Waranon จีน เสฉวน เมือง Aba อุทยานมั่นซีถัง (Manzetang)
อุทยานแห่งชาติพื้นที่ชุ่มน้ำเฉียนวาน หรือบางทีก็เรียกในภาษาจีน ที่แปลว่า พื้นที่ชุ่มน้ำพันอ่าว ฟาร์มเทพนิยาย แต่ชื่ออย่างเป็นทางการคือ อุทยาน Manzetang และได้รับการจัดลำดับให้เป็นอุทยานท่องเที่ยวระดับ A4
อุทยานมั่นซีถัง Manzetang อยู่บนที่ราบสูงทิเบต ที่ความสูง 3,470 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ด้านมุมตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด อาบา Aba และอยู่ห่างจาก Aba ประมาณ 65 กิโลเมตร โดยทางรถยนตร์ขนาด 2 เลนส่วนกันได้
อุทยาน Manzetang นี้ มีพื้นที่รวม 165,874 เฮกตาร์ หรือประมาณ 1,658 ตารางกิโลเมตรและถือเป็นส่วนสำคัญของอุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติแม่น้ำเหลือง โดยผสมผสานความงามตามธรรมชาติ และ ความเป็นเลิศด้านมนุษยธรรมของแม่น้ำเหลือง เข้ากับเสฉวน ได้เป็นอย่างดี
รอบๆบริเวณพื้นที่ชมวิว Manzetang เป็นแหล่งนิเวศวิทยาที่สำคัญบริเวณต้นน้ำลำธารของแม่น้ำฮวงโห (Yellow river) พื้นที่ชุ่มน้ำทุ่งหญ้า แม่น้ำ Jinqu ที่คดเคี้ยว แบบแม่น้ำโค้งตระหวัด (Meandering channel) ได้ก่อตัวเป็นทางคดเคี้ยว ทะเลสาปรูปเขาวัว (Oxbow lake) ทะเลดอกไม้ ได้หล่อเลี้ยงพื้นที่ชุ่มฉ่ำน้ำในบริเวณที่ราบสูงทิเบต จนเป็นที่รู้จ้กกันในนาม ไตของโลก
เครือข่ายสีเขียวของทุ่งหญ้า และดอกหญ้านานาพันธ์ และสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่กระจัดกระจายของแม่น้ำและหนองบึง ได้กลายเป็สวรรค์ของสัตว์ป่า และนกหายาก
ในพื้นที่ชุ่มน้ำนี้ มีพันธ์ไม้ 1,123 ชนิด ได้แก่ เฟิร์น 33 ชนิด ต้นยิมโนสเปิร์ม 5 ชนิด และพืชดอก แองจิโอสเปิร์ม 1,085 ชนิด สัตว์ 226 ชนิด ได้แก่ ปลา 13 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 5 ชนิด สัตว์เลี้อยคลาน 4 ชนิด นก 166 ชนิด และ สัตว์เลียงลูกด้วยนม 38 ชนิด
นอกจากนี้ ยังเป็นสัตว์คุ้มครองที่สำคัญประจำชาติ ได้แก่ นกกระเรียนคอดำ นกกระเรียนขาว หงส์ใบ้ กวางฉลาดขาว อินทรีทองคำ และ ละมั่งทิเบต
นอกจากนี้ พื้นที่นี้ กองทัพแดง Red Long March เคยเดินทางข้ามทุ่งหญ้านี้ สามครั้ง สมัยมีการปฏิวัติทางการเมือง เมื่อรวมกับ แหล่งกำเนิดวัฒนธรรมชาติพันธ์บริเวณต้นน้ำลำธารของแม่น้ำฮวงโห มรดกทางวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ ประเพณีพื้นบ้านที่มีลักษณะเฉพาะ อันโดดเด่น แหล่งธรรมชาติที่สำคัญ บริเวณนี้จึงกลายเป็น 1 ใน 8 โซนมรดกอุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติแม่น้ำเหลือง
เนื่องจากข้าพเจ้า เป็นนักธรณีวิทยา ที่เป็นแล้วรักษาไม่หาย ก็มีความสงสัยอยู่สองสามประเด็นคือ หินแถวนี้เป็นหินอะไร แต่ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นหินอะไรสักอย่างที่ผุพังง่าย จนถูกกัดเซาะโดยน้ำ หิมะ น้ำแข็ง และแรงลมเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นภูมิทัศน์เขากลมๆ ปกคลุมด้วย ทุ่งหญ้า ซึ่งคำตอบได้มาจากบริเวณด้านหน้าของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Montzetang ซึ่งเขาเอารถแทรคเตอร์ไปตัดเนินเขา เผยให้เห็นหินแปร Metamorphic rock ประเภท Phyllite ที่มีส่วนประกอบของ แร่ Mica และ Metamophosed shale ที่ผุพัง มี Degreed of weathering ค่อนข้างสูง สีเดิมของหินน่าจะเป็นสีเทาเขียว แต่มีการผุพังเปลี่ยนสภาพเป็นสีน้ำตาลแดง
ความสงสัยเรื่องที่สองคือ ในเมื่อดินน้ำก็อุดมสมบูรณ์ ความหนาของหน้าดิน ไม่ใช่ปัญหา แต่ต้นไม้ยืนต้นใหญ่ๆทำไมไม่มี ข้าพเจ้าสัณนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพราะอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว อุณหภูมิอาจจะลดต่ำลงไปติดลบ ผสมกับ ความสูงของพื้นที่ที่ ตั้ง กว่าสามพันเมตร เหนือระดับน้ำทะเล ต้นไม้ยืนต้นคงไม่ค่อยชอบ และ อีกสาเหตุหนึ่งคือ ลมแรงมาก (เมื่อคืนนอนพักบนชั้นสามของโรงแรมในอุทยาน นอนฟังเสียงลมกระโชกแรงทั้งคืน จนคิดว่าถ้าข้าพเจ้า เป็นต้นไม้ ข้าพเจ้าก็คงยอมแพ้ แรงลมเหมือนกัน)
แต่ข้าพเจ้าก็แอบสังเกตเห็นว่ารัฐบาลจีน ก็มีการปลูกต้นไม้เพิ่ม ริมๆเนินเขา ตามทางที่รถวิ่งผ่านมาอยู่พอสมควร
ลักษณะเด่นทางธรรมชาติแบบนี้ น่าสนใจ จึงนับว่าเป็นสถานที่ที่น่ามาเยี่ยมชมกันน่ะครับ หากมีโอกาส และเวลาน่ะขอรับ
ป.ล. Google map ใช้ได้ไม่ค่อยดีนักในประเทศจีน ดังนั้น แน่ะนำให้โหลด app ชื่อ A Map เป็นของจีนมาใช้ จะค่อนข้างแม่ยำกว่า มี Update กว่าด้วยครับ
.
-------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/waranon555
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------
บทความ วรานนท์ หล้าพระบาง (Waranon Laprabang)
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------
พื้นที่ชุ่มน้ำนี้ มีสีสรรและบรรยากาศเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หญ้าเขียวๆ ในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ในฤดูใบไม้ร่วง และ จะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ในฤดูหนาว
บริเวณด้านบนซ้ายของรูป จะเป็นบริเวณที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน ถ้าเป็นภาษาคำเมืองแบบบ้านเดิมของข้าพเจ้า จะเรียกว่าสบ และ เพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติผู้น้อย เพราะชื่อของผู้น้อยจะหยุดอยู่เพียงนี้ ก็เลยเรียกบริเวณนั้นว่า สบ..แล้วตามด้วยชื่อของแม่น้ำสายเล็กกว่า เช่น ลำน้ำแม่ทา ที่มีขนาดเล็ก ไหลลงแม่น้ำกวง บริเวณนั้น ก็ถูกขนานนามว่า "สบทา" น่ะขอรับ
เนินเขาที่ถูกตัด เผยให้เห็น หิน Phyllite ซึ่งเป็นหินแปรชนิดหนึ่ง มีสภาพผุพังไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังแข็งแรงกว่าหินชนิดอื่นที่อยู่ข้างๆ ซึ่งถูกสายน้ำกัดเซาะไปจนหมดแล้ว
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ส่วนโรงแรมที่ข้าพเจ้าพักเมื่อคืน อยู่ชั้นสาม หลังที่อยู่ด้านขวามือของภาพนั่น รับลมเต็มๆ