iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

โลกยุคบานี่ (BANI World)

 

ภายหลังจากการเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ขึ้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระทบต่อโลกมากมายอย่างที่หลายคนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าโลกในอนาคตใหม่ (New Normal) หลังจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร และจากที่เคยพูดถึงโลกยุควูก้า (VUCA World) หรือ โลกยุคที่มีความผันผวนว่าจะยังสามารถนำมาใช้อธิบายสภาพการณ์ของโลกในยุค New Normal นี้ได้อีกไหม

Jamais Cascio นักพฤติกรรมศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกาได้ไขปริศนาเรื่องนี้ ด้วยการนำเสนอรูปแบบใหม่ที่โลกในอนาคตหลังวิกฤติโควิดต้องพบเจอ และเรียกมันว่า โลกยุคบานี่ (BANI World) ปรากฏในข้อเขียนงานสัมมนาของ IFTF (Institute of the Future เป็น Think Tank หรือองค์กรเสนอความคิดต่อสังคม) 

โลกยุคบานี่ (BANI World) เป็นกรอบคิดที่พยายามทำการอธิบายและพยากรณ์โลกยุคใหม่ โดยเสนอแนวคิดว่าหลายสิ่งในโลกแตกสลายได้ง่าย และก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ความเปราะบางนี้มีผลต่อความมั่นคงขององค์กรต่างๆ โลกยุคบานี่จะช่วยให้ผู้คนมองโลกจากความเป็นจริง โอกาสที่จะเกิด การเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมพร้อมสำหรับโลกธุรกิจที่เปาะบางในอนาคตต่อไปได้ดีขึ้น

โลกยุคบานี่ (BANI World) ถูกคิดค้นโดย Jamais Cascio โดยต่อยอดจากแนวคิดทางสังคมวิทยา Liquid Modernity ที่กล่าวว่าทุกอย่างเป็นการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหลที่คลุมเคลือไม่แน่นอน ลักษณะของ BANI ประกอบด้วย

Brittle เป็นโลกที่เปราะบาง หมายถึง แทบทุกอย่าง มาเร็วไปเร็ว ความสำเร็จในโลกธุรกิจหลายตัวไม่อาจอยู่คงทนถาวร แถมยังแตกหักได้ง่าย อาจถูก disrupt ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี รูปแบบธุรกิจ ฯลฯ
ตัวอย่างเช่น แม้ว่าตอนนี้ blockchain กำลังมาแรง แต่หากมีเทคฯ ที่ดีกว่าที่พร้อมใช้งานได้จริงทันที (หรือแม้แต่ ควอนตัมคอมพิวเตอร์) ระบบทั้งหมดก็อาจจะจบทันที หรือ ก่อนหน้านี้ธุรกิจร้านซักผ้าอัตโนมัติอาจจะกำลังมาแรง จนมีเฟรนำชส์ ขยายสาขาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเกิดโรคระบาด ก็อาจเปลี่ยนพฤติกรรมคนให้กลัวที่จะใช้บริการนี้ ร่วมกันกับคนอื่นๆไปเลยก็เป็นได้

Anxiety-inducing หรือ Anxious เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความกังวล เพราะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ทุกทางเลือกอาจจะไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง สามารถล้มเหลวได้ อาจทำให้เกิดความลังเล ชะงักงัน ไม่กล้าตัดสินใจ หรือ ความสิ้นหวัง หรือ ภาวะ learn helplessness เพราะพลาดอยู่เรื่อยๆได้ง่าย

Nonlinear หรือ เป็นโลกที่ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ไม่เป็นเส้นตรง เหตุและผล อาจไม่แปรผันตามกันชัดเจนเหมือนเดิม มีปัจจัยแทรกซ้อน ตัวแปร สถานการณ์อื่นๆ มาส่งผลกระทบแบบที่เราไม่รู้ หรือ ส่งผลล่าช้า ดีเลย์ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ หรือ ทำนายได้ ระบบตรรกะแบบเดิมๆ อาจถูกทำให้รวนได้

ตัวอย่างง่ายๆ ที่สุด คือ วิกฤตโรคระบาดนี้เลยครับ ที่เราพยายามคาดการณ์หลายที ว่าจะจบช่วงนั้นช่วงนี้ เพราะ ยึดหลักระบาดวิทยา และตามหลักเราควรสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในปีแรกเลย แต่ทว่า....ก็เป็นอย่างที่เราเห็นนั่นแหละครับ

Incomprehensible หรือ โลกที่เข้าใจได้ยาก คือ มันจะมีความซับซ้อน บางครั้งการใช้ data มาช่วยอาจทำได้ยากเกิดปัญหา "ข้อมูลท่วม" (Information Overload)

 

BANI เป็นมากกว่าสถานการณ์ผันผวน,ไม่แน่นอน,ซับซ้อน,คลุมเครือ เป็นการกระทบด้านอารมณ์ของคนด้วย เช่น ความกังวล, ความหดหู่, ความสับสน เป็นต้น

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward