ถาม-ตอบ การเข้าถึงข้อมูลการให้บริการประชาชนแบบ E -Government
@ ในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลได้ 24 ชั่วโมงเลยไหม
กำรเข้าถึงข้อมูล คือ หัวใจ เพราะดิจิตอลหมายความว่าไม่มีเวลาหยุด และดิจิตอลอยู่ทุกที่ทุกทางที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย ยิ่งทางกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมวาง net work ให้ครบทุกหมู่บ้าน ก็หมายความว่าคนไทยไม่มีความเหลื่อมล้ำ อยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ แต่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้แต่ไม่มีข้อมูลที่เขาต้องการเขาก็ไม่มีประโยชน์ ไม่งั้นก็เอาอินเตอร์เน็ตใช้ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมแค่นั้น มันควรจะมีข้อมูลภาครัฐที่เขาสามารถเอาไปต่อยอดได้ ข้อมูลที่ทำให้ประชาชนที่อยู่ในอำเภออมก๋อย รู้เรื่องของสภาพภูมิอากาศ รู้เรื่องราคาสินค้า รู้เรื่องของภัยพิบัติได้ทันท่วงที สิ่งที่เรากำลังจะทำคือทำให้ประชาชนได้รับ ข้อมูลข่าวสารถูกต้องแม่นยำ แล้วในเวลาเดียวกันเขาเรียนรู้ที่จะปรับตัวเองจากการใช้ข้อมูลพวกนี้ต่อไปนี้คือ ไทยแลนด์ 4.0 เปลี่ยนคนไทยให้ใช้ข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลได้ 24 ชั่วโมงแบบทันที บางหน่วยงานที่ยังไม่มีความพร้อมเราก็ต้องไปช่วยยกระดับทักษะ หลักสูตรนี้ยกระดับทักษะของบุคคลากร ภาครัฐไม่ใช่เฉพำะคนในทีมหรือผู้บริหารทุกคนในภาครัฐจะต้องได้รับการยกระดับทักษะดิจิตอล คือเป็นการยกหมดทุกคน การเปลี่ยนแปลงแบบนี้คือเป็นสัญญาณที่ดี หลายหน่วยงานเริ่มที่จะปรับตัวให้เข้าสู่ Thailand 4.0 เอกชนไปแล้วหลายแบงค์ประกาศแล้วจะลดสาขา จะลดคน นี้คือ Digital transformation เปลี่ยนผ่านเป็น ดิจิตอล การเปลี่ยนผ่านเป็นดิจิตอลหมายความว่า ทำแบบเดิมไม่ได้อย่างกรณีของธนาคารที่ลดสาขาก็คือ ไม่มีคน ที่ต้องไปอยู่ Counter รับทำธุรกรรมจากประชาชนเพราะประชาชนเปิดแอพทำได้เลย ดังนั้นสิ่งที่จะได้คือลด ต้นทุน ลดต้นทุนเจ้าหน้าที่ ลดต้นทุนสาขา เจ้าหน้าที่ก็เอามาทำแบบอื่นแทน ภาครัฐก็ต้องมองแบบนี้เหมือนกัน ถ้าประชาชนไม่ต้องเดินไปที่จุดบริการภาครัฐ ก็ไม่จำเป็นต้องมีจุดบริการเยอะ มีเฉพาะที่มันห่างไกลจริง ๆ หรือมีจุดที่ประชาชนที่ยังไม่พร้อมที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนเข้าได้ แต่คนส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟนแล้ว เราก็จะทำให้ภาระของภาครัฐลดลงมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่มาทำงานประจำมากเหมือนเดิม ประหยัดงบประมำณค่าใช้จ่าย เราสามารถเอาคนเหล่านี้มา Reskill อบรมเพิ่มทักษะใหม่ เพราะต่อไปข้อมูลจะเยอะมากคนเหล่านี้ต้องมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล หรือทำตัวเป็นเหมือน Adviser ให้กับประชาชน เพราะเรามีไลน์ มีเฟสบุ๊ค เรามีโซเชียลมีเดีย กรณีอย่างขอเปรียบเทียบว่า กรมสรรพากร จากเดิมที่เก็บภาษีประชาชน ต่อไปเป็นอัตโนมัติมากขึ้น เป็นไปได้ไหมเจ้าหน้าที่ภาษีอากรจะเป็นคล้ายกับแบงค์ที่มี Adviser เรื่องการลงทุน การเงิน ก็เป็น Adviser ประชาชนเกี่ยวกับภาษี วิธีคิดคือวิธีคิดจะใช้เครื่องมือในดิจิตอล ไม่ได้หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรต้องเดินไปทุกบ้าน แต่เรามีเครื่องมือโซเชียลมีเดียคุยกับประชาชนได้ ประชาชนที่ อาจจะยังไม่มีควำมรู้เกี่ยวกับเรื่องของภาษีจะทำยังไง จะวางแผนภาษียังไง เหล่านี้คือการใช้ดิจิตอล เพื่อให้เกิดนวัตกรรม สุดท้ายประชาชนไทยจะรู้เรื่องภำามากขึ้น รู้ว่าหน้าที่ของตัวเองต้องเสียภาษี รู้ว่าเราจะวางแผนอย่างไร เรากำลังมองว่าเราจะเป็นสังคมที่ยั่งยืน ทำอย่างไรจะให้ประชาชนเรียนรู้เหล่านี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐเปลี่ยนหน้าที่เป็นโค๊ชประชาชน หรือว่าเป็นคุณครูแนะแนวทางประชาชน วิธีเหล่านี้ก็ขึ้นกับข้าราชการว่าพร้อมไหม จากเดิมที่ทำหน้ำที่ดูกระดาษ เช็คกระดาษกับกลายเป็นต้องคุยกับประชาชนทางออนไลน์ ในการที่จะให้คำแนะนำเพราะ เราเข้าถึงข้อมูลเขาได้แล้ว ปีหน้าท่านจะต้องเสียภาษีเท่านี้ ควรจะซื้อ LTF ไหม หรือซื้อ IMF ไหมหรือควรจะไปลงทุนตรงนี้ นี้คือภาครัฐยุคใหม่ คือเอาประชาชนมามีส่วนร่วม ทำงานร่วมกันได้เหล่านี้เองที่ทำได้เพราะเครื่องมือดิจิตอล และประหยัดเวลาและประชาชนได้ประโยชน์เต็ม ๆ
@ พูดถึงประเทศไทยประชาชน หรือผู้ใช้บริการจะได้ประโยชน์อะไร จากการที่ภาครัฐได้ปรับเปลี่ยนให้เป็น e-Governance
1. ความถูกต้องจากข้อมูลที่ใช้ ต่อไปการขอสำเนาจากประชาชนต้องไม่มี สำเนาอาจจะง่ายที่สุดแต่เป็น สัญลักษณ์ที่สื่อว่า รัฐบาลจะเป็น 4.0 เลิกขอสำเนา สิ่งที่ตามจากการลดใช้สำเนา คือ ข้อมูลจากหน่วยงานมันจะค่อย ๆ แลกเปลี่ยนระหว่างกัน สิ่งที่เราได้จากดิจิตอล 2 อย่าง คือ ความถูกต้อง ถ้ามันเชื่อมมาเป็น อิเล็กทรอนิกส์ถูกแน่นอนแต่ถ้าข้อมูลเป็นกระดาษเขียนก็ไม่ชัดกรอกแบบฟอร์มไม่ชัด ประชาชนกรอกแบบฟอร์ม บางครั้งเขียนเลขไม่ชัดก็จะมีความผิดพลาดได้
2. ความเร็ว แทนที่จะรอหนังสือเอกสารภาครัฐส่งมาเป็นอาทิตย์ วินาทีนั้นข้อมูลวิ่งมาเลยแค่ 2 อย่างนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์เยอะมำก การที่ต้องไปรอทำธุรกรรมที่ภาครัฐเป็นชั่วโมงจะลดลง บัตรประชำชนใบเดียวทำธุรกรรมได้ทุกอย่างก็อำนวยความสะดวกไม่ต้องเดินไปหลายที่ ประชำชนจะได้รับประโยชน์มาก ผู้ประกอบการถ้า one stop service สามารถที่จะทำให้เขาดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องเสียเวลาขับรถ เพราะเชื่อมโยงอัตโนมัติภาคเอกชนไทยเราจะมีขีดความสามารถขนาดไหนแทนที่ประเทศอื่นใช้เวลาแค่ 1 วันก็ได้ใบอนุญาติ ของเราใช้เวลา 2 วันบางที 2 เดือนกว่าจะได้ใบอนุญาติ จะไปแข่งกับชาวบ้านได้อย่างไร ดังนั้น ภาครัฐเป็นดิจิตอลจะเพิ่มขีดความสามารถให้กับทางภาคเอกชน
3. ที่จะได้จากการเปิดข้อมูล จะเกิดธุรกิจใหม่ start up นักเรียน นิสิต นักศึกษาจะเอาข้อมูลภาครัฐเอาไปต่อยอดเกิดอะไรใหม่ เกิดความรู้ ชาวบ้าน สามารถที่จะเอาข้อมูล เช่น เรื่องสภาพภูมิอากาศ เปิดข้อมูลให้ไปใช้ข้อมูล จะทำนา จะวางแผนจะเปิดท้ายขายของ พรุ่งนี้ฝนจะตกหรือเปล่า แทนที่จะโทรศัพท์ไปถามกรมอุตุฯ กดดูได้เลยได้ไหม ราคาพืชผลสามารถเช็คได้เป็นรายชั่วโมง เหล่านี้ความเร็วกับความถูกต้องมันจะเอื้อในเรื่องของการทำให้การทำธุรกิจหรือการใช้ชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างมาก แล้วมองมุมมองภาครัฐในฐานะคนทำงานลดเวลาการทำงาน เพราะไม่ต้องเสียเวลาให้กระดาษจะได้มีเวลาเอาไปทำงานที่มันมีค่ามากกว่าการมาตรวจเอกสาร สิ่งนี้เองคือสิ่งที่ Win Win ทุก คน ใน Loop ของการทำงานกับภาครัฐได้ประโยชน์หมดเลย สิ่งที่รัฐบาลจะได้คือ Big data จากการที่ธุรกรรม ภาครัฐเชื่อมไปเป็นภาพเดียวกัน ท่านนายกสามารถกดดูได้เลยว่าตอนนี้วันนี้เศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไรเพราะ กำรเชื่อมโยงของข้อมูลต่าง ๆ สามารถทำให้รัฐบาลตัดสินใจได้ดีขึ้น เพราะข้อมูลมาเร็ว ข้อมูลถูกต้องและมีเครื่องมือในการคาดการณ์ในอนาคตเดือนหน้าจะเป็นอย่างไรอีก 3 เดือน จะเป็นอย่างไรได้เลย
เรื่องของ Digital Data เราต้องดูตัวอย่ำงของ Facebook หรือ Line ที่เขาเชื่อมข้อมูลคนไทย 60 ล้าน คน Line ประมาณ 40 กว่า ล้าน Facebook 50 กว่าล้าน ทุกวินาที มีคนเข้าใช้ตลอดสิ่งที่ Facebook สิ่งที่ Line ได้คือข้อมูลที่เขาสามารถเอา ไปวางแผนธุรกิจเขำได้ เราก็ต้องคิดแบบนี้ว่าทำไมเราจะมีข้อมูลนี้ในทางภาครัฐใช้ในการวางแผนใน เรื่องของการแก้ปัญหาประชาชนได้ทันท่วงทีเพราะฉะนั้นมันจะตอบโจทย์ได้ทุกมิติจริง ๆ
@ ในการก้าวไปสู่รัฐบาลดิจิทัลข้าราชการและบุคลากรรัฐควรมีการเตรียมตัวหรือว่ามีการเรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง
เปิดใจก็เป็นเรื่องที่ต้องทำแต่สิ่งที่ต้องตามมา คือทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น เรื่องของการใช้ เทคโนโลยีที่เหมาะสม เรื่องของการที่จะประยุกต์ใช้อย่างไร เรื่องของการที่จะต้องปรับตัวเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงกับการเข้ามาของดิจิตอล เหล่านี้เองมีหลักสูตรที่ทางรัฐบาลที่เตรียมไว้ให้กับท่านอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่ไอที หรือผู้บริหารเท่านั้น คือทุกคนในหน่วยงานภาครัฐจะต้องได้รับการยกระดับทักษะกันหมด เพราะเราจะต้องทำให้เข้ำใจว่าการเป็นดิจิตอลไม่ใช่แค่เครื่องมือเท่านั้น เราต้องเปลี่ยนตัวเอง เพราะจะทำให้การทำงานของเราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องเข้าใจตรงกันว่าประเทศไทยจะเป็นรัฐบาลดิจิตอลทำไปเพื่ออะไร เราต้องเปลี่ยนอะไร แล้วประชาชนจะได้อะไร ข้าราชการและหน่วยงานเกี่ยวกับการที่ปรับตัวหรือ ว่าจะทำให้หน่วยงานเข้าไปสู่ยุครัฐบาลดิจิตอล เรื่องดิจิตอลไม่ใช่เรื่องยาก ตอนนี้เรากำลังยกระดับของการใช้ดิจิตอลไปทำงานให้ดีขึ้น งานที่บริการประชาชนเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง งานที่ทำอย่างไรก็ตามจะทำให้เราปรับปรุงตัวเอง เพราะดิจิตอลจะทำให้เราต้องพัฒนา ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเรากำลังก้าวไปสู่สังคมที่ไม่มีวันที่หยุดการเรียนรู้และทุกคนอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เทคโนโลยีเป็นเพียงแค่เครื่องมือ อยู่ที่ตัวเองว่าพร้อมไหมที่เปลี่ยนตัวเองยกระดับตัวเองจะได้เป็น digital government ที่ตอบโจทย์ประชาชนได้จริง