1. เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) จีนจะต้องเป็นผู้นำโลกทางด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งหมายถึง ความอัจฉริยะในองค์ความรู้ที่สร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต โดยการรวบรวมหลายๆ สิ่งไว้ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ให้สามารถคิดและเป็นผู้ช่วยในด้านต่างๆ มีระบบคิด ระบบกระทำอย่างมีเหตุผลตามปัจจัยเหมือนมนุษย์ อาทิ ระบบนำทางรถยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์ที่มีความสามารถทำงานคล้ายกับมนุษย์ และระบบการทำงานต่างๆ ในสมาร์ทโฟน เป็นต้น ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าที่จะสร้างอุตสาหกรรม IT ที่มีรายได้รวมปีละหลายล้านหยวน รวมทั้งสร้างผลงานใหม่ที่สำคัญทางด้านเทคโนโลยี IT ภายในปี ๒๐๒๕ (พ.ศ.๒๕๖๘) และหวังที่จะเร่งพัฒนา AI ในเชิงพาณิชย์ในด้านต่างๆ ไม่เพียงแต่ในเรื่อง smart city แต่จะรวมไปถึงทางด้านการทหารด้วย
2. แนวทางหรือวิธีการดำเนินการ
2.1 กำหนดมาตรการลดหย่อนทางภาษี เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเฉพาะการกระตุ้นภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนการวิจัยไปสู่เป้าหมาย
2.2 สร้างนครอุตสาหกรรมทั่วประเทศสำหรับอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ และเพิ่มความเข้มข้นในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่ผลผลิตจากการวิจัย AI อีกทั้งจะผลักดันเทคโนโลยีฯ ให้แทรกซึมเข้าไปยังทุกภาคอุตสาหกรรม
2.3 การตั้งหน่วยงานคลังสมองด้าน AI ขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อให้รัฐบาลทุ่มงบประมาณในการวิจัยด้าน AI อย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญกับการผลิตผู้เชี่ยวชาญด้านสมองกลรุ่นใหม่ รวมทั้งร่างแผนพัฒนา AI ในยุคต่อไป บรรจุรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้าในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ตลอดจนวางแผนที่จะเพิ่มหลักสูตรดังกล่าวลงในสถาบันอาชีวะและสถาบันการศึกษาระดับสูงในจีน นอกจากนี้ จีนยังได้วางแผนสร้างความร่วมมือร่วมกับสถาบันชั้นนำทางด้าน AI ระดับนานาชาติอีกด้วย
2.4 เปิดตัวห้องปฏิบัติการวิจัย AI แห่งชาติเป็นแห่งแรกขึ้นในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (China University of Science and Technology /USTC) เพื่อเป็นศูนย์กลางการรวบรวมผู้มีความสามารถด้านการวิจัยชั้นนำของประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีสมองกล ซึ่งมีระบบประมวลผลที่เลียนแบบสมองมนุษย์
ภายใต้ความร่วมมือค้นคว้าวิจัยของสถาบันชั้นนำต่างๆ ทั่วจีน อาทิ มหาวิทยาลัยฟูตั้น, Shenyang Institute of Automation of the Chinese Academy of Science และ ไป่ตู้ เสิร์ชเอนจิ้นใหญ่ที่สุดของจีน
2.5 ให้ความสำคัญในการรับจดทะเบียนสิทธิบัตรด้าน AI
3. เครื่องมือในการดำเนินการ
3.1 ปัจจัยด้านการลงทุน โดยมีการลงทุน 3 อันดับแรก ได้แก่
(1) คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการดึงสารสนเทศจากรูปภาพหรือวีดิทัศน์ ในสัดส่วน 23%
(๒) การประมวลผลภาษาโดยธรรมชาติ (Natural Language Processing : NLP) ในสัดส่วน 19%
(๓) การขับขี่อัตโนมัติ ในสัดส่วน 18%
3.2 ปัจจัยด้านการวิจัย จากการประเมินปริมาณวิทยานิพนธ์ที่ได้รับการตีพิมพ์ พบว่า การวิจัยด้านเทคโนโลยี AI ของจีนได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว แผนการพัฒนเทคโนโลยี AI ของรัฐบาลจีนดึงดูดให้นักวิจัยชาวจีนในต่างประเทศกลับสู่ดินแดนมาตุภูมิ รวมถึงนักวิจัยจากทั่วทุกมุมโลกที่หลั่งไหลเข้ามาในจีน โดยเริ่มมองหาคนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ซึ่งเป็นคนต่างชาติ อย่าง อเมริกัน ญี่ปุ่น อินเดีย และอิสราเอล ที่มีองค์ความรู้ด้าน AI และพัฒนาด้านนี้มาก่อนจีน ด้วยการให้สิทธิพิเศษ เช่น ได้รับเงินก้นถุงล้านหยวน ได้วีซ่า ๑๐ ปี และสามารถครอบครองอสังหาฯ ได้ เป็นต้น