iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Nares ลาว จำปาสัก ภูเพียงบ่อละเวน(4) : ภูเขาไฟละอ่อนบนภูเพียงบ่อบะเวน 
 
 

หากท่านเปิดแผนที่ภูมิประเทศของกูเกิ้ลดูบริเวณยอดของภูเพียงบ่อละเวน เมืองปากซองแขวงจำปาสัก ลาวใต้ ท่านน่าจะสังเกตเห็นว่า ภูเพียงบ่อละเวน นั้น มีลักษณะเป็นโครงสร้างชั้นหินรูปประทุนหงาย มีแกนของประทุนหงายในแนวประมาณตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือกับตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้ (290 องศา) และหากท่านสังเกตให้ละเอียด โดยขยายแผนที่ให้ใหญ่มากยิ่งขึ้น ท่านก็น่าจะเห็นภูเขาเล็กๆ ได้ง่ายดายและชัดเจน มีลักษณะกลมๆ มากกว่า 10 ลูก แต่ละลูกมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 2 กิโลเมตร และวางตัวเรียงกันเป็นแนวประมาณ ทิศเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ กับทิศใต้-ตะวันตกเฉียงใต้ (345 องศา) (ภาพที่1)
 
 
ภาพที่ 1 แผนที่ภูมิประเทศของกูเกิ้ล เน้นความโดดเด่นของกรวยกรวดภูเขาไฟ วงสีแดง คือเขาลูกที่มีขนาดใหญ่กว่า กับวงสีดำ เขาที่มีขนาดเล็กลงมา
 
ภูเขาลูกเล็กๆ เหล่านี้ นักธรณีวิทยาเรียกว่า “กรวยเถ้าภูเขาไฟ (Cinder cone)” ได้แก่เขาลูกโดด ซึ่งเป็นธรณีสัณฐานที่เกิดจากการปะทุขึ้นมาของหินหนืดสู่อากาศ แล้วเย็นตัวอย่างรวดเร็วเป็นเศษหินพรุน (scoria) ตกลงมากองสะสมตัวปิดทับอยู่เหนือบริเวณช่องทางออกของลาวา (vent) และบ่อยครั้งที่บริเวณส่วนยอดของเนินมีการยุบตัวลงเป็นแอ่ง ซึ่งนานวันเข้าอาจกลายเป็นทะเลสาบเหนือยอดเนิน หรือหากผนังด้านใดด้านหนึ่งเกิดการปริแยกพังทลายลง จะทำให้เกิดลักษณะภูมิประเทศแบบใหม่เป็นพนังผาโค้งรูปเกือกม้าล้อมช่องทางออกของลาวาไว้ภายใน (ภาพที่ 2)
 
ภาพที่ 2 ภาพภูโป่ง หนึ่งในกรวยกรวดภูเขาไฟบนภูเพียงบ่อละเวน จากแผนที่ของกูเกิ้ล แสดงการพังทลายของผนังปากปล่องออกไปจากด้านตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนภูเซ็ดคิอเขาหินทราย ชั้นหินที่ปิดอยู่บนสุดเทียบได้กับหมวดหินภูพานของไทย

โดยทั่วไปแล้วกรวยเถ้าภูเขาไฟจะพบอยู่ตามบริเวณส่วนข้างของภูเขาไฟแบบต่าง ๆ (flanks of volcanoes) ไม่ว่าจะเป็นชนิด ภูเขาไฟรูปโล่ (shield volcanoes) กรวยภูเขาไฟแบบสลับชั้น (stratovolcanoes/ composite volcanoes) หรือ แอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด (calderas) ซึ่งขนาดของโคนนั้น มีได้หลากหลาย ตั้งแต่ขนาดเล็กที่สูงไม่กี่สิบเมตร ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่สูงหลายร้อยเมตร ขึ้นอยู่ระดับความรุนแรง และช่วงเวลาความต่อเนื่องการปะทุของหินหนืด ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ปะทุสิ้นสุด ลาวาที่ไหลออกมาในภายหลัง มักจะเจาะทะลุฐานของ ภูเขา แล้วไหลออกสู่ภายนอก มากกว่าที่จะไหลเอ่อออกมาจากด้านบนของโคน และเนื่องจากเนื้อลาวามีความหนาแน่นมากกว่า ดังนั้นจะยกกรวยเถ้าภูเขาไฟซึ่งเบากว่าให้ลอยขึ้น จากนั้นก็จะไหลอาบไปโดยรอบฐานโคนลูกนั้น ๆ
การเกิดโครงสร้างรูปประทุนหงาย และกรวยเถ้าภูเขาไฟนั้น ต่างก็เกิดขึ้นมาพร้อมและหลังการเกิดเทือกเขาหิมาลัย แต่ก็มีประเด็นพิจารณาว่า ทั้งสองสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยกระบวนการทางธรณีวิทยาเช่นไร
โรธนา ลดาชาติ อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชื่อว่ากรวยเถ้าภูเขาไฟเหล่านี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นดินผ่านฮอตสปอต คล้ายกับการเกิดของภูเขาไฟที่กลายเป็นหมู่เกาะฮาวาย (ภาพที่ 3) นั่นคือ เกิดจากจุดร้อนใต้เปลือกโลก (Hot spot) ไม่ได้เกิดตามแนวมุดตัวของแผ่นทวีป ไม่ได้เกิดในบริเวณขอบทวีป แต่จะเกิดในใจกลางของแผ่นทวีป ในที่ที่ลึกลงไปในผิวโลก ที่ซึ่งมีการสะสมตัวของแมกมาอย่างมากมายมหาศาล จนทำให้เกิดการประทุของภูเขาไฟ และหากแผ่นธรณีนั้นๆ เคลื่อนที่ออกไปจากตำแหน่งเดิม แต่จุดร้อนจะยังคงอยู่ ผลก็คือจะได้แนวของภูเขาไฟ ที่มีอายุไล่เรียงกันจากอ่อนไปแก่ นั่นคือมีจุดที่แมกมาเดือดพล่านอยู่กับที่ใต้เปลือกโลก จากนั้นแผ่นทวีปอินโดจีนขยับเคลื่อนที่ ในแนว 345 องศา ทำให้เกิด กรวยเถ้าภูเขาไฟ ในแนวดังกล่าว
 
ภาพที่ 3 ภาพจินตนาการแสดงการเกิดของภูเขาไฟบนหมู่เกาะฮาวาย

สราวุธ จันทรประเสริฐ นักธรณีวิทยาจากบริษัทปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเบียม เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะการเคลื่อนตัวเฉือนกันของรอยเลื่อนใหญ่ 2 ตัว (วางตัวในแนวประมาณตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้)ทำให้เกิดโครงสร้างรูปประทุน และแนวแตกซึ่งเป็นผลให้มีลาวาและภูเขาไฟประทุขึ้นมาตามแนวนี้ ((ภาพที่ 4) สุคนธ์เมศ จิตมหันต์สกุล อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นคล้ายกัน แต่ย้ำว่า ทุกสิ่งที่ปรากฎในตอนยุคเทอร์เชียรีนี้ น่าจะเป็นการเกิดซ้ำ โดยเลียนแบบและตามตำแหน่งเดิมของหินรากฐาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นมาก่อนในยุคดีโวเนียน หรือเพอร์เมียน
 
 
ภาพที่ 4 ภาพจากแผนที่กูเกิ้ล และการแปลความหมายในด้านโครงสร้างธรณีวิทยา เพื่ออธิบายว่ากรวยเถ้าภูเขาไฟบนภูเพียงบ่อบะเวน เกิดจากรอยเลื่อนเหลื่อมด้านข้างขนาดใหญ่สองตัว เคลื่อนตัวผ่านกัน

ก็ไม่ได้หวังว่าการขี่ม้าชมดอกไม้ในทริป “เบิ่งลาวใต้กับสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย” ครั้งนี้จะได้คำตอบที่แน่ใจว่า ภูเขาไฟเด็กหน้อยบนภูเพียงเกิดขึ้นได้อย่างไร ว่าแต่ว่า ท่านสารวัตรช่วยชี้แนะหน่อยได้ไหมครับ
.

ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak

รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com

-------------------------------------------------

รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)

-------------------------------------------------

ภาพที่ 1 ภาพอุลกมณี (tektite) แสดงรูปลักษณะทั้งสองแบบ และการเกิดรูปร่างที่แตกต่างกันไปเนื่องจากการหมุนตัวในอากาศ

ภาพที่ 2 แผนที่แสดงการกระจายตัวของเทคไทต์แต่ละชนิดในเขตเอเซียอาคเนย์ โปรดสังเกตรูปดาวสีดำ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบเทคไทต์ชั้นขนาดใหญ่

ภาพที่ 3 แผนที่แสดงการกระจายตัวของเทคไทต์ทั้งแบบกระเซ็นและแบบชั้น รวมทั้งพื้นที่ที่พบบะซอลต์อายุมหายุคซีโนโซอิกตอนปลาย รวมทั้งตำแหน่งของบ้านโดนงามบุณฑริก และเมืองนอง ที่ปลายลูกศรสีน้ำเงิน

ภาพที่ 4 แผนที่แสดงตำแหน่งหลุมที่เกิดจากการพุ่งชนโลก(crater)ของอุกกาบาต ที่ได้จากการสำรวจทั้งธรณีวิทยาพื้นผิว(วงเส้นประสีขาว) และการสำรวจวัดค่าแรงโน้มถ่วงของโลก (วงเส้นประสีเหลือง)

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward