Waranon ไทย ขอนแก่น Khon Kane Geopark
วันนี้ข้าพเจ้ามาเยี่ยมชมหลุมขุดไดโนเสาร์ หลุมที่ 3 ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง และ Khon Kane Geopark กับสมาคมธรณีวิทยา
หลุมขุดค้นไดโนเสาร์หลุมที่ 3 นี้ เป็นหลุมที่ขุดพบไดโนเสาร์กินพืช คอยาวๆ ที่หลายคนจะคุ้นตากันดีในหนังและการ์ตูนหลายๆเรื่อง เช่นเรื่อง Land before time ซึ่งตัวคอยาวๆ ชื่อ Little foot น่ารัก ขวัญใจเด็ก ซึ่งในภาษาทางการเราจะเรียกกันว่าพันธ์ หรือ ตระกูล ซอโรพอด กลุ่ม แบรคิโอซอริเด
ไดโนเสาร์ตัวนี้ มีญาติที่ถูกค้นพบในอเมริกาด้วย ก็คือ ไดโนเสาร์กลุ่ม แบรคิโอซอรัส ก็คือเจ้าตัวที่มีชื่อเสียงในหนังการ์ตูนนั่นเอง และก็พบญาติในแอฟริกาด้วยเช่นกัน แต่ถูกเรียกว่า จีราฟฟาไททัน แต่ญาติใกล้ชิดกับเจ้าตัวนี้ก็พบได้ในไทยจีนและเกาหลีใต้
จากการศึกษา เราพบว่าเจ้าไดโนคอยาวนี้ มีชีวิตอยู่เมื่อ 130 ล้านปีที่แล้ว แล้วตาย จนซากศพลอยตามน้ำของแม่น้ำขนาดกว้างสัก 20 เมตร ลึกสักไม่เกิน 2 เมตร จนเปื่อยยุ่ย แล้วกระดูกก็จมน้ำลง และถูกทรายทับถมปิดทับอยู่ริมตลิ่ง กระดูกส่วนต่างๆก็ถูกกระแสน้ำพัดพาขยับให้ออกจากที่ทางไปบ้าง ก็เลยทำให้กระดูกแต่ล่ะส่วน ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเท่าไหร่
กระดูกที่เห็นในวันนี้ มีหลายชิ้นที่ระบุได้ว่าเป็นกระดูกสันหลัง กระดูกคอ กระดูกสะโพก กระดูกขา แต่ยังไม่พบหัวกระโหลก
วันนี้ ข้าพเจ้าก็ดีใจมากที่ได้มาพบกับ เจ้าพ่อไดโนเสาร์ของประเทศไทย คือ ดร.วราวุธ สุธีธร ที่กรุณามาเป็นไกด์นำชมหลุมขุดค้นไดโนเสาร์ และ บรรยายเรื่องประวัติการค้นพบ การขุดค้น และ รักษา ซากกระดูกในไดโนเสาร์ในประเทศไทยให้ฟังกัน
หลังจากนั้น พวกเราก็ยกขบวนไปดูรอยตีนไดโนเสาร์กัน ในหลุมขุดค้นที่พบใหม่ ก็เห็นรอยตีนไดโนเสาร์กินพืชขนาดเล็ก มีสี่ขา แต่แอบถนัดวิ่งสองขา โดยพบรอยตีน หรือ ที่วิ่ง หรือ เดินอยู่หลายแนว อาจจะพอเทียบใกล้เคียงได้กับจิงโจ้ ที่ขาคู่หน้าเล็ก แต่ขาหน้าใหญ่กว่า แต่ก็มี รอยตีนของไดโนเสาร์กินเนื้อ ขนาดไม่ใหญ่นักมาป้วนเปี้ยนอยูแถวนี้ด้วย หลายรอย และ น่าจะมีหลายพันธ์ ด้วย
หลักฐานทางธรณีวิทยาที่เห็น พบว่ามี Ripple marks หรือรอยริ้วคลื่น ที่แสดงว่าเป็นคุ้งน้ำ ที่มีน้ำตื้นๆ ไม่น่าจะลึกเกิน 50 เซ็นติเมตร เราจะเห็นรูหนอนที่ชอนไช อาศัยอยู่ในพื้นทราย อยู่เยอะแย่ะ ก็เลยใช้สิ่งที่เราพบเห็นกันในปัจจุบัน มาเทียบเคียงแปลกันว่า เจ้าไดโนตัวเล็กนี้ น่าจะมาวิ่งหากินพืชที่อยู่ริมน้ำ เจ้าหนอนโบราณ ก็ชอนไชอยู่บนหาดทรายแม่น้ำเล็กๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีเจ้าไดโนเสาร์กินเนื้อ ตัวใหญ่กว่า มาดักซุ่มรอกินเจ้าไดโนเสาร์กินพืชที่เล็กกว่า อันเป็นห่วงโซ่อาหารแบบเดียวกับสิ่งที่พบเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี่เองน่ะขอรับ
ในทางเทคนิคของธรณีวิทยานั้น เราเรียกขานวิธีการนี้กันว่า Present is the key to the Past.
อธิบายกว้างๆ ง่ายๆ ก็คือ ลักษณะ สภาพทางธรณีวิทยาที่เห็นในปัจจุบัน ก็มีลักษณะเดียวกันกับสิ่งที่เกิดมาแล้วในอดีต เช่น วันนี้เราเห็นร่องรอยของแม่น้ำโค้งตระหวัด นั่นก็จะบอกได้ว่า ในอดีตหลายล้านปีที่แล้วก็มีแม่น้ำโค้งตระหวัดเหมือนกัน และ หินดินทรายที่เกิดมาด้วยวิธีการเดียวกัน ก็จะเหมือนกัน
ที่หุบเขาภูเวียงนี้ มีพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติ ด้านไดโนเสาร์ให้มาเยี่ยมชมและหาความรู้ได้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดี หนทางไปมาได้สะดวก แต่อาจจะไกลจากตัวเมืองขอนแก่นมากสักนิด แต่ข้าพเจ้าก็คิดว่าคุ้มน่ะครับ ได้ดูทั้งหลุมขุดค้นไดโนเสาร์ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ วิวทิวทัศน์สวยงาม ก็ขอเชิญชวนกันน่ะครับ
.
-------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/waranon555
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------
บทความ วรานนท์ หล้าพระบาง (Waranon Laprabang) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------
ดร.พี่หมู ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด.
พี่หมู ดร.วราวุธ สุธีธร ดร.นเรศ สัตยารักษ์ กรุณาอธิบาย บรรยายให้ฟังเกี่ยวกับไดโนเสาร์ตัวนี้ และ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการขุดค้น ศึกษาในหลุมขุดค้นที่ 3 นี้.
โครงกระดูกไดโนเสาร์ ที่ค้นพบในหลุมที่ 3 มันคงตายแล้วเน่าลอยน้ำมา ก่อนที่จะร่วงลงไปที่ท้องน้ำ แล้วทรายไหลมาทับถม รักษากระดูกไว้ได้หลายส่วน.
รอยตีน (ไม่ใช่ว่าใช้คำไม่สุภาพ แต่แบบทางการนั้น เขากำหนดให้ใช้คำว่า รอยเท้า สำหรับคน แต่สำหรับสัตว์แล้ว ให้ใช้คำว่า รอยตีน) ของไดโนเสาร์ ที่มี 4 ขา ขนาดสูง 50-70 เซ็นติเมตร.
อันนี้เป็นรอยตีนของไดโนเสาร์แบบกินเนื้อ ที่มีรอยเล็บยาวๆคมๆ อยู่ปลายนิ้วทั้งสามนิ้ว นั่นเอง มันคงมาไล่จับพวกกินพืช เป็นอาหาร นั่นเอง.
ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นรูยาวๆ บนพื้นหิน มันคือรูหนอนโบราณ ที่อาศัยอยู่บนท้องทรายในสมัยนั้น.
รอยนี้ก็เป็นพันธ์กินเนื้อเพราะเห็นรอยเล็บที่ปลายนิ้วทั้งสามนิ้ว แต่รอยตีนนี้ใหญ่กว่าตัวที่อยู่ด้านบน แต่ไม่ใช่ตัวเดียวกันแน่นอน และมีฝ่าตีนที่ใหญ่กว่า จึงน่าจะเป็นคนละพันธ์กัน.
อันนี้ก็น่าจะเป็นไดโนเสาร์แบบกินเนื้อ เพราะมีรอยเล็บ แต่มีฝ่าตีนที่แคบลงมานิด ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นอีกพันธ์หนึ่ง
อาจารย์ ดร.นเรศ กำลังบรรยายให้ฟังเกี่ยวกับริ้วคลื่น ที่เกิดจากการไหลของแม่น้ำ ให้ลูกทัวร์ฟัง
ในบริเวณนี้ เป็นบริเวณที่ค้นพบแร่ยูเรเนียมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เพียงแต่โชคร้ายนิดที่ ปริมาณแร่มีไม่มากพอที่จะผลิตได้ในเชิงพาณิชย์ การทำเหมืองแร่ยูเรเนียมก็ยังไม่ได้ทำจวบจนทุกวันนี้.