ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดย Generative AI Google
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเรามาโดยตลอด ซึ่ง AI แสดงศักยภาพที่โดดเด่นในหลายๆ ด้าน ด้วยความสามารถในการทำความเข้าใจ เรียนรู้ และตัดสินใจอย่างชาญฉลาดที่เป็นได้ตั้งแต่ voice assistant ระบบคำแนะนำ (Recommendation) ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ อย่างไรก็ตามขอบเขตของ AI ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การทำความเข้าใจและแนะนำข้อมูลเท่านั้น แต่กลับถูกพัฒนาสู่การกำเนิดของนวัตกรรม Generative AI
นวัตกรรม Generative AI
Generative AI จัดเป็นหนึ่งในประเภทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเป็น Subset ของ Deep Learning ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ๆ ผ่านการเรียนรู้จากข้อมูลการฝึกอบรม (Training data) จำนวนมหาศาล เปิดโอกาสการทำงานในด้านต่างๆ เพราะมันสามารถเรียนรู้ที่จะคาดเดาคำถัดไปในประโยค เช่น 'ขนมปังและ ___' มีแนวโน้มที่จะตามด้วย 'แยม' มากกว่า 'เครื่องบิน' ซึ่ง Generative AI ไม่ได้มีความสามารถเพียงสร้างข้อความใหม่เท่านั้น แต่ยังสร้าง รูปภาพ เสียง และวิดีโอได้อีกด้วย ต่างจากโมเดล AI แบบดั้งเดิมที่เน้นการวิเคราะห์และให้ Insight ของข้อมูล
Generative AI เป็น Subset ของ Deep Learning
Generative AI ทำงานอย่างไร ?
Generative AI ทำงานโดยใช้กลไกและเทคนิค Machine Learning ขั้นสูง เช่น การจำลองรูปแบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ (Deep learning) และเครือข่ายประสาทเทียมที่ยิ่งเราเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเท่าไหร่ความรู้เรื่องนั้นก็จะยิ่งแข็งแรงมากยิ่งขึ้น (Neural networks) เพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ให้คล้ายกับชุดข้อมูลที่เรากำหนด จากการเรียนรู้รูปแบบและลักษณะจาก Training data ช่วยสำรวจขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เสริมสร้างแรงบันดาลใจและกระบวนการคิด ครอบคลุมในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ศิลปะ การออกแบบ การเขียน และความบันเทิง เป็นต้น
โมเดล Generative AI สร้างเนื้อหาใหม่จากการเรียนรู้ข้อชุดมูลที่ถูกป้อนเข้ามา
หัวใจหลักของ Generative AI
ความก้าวหน้าของนวัตกรรม Generative AI ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการพัฒนาของ Large Language Models (LLMs) โดยเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อช่วยให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสร้างภาษาที่เป็นธรรมชาติได้ดีกว่าที่เคย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI หรือแม้แต่เขียนโค้ดเพื่อใช้งานด้วยขนาดของ Training data ที่ใหญ่มาก จะช่วยให้การสร้างข้อความมีความสอดคล้องกับความหมายที่ให้ไว้ใน Input
ตัวอย่างที่ถูกนำไปใช้งาน : การสร้าง Chatbot, การแปลภาษา, การแยกและสรุปข้อมูลจากข้อความ และการเขียนเรียงความ สร้างบทกวี เรื่องสั้น บล็อกโพสต์ และข้อความสร้างสรรค์อื่นๆ
Generative AI บน Google Cloud
Google Cloud ช่วยผลักดันนวัตกรรม Generative AI ผ่านการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและเครื่องมือบนแพลตฟอร์มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด พร้อมนำเสนอ 2 เครื่องมือที่โด่ดเด่นสำหรับการใช้งาน Generative AI ที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลของคุณ มอบ Interface ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ดังนี้
1 Generative AI บน Vertex AI
Google Cloud มุ่งมั่นที่จะทำให้ Generative AI สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทุกคน Vertex AI จึงเป็น Fully managed Machine Learning platform ที่ผู้ใช้สามารถฝึกฝน Deploy และจัดการ Monitoring ได้เองโดยไม่ต้องเจาะลึกเรื่องการเขียนโค้ดหรือด้านเทคนิคของการพัฒนาโมเดล เพราะ Vertex AI จะจัดสรรและปรับขนาดทรัพยากรตามความต้องการของ Workload อัตโนมัติ
2 Generative AI App Builder
เป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเหล่า Developer ในกระบวนการสร้างและ Deploy โมเดล Generative AI ได้ง่ายขึ้น เพื่อใช้งานในระดับองค์กร (Enterprise Grade) ด้วย Pre-built template ที่สร้างไว้ล่วงหน้าสำหรับงานทั่วไปอย่างการนำเข้าข้อมูลหรือการปรับแต่งอื่นๆ อาศัยการใช้โค้ดที่น้อยลง ทำให้ Developer สามารถสร้าง Interactive applications อย่าง Gen app ,Chatbot หรือ Application ใหม่ ๆ ที่สร้างเนื้อหาตาม Input ได้อย่างรวดเร็ว
.
ที่มา
ข้อมูลภาพ
- www.iok2u.com
---------------------------------
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) รวมข้อมูลทั้งหมด.
---------------------------------