาพ (productivity) ของบริษัทที่อยู่ในในเครือข่ายวิสาหกิจในระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน อันจะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเครือข่ายวิสาหกิจในระบบโลจิสติกส์และ
ซัพพลายเชนนั้นๆ ทั้งระบบซัพพลายเชนในที่สุด ว่าสภาวการณ์เหล่านั้นมีลักษณะที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์หรือจะเป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงหรือพัฒนาผลิตภาพของธุรกิจในเครือข่ายวิสาหกิจในระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนนั้นๆหรือไม่ อย่างไร และมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงการวิเคราะห์บทบาทของภาครัฐที่จะมีผลต่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆทั้ง 4 ด้านนั้นด้วย ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวประกอบด้วย
เงื่อนไขด้านปัจจัยการผลิต (Input Factor Conditions) ได้แก่ ปัจจัยด้านทรัพยากรมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แหล่งเงินทุน ฯลฯ ที่จะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
เงื่อนไขด้านอุปสงค์ (Demand Conditions) ได้แก่ ทัศนคติและรสนิยมของผู้บริโภค ระดับความพิถีพิถันและความเรียกร้องต้องการของผู้บริโภคต่อสินค้าและบริการของบริษัท ลักษณะและโครงสร้างการแบ่งส่วนการตลาดสำหรับสินค้าและบริการของบริษัท ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละส่วนการตลาดเป็นที่คาดเดาได้ในระดับใด ฯลฯ บริบทด้านการแข่งขันและกลยุทธ์ของธุรกิจ (Strategy and Rivalry Context) ได้แก่ ลักษณะและบรรยากาศของการแข่งขันทางธุรกิจ กลไกการตลาด ฯลฯ ที่จะมีผลต่อการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนกัน (Related and Supporting Industries) ได้แก่ กิจกรรมทางธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันในสายของซัพพลายเชนมีความครบถ้วนมากน้อยเพียงใด และ มีระดับของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างกันเพียงใด เช่น แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความรู้ระหว่างกัน วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์/ตลาดร่วมกัน ฯลฯ
รูปกรอบแนวคิดของรูปแบบ Diamond Model
ตัวอย่างของรูปแบบโครงสร้างแบบ Diamond Model
ที่ผ่านมามีการประยุกต์รูปแบบของ Diamond Model ในการสร้างเครือข่ายของการจัดการ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดรูปแบบโครงสร้างของการจัดการซัพพลายเชน ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบหลักคือ กลยุทธ์ของการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความต้องการทางการตลาด ปัจจัยการผลิต และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและอุตสาหกรรมสนับสนุน ที่จะต้องมีการเชื่อมโยงกันตลอดซัพพลายเชน
รูปแบบ Diamond Model คลัสเตอร์จักรยานยนต์และชิ้นส่วน
จากรูปทำให้เห็นว่าส่วนประกอบของโครงสร้างของ Diamond Model ของกลุ่มคลัสเตอร์จักรยานยนต์และชิ้นส่วน ประกอบด้วย กลยุทธ์ของการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความต้องการทางการตลาด ปัจจัยการผลิต และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและอุตสาหกรรมสนับสนุน ที่จะต้องมีการเชื่อมโยงกันตลอดซัพพลายเชน ของกลุ่มผู้ผลิตและสนับสนุนการผลิตจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
รูปแบบ Diamond Model อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
จากรูปเป็นการวิเคราะห์ปัญหาของโครงสร้างของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไทย โดยใช้โครงสร้างของ Diamond Model ซึ่งแสดงให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและการเชื่อมโยงปัญหาของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไทยในด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องและสนับสนุน กลยุทธ์ของการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความต้องการทางการตลาด ปัจจัยการผลิต และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและอุตสาหกรรมสนับสนุน ที่จะต้องมีการเชื่อมโยงกันตลอดซัพพลายเชน ของกลุ่มผู้ผลิตและสนับสนุนการผลิตซัพพลายเออร์