iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

 Waranon ไทย ปราสาทสด๊กก๊อกธม (Sdok Kok Thom Temple) ปราสาทเมืองพร้าว

 
ส่วนยอดของซุ้มประตูทางเข้า องค์ปรางประธาน จะเห็นว่าทับหลังนั้น หายไปแล้ว มีหินใหม่กับหินเก่าปะปนกันไป

 

ปราสาทสด๊กก๊อกธม (Sdok Kok Thom Temple) ปราสาทเมืองพร้าว หรือ  อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

จากคำแปลที่ได้จาก ศิลาจารึก สด๊กก๊อกธม หลักที่ 2 พบว่ามีการระบุมหาศักราช 971 หรือ ปี พุทธศักราช 1595 จึงพออนุมาณได้ว่า น่าจะสร้างในระยะเวลาเดียวกัน ก็นับว่าเก่าแก่พอสมควร ก็ประมาณเกือบจะหนึ่งพันปีมาแล้ว ก็เป็นเหตุที่ทำให้ตัวปราสาท มีการชำรุดผุพังไปตามกาลเวลา ประกอบกับเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน ที่มีการสู้รบกันระหว่างเขมรแดงและเขมรอีกกลุ่ม ซึ่งในบางช่วงเวลา นั้น กลุ่มเขมรแดงได้ยึดบริเวณนี้เป็นป้อมค่าย ก็เป็นไปได้ที่บางส่วนของปราสาท จะถูกทำลายลง โดยไม่ตั้งใจจากอาวุธสงคราม
อีกทั้งเมื่อสงครามซาลง ก็มีกลุ่มเขมรอพยพมาอาศัยในบริเวณนี้ เนื่องจากยังเป็นที่รกร้างว่างเปล่า และมีบาราย หรือ อ่างเก็บน้ำดื่มน้ำใช้ที่สมบรูณ์ จึงมีการลักขโมยหินแก่ะสลักหลายชิ้นออกไป ทำให้ขาดความสมบรูณ์ไปมาก แต่ก็นับว่าโชคดีมากที่ หลักศิลาจารึก หลายชื้น ที่ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 2460+/- ได้ถูกขนย้ายไปไว้ในพิพิทธภัณฑ์สถาน เพื่อการศึกษา ในกรุงเทพ ตั้งแต่นั้นมา
ดังนั้น ปราสาทเมืองพร้าว ในภาษาไทย หรือ สด๊กก๊อกธม ในภาษาเขมรในปัจจุบัน ที่นักสำรวจชาวฝรั่งเศส ชื่อ เอเตียน เอโมนิเยร์ เป็นจากโลกตะวันตก คนแรก ที่มาพบปราสาทนี้ ในปี พุทธศักราช 2444 และ ให้ชื่อว่า สด๊กก๊อกธม ตามคำเรียกของชาวบ้าน ซึ่ง สด๊ก หมายถึง รกร้างรกทึบ ก๊อก ก็คือต้นกก และ ธม แปลว่า ใหญ่ ดังนั้น ความหมายรวมๆ ก็คือ พื้นที่กว้างใหญ่ที่มีต้นกก ขี้นหนาแน่น รกทึบ นั่นเอง น่ะขอรับ
จากสภาพที่ผุพังของปราสาท และทิ้งร้างไว้นาน แต่จากการที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนจากศิลาจารึกซึ่งนับว่าเป็นศิลาจารึกที่สมบรูณ์ มากที่สุด มีรายละเอียดมากที่สุด เท่าที่พบในปราสาทหินขอมทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา จึงทำให้กรมศิลปากร ได้เข้ามาปรับปรุงตั้งแต่ราวๆปี 2550 จนมาแล้วเสร็จในปี 2561 นี้เอง ขอรับ
จากความที่เป็นนักธรณีวิทยา ข้าพเจ้าและคณะ จึงมาด้อมๆ มองๆ ตามหินก่อสร้างและศิลาแลง ที่ยกขึ้นมาประกอบกันเป็นตัวปราสาท กำแพงแก้ว ผนังหลังคา และเสานางเรียง จึงมีทั้งหินเก่าดังเดิม และ หินที่นำมาเสริมซ่อมแซม หากแต่ ด้วยประสบการณ์ และ สายตาของกลุ่มนักธรณี เราจึงพอจะแยกออกระหว่างหินดั้งเดิม ของปราสาทได้จากหินใหม่ที่นำมาเติม
ตัวหินดั้งเดิมของปราสาท ส่วนใหญ่ถูกสร้างมาจากหินทรายที่เกิดและตกตะกอนในแม่น้ำประสานสาย Braided streams ที่มีพลังการพัดพาแรงพอสมควร มีการคัดขนาดเม็ดดีปานกลาง และมีบางส่วนของเม็ดทราย จะมีขนาดหยาบ และ บางบริเวณจะมีเม็ดใหญ่ และ นานๆที่ก็จะเห็นเม็ดกรวดด้วย จึงเป็นที่น่าเชื่อได้ว่า เป็นหินชุดภูพาน ที่มีอายุราว 100 ล้านปี แต่อย่างไรก็ตาม หินชุดภูพานนี้ พบได้ในส่วนบนๆ ของที่ราบสูงโคราช และแหล่งหินตัดโบราณที่อยู่ใกล้ๆ เท่าที่รู้จัก ก็อยู่ไกลจากที่ตั้งของปราสาท สด๊กก๊อกธม นี้ โดยพบ ที่บ้านกรวด บุรีรัมย์ ปู้น จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า ช่างสมัยโบราณ ไปเอาหินพวกนี้มาจากไหนกัน แต่ถ้าจะขนมา ก็นึกไม่ออกว่าจะแบกมายังงัยตั้งไกล
แต่หินที่นำมาเสริมและซ่อมแซม จะเป็นหินทราย เนื้อละเอียด มีการคัดขนาดค่อนข้างดี ไม่มีเม็ดกรวด หรือเม็ดทรายขนาดใหญ่ มาปะปน ที่มีสภาพแวดล้อมขณะตกตะกอนแบบแม่น้ำประสานสาย Braided streams มีพลังการพัดพาแรงพอสมควร แต่ไม่มีเม็ดทรายขนาดใหญ่ หรือกรวดเข้ามาป่ะปน ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่า เป็นหินทรายชุดพระวิหาร ที่มีอายุแก่ประมาณ 120 ล้านปี และเท่าที่ทราบ ปัจจุบันนี้ มีเหมืองหินประดับที่นำเอาหินชุดพระวิหารออกมาจำหน่าย อยู่แถว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ดังนั้น การนำหินใหม่มาเสริม และซ่อมแซม จึงน่าจะนำมาจากแหล่งหินจากอำเภอสีคิ้วนี้ น่ะขอรับ และสมัยนี้ก็มีทั้งรถยกรถเครน รถบรรทุก ถนนหนทางสะดวก ก็ทำให้ไม่ยากนัก
วันนี้ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นวันหยุด เป็นวันแรงงาน แต่คนก็ไม่มาก ทั้งๆที่การจัดการบำรุงรักษา ส่วนการแสดงในพิพิทธภัณฑ์ ความสะอาดความสะดวกสบาย ถือว่าดีมาก ขอรับ ไปมาก็สะดวก ข้าพเจ้าสอบถามตั้งแต่จะเดินเข้าไปแล้วว่า ปลอดภัยจากกับระเบิดลูกระเบิด ที่อาจจะหลงเหลือมาตั้งแต่สงครามเขมร หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัย ไม่มีกับระเบิดแล้วน่ะขอรับ จึงใคร่ขอเชิญชวนพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ มาเยี่ยมชมกันน่ะครับ
อ้อ ระหว่างเดินชมปราสาทสด๊กก๊อกธม นี้ เจอหนุ่มสาวชาวเขมร 3 คู่ จาก ปอยเป็ต กัมพูชา มาเดินเล่นชมปราสาทกัน ก็เลยทักทายพูดคุยกัน พบว่า มีแค่ น้องผู้หญิงเพียงคนเดียวที่พอจะสื่อสารกันด้วยภาษาไทยได้ และต่อมาภายหลังได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลปราสาท ทราบว่า ปราสาทในฝั่งกัมพูชานั้น ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด ยังไม่ได้รับการบูรณะ มีสภาพพังทะลาย และอาจจะยังมีกับระเบิดหลงเหลือซุกซ่อนอยู่ด้วย จึงพอเข้าใจได้ว่า ทำไมถึงมาดูกัน

ปราสาทสด๊กก๊อกธม จึงเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการอนุรักษ์ เป็นอย่างดี ที่น่ามาเยือน น่ะขอรับ

 

.

-------------------------------------------------

ที่มา

https://www.facebook.com/waranon555

  
 
ซุ้มประตูของระเบียงคต บานนี้โชคดีที่ยังมีทับหลังเหลืออยู่ ตัวฐานประกอบจากศิลาแลง ที่มีทั้งใหม่และเก่า ส่วนของใหม่นั้นเหลี่ยมคมยังมีอยู่ชัดเจน
 
 
ส่วนหลังคาของระเบียงคตนั้น หายไปแล้ว ข้าพเจ้าก็สงสัยเป็นอันมากว่า ก้อนหินของเดิม หายไปไหนเยอะจัง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกเอาไปทำเป็นป้อมค่ายคูรบสมัยเขมรแดง โดยเฉพาะก้อนที่พอจะยกได้อุ้มได้ด้วยแรงคน
 
 
 
บริเวณทางเข้า จะประดับด้วยเสาสูงประมาณอกทั้งสองข้างที่เรียกว่า "เสานางเรียง" เมื่อพิจารณาดูแล้ว น่าจะเป็นหินเดิมๆ
 
 
 
แท่นหินสลักรูปดอกบัว น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแท่นบูชา จะเห็นริ้วรอยของชั้นหินชั้นบางๆ ตามแนวตั้ง
 
 
 
 หินแก่ะสลักลวดลายอ้อนช้อย น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของซุ้มประตู
 
 
บัวยอดปราสาทที่แกะจากหินก้อนเดียว ดูแล้วก็ทึ่งว่าคนสมัยพันปีที่แล้ว เขาใช้อะไรยกไปวางบนยอดปราสาทสูงจากพื้นตั้งยี่สิบสามสิบเมตร
 
 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward