พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ “PDPA - Privacy for All”
ประโยชน์ที่ได้รับจาก w. s.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้แก่
1. ประชาชน
- มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุลคล จะได้รับการเก็บรักษาอย่างปลอดภัย เหมาะสม และจะถูกใช้หรือเผยแพร่ ภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้แต่แรก
- ลดความเสียหายความเดือดร้อนอันเกิดจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
- มีสิทธิในการรับทราบ รัตถุประสงค์การจัดเก็บใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างแจ้งชัด
- มีสิทธิในการอนุญาต/ไม่อนุญาต หรือถอนความยินยอมให้มีการจัดเก็บใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล
- มีสิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับสำเนาหรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
- มีสิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
- สามารถร้องเรียนและขอให้ขดใช้ค่าสินไหมทดแทน หากพบว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้
2. ภาคธุรกิจ
- เพิ่มความเชื่อมั่น ในมาตรฐานการจัดเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลในระดับนานาชาติ
- เพิ่มขีดความสามารถและโอกาสในการทำธุรกิจที่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกับต่างประเทศ
- มีกระบวนการทำงาน กลไกที่มีประสิทธิภาพ ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กรที่เหมาะสม
- เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมในการจัดเก็บการใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์
- ส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรด้านธรรมาภิบาล การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ รับผิดขอบต่อสังคม
3. ภาครัฐ
- มีระบบที่มีความทัดเทียมนานาอารยประเทศในด้าน กฎหมาย/กฎระเบียบในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- มีมาตรการกำกับดูแล รวมถึงเครื่องมือกำกับการดำเนินงานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ
- มีธรรมาภิบาล การดำเนินงานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
- สร้างสังคมที่เข้มแข็ง เนื่องจากสามารถตรวจสอบการดำเนินงานภาครัฐ และกาคธุรกิจเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้มีความถูกต้องเหมาะสม
- ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศในด้านประสิทธิภาพการคุ้มครองข้อมูล
ที่มาข้อมูล
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล