Nares ไทย สตูล อุทยานธรณีสตูล เขาโต๊ะหงาย เขตข้ามกาลเวลากับชะโงกทัวร์ของข้าพเจ้า
เขตข้ามกาลเวลา คือ อีกหนึ่งจุดฮอตฮิต ของอุทยานธรณีสตูล สถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เหตุที่ได้ชื่อว่า “เขตข้ามกาลเวลา” ก็เพราะว่า ที่หน้าผาชายฝั่งทะเลด้านใต้ของเขาโต๊ะหงาย จะพบเห็นหินสองชนิดวางทับกัน นั่นคือ หินปูนสีเทาแห่งยุคออร์โดวิเชียน (O)(488-444 ล้านปี) วางทับอยู่บนหินทรายเนื้อละเอียด สีแดง แห่งยุคแคมเบรียน(ε) (542-488 ล้านปี) การวางตัวซ้อนกันของหินทั้งสองชนิดนี้ มิได้เป็นการทับกันตามธรรมชาติของการตกตะกอนจากแก่ขึ้นมาอ่อน แต่เป็นการวางตัวทับโดยกันมีรอยเลื่อนที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกคั่นอยู่ระหว่างกลาง ชั้นหินที่อยู่ข้างบนจึงมีอายุที่ก้าวกระโดดจากชุดหินข้างล่าง อีกทั้งหินทั้งสองชุดมีสีแตกต่างกันชัดเจน จากแดงขึ้นไปเป็นเทา ทำให้แนวสัมผัสดังกล่าวมีความโดดเด่นชัดเจน จนถูกเรียกขานด้วยชื่อเช่นว่า
ลักษณะที่เห็นเด่นชัดของเขตข้ามกาลเวลานี้ ก็คือชะโงกผาของหินปูน ที่ยื่นง้ำออกมา มีผิวราบเรียบ มองเห็นลายเส้นเรียงขนานกัน ส่วนด้านล่างจากนั้นถัดลงไปอีกประมาณ 1.5 เมตร จะเป็นโซนที่หินค่อยๆเปลี่ยนสี โดยบนสุดจะเป็นการเปลี่ยนแบบฉับพลัน จากหินปูนสีเทาไปเป็นหินผุสีเหลืองอมขาว ซึ่งค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เป็นสีชมพู นี่คือหินที่ถูกบดเป็นเม็ดละเอียด อันเนื่องจากอิทธิพลการบดอัด การเคลื่อนตัวผ่านกันของหินทรายกับหินปูน รวมทั้งล่างสุดของโซนสีเปลี่ยนก็คือช่วงของหินที่แตกเป็นก้อนเหลี่ยม ทั้งหมดนี้วางทับอยู่บนหินสีแดงของยุคแคมเบรียน
ที่ข้างสะพานข้ามเวลา จะพบหินปูนก้อนใหญ่ 4 ก้อน ที่พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นก้อนหินที่ถล่มลงมาจากหน้าผาข้างบน ด้วยอิทธิพลของคลื่นทะเล และความโน้มถ่วงของโลก โดยตกอยู่ด้านในของสะพาน 2 ก้อน (1,2) อีกสองก้อน (3,4) วางตัวอยู่นอกสะพาน ก้อนหมายเลข 3 นั้นเห็นได้ชัดว่าเคยประกบติดอยู่กับหมายเลข 1 และทั้งสองก้อนนั้นต่างก็มีแนวของลายเส้นตามหน้าหิน รวมทั้งแนวขยักที่ตั้งฉากกับลายเส้น หลักฐานเช่นนี้บ่งบอกว่า ในขณะที่เปลือกโลกมีการเคลื่อนที่ หินปูนทั้งสองก้อนนี้จะถูกบดอัดให้เคลื่อนตัวผ่านกัน โดยก้อนหมายเลข 3 จะเคลื่อนไปทางซ้าย (เคลื่อนขึ้น) ส่วนหมายเลข 1 จะเคลื่อนไปทางขวา (เคลื่อนตัวลง) แสดงว่ารอยเลื่อนที่เขตข้ามกาลเวลานี้เป็นรอยเลื่อนปกติ (Normal Fault)
ก้อนหินขนาดใหญ่ทั้ง4 ก้อนนี้ น่าจะร่วงตกลงมานานหลายพันหลายหมื่นปีแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่คือหลักฐานของขบวนการกัดเซาะผุพังทำลายที่เคยเกิดขึ้น และอาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต โดยเฉพาะยามที่มีฝนตก พายุหนัก อันควรที่จะต้องมีป้ายให้นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังในการเยี่ยมชม
ขอขอบคุณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราที่สร้างสะพานคนเดินตามแนวชายฝั่งเขาโต๊ะหงาย ทำให้การเที่ยวชมเขตข้ามกาลเวลานี้เป็นไปได้โดยสะดวก รวมทั้งเป็นการเชื่อมต่อไปถึงอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยว นั่นคือ หาดหินหลากสี ที่บางคนก็เรียกว่า หาดหินห้าสี
ไหนๆก็ไหนๆ ก็อยากแสดงข้อสงสัยว่า หน้าผาหินปูนที่มีเครื่องหมาย ? อยู่นั้น เป็นหินของยุคไหนกันแน่ จะเป็นตอนบนของหินยุคแคมเบรียน ที่เริ่มจะมีหินปูนเข้ามาแทรกสลับ หรือว่าเป็นหินปูนของยุคออร์โดวิเชียนไปแล้ว ซึ่งอันที่จริงแล้ว ข้างสะพานที่ทอดยาวไปนั้น สามารถที่จะติดตั้งป้ายให้ข้อมูลและความรู้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ที่แวะมาเยี่ยมชมได้อีกหลายป้ายนะครับ ท่านสารวัตร
(ป.ล. บทความนี้เขียนจากสายตาที่มองผ่านเขตและสะพานข้ามกาลเวลาระหว่างชะโงกทัวร์ ในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง โปรดปรึกษาหารือผู้สันทัดกรณีก่อนแชร์ต่อ)
ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak
รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com
-------------------------------------------------
รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)-------------------------------------------------