4R แนวทางที่คนทำงานจะต้องเจอในอนาคต
ผู้ที่ทำงานฝ่ายบุคคล (Human Resource: HR) นอกจากจะคอยให้คำปรึกษาในการทำงานบุคลากรในองค์กร ตั้งแต่วันแรกที่สัมภาษณ์จนถึงวันสุดท้ายของการทำงาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ยังมีหน้าที่หลักๆ ของในงาน HR ที่เรียกว่า 3 R (Dew’s story, 2018) คือ Recruit รับสมัครพนักงาน Retain พัฒนา/ฝึกอบรม/ดูแลพนักงาน และ Retire รับผิดชอบการดูแลพนักงานในสุดท้ายของการทำงาน
ปัจจุบันจากการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวในสถานการณ์ทำงานยุคใหม่ ที่การทำงานจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่มีอย่างรวดเร็ว ทำให้การปรับตัวในสถานการณ์ทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีเทคโนโลยีและสภาพการทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันจึงมีการพูดถึง 4R แนวทางที่คนทำงานจะต้องเจอในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย Recruit, Retrain, Retain และ Retire ซึ่งทั้งสี่เรื่องนี้เป็นสิ่งคนวัยทำงานต้องเจอ โดยเฉพาะการทำงานโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานที่รวดเร็ว การมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆมากมายเข้ามาแทนที่งานที่ทำในปัจจุบันบางประเภท ทักษะที่เคยใช้ได้ในอดีตอาจไม่เพียงพอสำหรับอนาคต คนวัยทำงานจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
4R กับคนวัยทำงานในอนาคตชีวิตจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง หากไม่สามารถปรับตัวให้พร้อม ก็ยากในการทำงานหรืออาจไม่รอดจากกระแส Digital disruption ไปได้ การเรียนรู้ 4R เพื่อปรับตัวให้เท่าทันกับยุค New normal หากทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าใจในเรื่อง 4R ก็จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทำงานอยู่รอดและประสบความสำเร็จในอนาคต อธิบาย 4R แต่ละข้อโดยละเอียดพร้อมกับ ข้อดี ข้อเสีย และข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหา ได้ดังนี้
1. Recruit (สรรหาการรับคนเข้าทำงาน)
Recruit เป็นบุคลากรใหม่ที่องค์กรจำเป็นต้องเร่งการสรรหามักเกิดในกรณีที่องค์กรมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมาย เพื่อนำความรู้ใหม่ที่ยังไม่มี (New skill) มาเสริมต่อยอดในการทำงาน เพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ได้
ข้อดี
- หาพนักงานที่มีทักษะใหม่ๆ
- การรับคนเข้าทำงานใหม่ จะช่วยเพิ่มความหลากหลายและความกระตือรือร้นในทีมงาน
ข้อเสีย
- อาจใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายสูง
- อาจต้องใช้เวลาในการเริ่มต้นฝึกอบรมใหม่
ข้อเสนอแนะ
- พัฒนาช่องทางการสรรหา เสนอสวัสดิการที่ดึงดูดใจ
- จัดทำกระบวนการสรรหาและเลือกคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสม และมีความตั้งใจและสามารถปรับตัวต่อการทำงานของบริษัทได้
2. Retrain (ฝึกอบรมใหม่)
Retrain เป็นบุคลากรที่องค์กรได้ประเมินแล้ว ว่ามีความคุ้มค่ากว่าการจ้างบุคลากรใหม่ โดยจะให้ทำงานต่อไปพร้อมลงทุนพัฒนาทักษะที่จำเป็นและสำคัญผ่าน Reskilling & Upskilling
ข้อดี
- ช่วยพัฒนาทักษะพนักงานให้ทันสมัย
- ช่วยให้พนักงานปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน
ข้อเสีย
- อาจใช้เวลา และค่าใช้จ่าย
- อาจเกิดค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลาในการฝึกอบรมที่ต้องการ
ข้อเสนอแนะ
- ออกแบบโปรแกรมฝึกอบรมให้ตรงกับความต้องการของงาน สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้ด้วยตนเอง
- สร้างแผนการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการของบริษัทและพนักงาน
3. Retain (การรักษาบุคลากร)
Retain เป็นบุคคลากรเดิมที่บริษัทต้องเก็บไว้ เพราะมีทักษะการทำงานระดับสูงมีความสำคัญต่อองค์กรจึงควรต้องเก็บรักษาไว้ให้ทำงานต่อ
ข้อดี
- การรักษาบุคลากรช่วยให้บริษัทมีความเสถียรภาพ
- ความชำนาญของพนักงานที่มีประสบการณ์
- สามารถรักษาพนักงานที่มีประสบการณ์ทักษะและความรู้ ไม่ต้องมีการสอนงานใหม่
ข้อเสีย
- บุคลากรอาจเก่าแก่เกินไปไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
- อาจเกิดความเบื่อหน่ายและขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน
ข้อเสนอแนะ
- ให้บริษัทสร้างโอกาสให้พนักงานมีการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เช่น โปรแกรมการฝึกอบรมหรือโปรโมชั่นสำหรับการส่งเสริมความเชี่ยวชาญ
- บุคลากรในกลุ่มนี้จะต้องได้รับการพัฒนาทักษะพนักงานให้ทันสมัย ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
4. Retire (เกษียณอายุ)
Retire เป็นบุคลากรที่องค์กรต้องเลิกจ้าง เพื่อลดต้นทุนเนื่องจากมีทักษะไม่ตรงกับงานที่เปลี่ยนไป หรือมีต่ำกว่าที่องค์กรต้องการ หรือสามารถใช้เทคโนโลยีเข้าทำงานแทนที่ได้โดยมีผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ากว่า
ข้อดี
- เปิดโอกาสให้คนวัยใหม่เข้าทำงาน
- การเกษียณอายุเป็นโอกาสให้บริษัทปรับปรุงและเพิ่มพลังงานใหม่เข้ามาในองค์กร
ข้อเสีย
- สูญเสียพนักงานที่มีประสบการณ์
- สามารถสูญเสียความรู้และประสบการณ์ที่มีประโยชน์จากพนักงานที่เกษียณอายุได้
ข้อเสนอแนะ
- พัฒนาระบบรองรับการเกษียณอายุ ส่งเสริมให้คนวัยทำงานต่อหลังเกษียณ
- สร้างแผนการเกษียณอายุที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งบริษัทและพนักงาน เช่น โปรแกรมเกษียณอายุสุขภาพดี และโปรโมชั่นสำหรับการเกษียณอายุที่มีความน่าสนใจ
แนวทางการรับมือกับ 4R
ในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต การทำงานต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การรับมือกับโลกการทำงานยุค 4R มีหลายวิธี เช่น
- เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในงานที่มีตลอดเวลา
- การพัฒนาทักษะของตนให้มีความทันสมัย
- หมั่นใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ
- ขยันมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามา
- พยายามปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเสมออย่างรวดเร็ว
จากที่กล่าวมาจะพบว่า 4R เป็นสิ่งที่คนวัยทำงานทุกคนในองค์กร ต้องเผชิญจากการทำงานในอนาคต ทุกคนควรจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาทักษะ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ จะช่วยให้คนวัยทำงานอยู่รอดและประสบความสำเร็จในอนาคต
-------------------------------------------------
สนใจเรื่องราว การจัดการธุรกิจ (Business Management) เพิ่มเติมคลิกที่นี่
BA รวมเรื่องราวการจัดการธุรกิจ (Business Management)
HR บริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human resource management)
-------------------------------------------------