เทคนิคการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการชุมชน ด้วยเครื่องมือ SCAMPER Model
SCAMPER เป็นเทคนิคการสร้างความคิดใหม่ เป็นเครื่องมือ/เทคนิคขั้นต้นแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชุมชน นักออกแบบ และผู้ที่สนใจใน เทคนิคการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ โดยจุดเด่นของวิธีการนี้คือ การตั้งคำถามเพื่อค้นหาคำตอบ Solutions
ซึ่งการใช้ SCAMPER จะทำให้ได้ไอเดียใหม่ แนวทางใหม่ หรือสินค้าบริการใหม่ขึ้นมา เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นโดย อเล็กซ์ ออสบอร์น (Alex Osborn) เป็นคำย่อจาก 7 คำสำคัญ ดังนี้
S = Substitute (การทดแทน) การหาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ มาทดแทนผลิตภัณฑ์เดิมที่มีปัญหาหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น
C = Combine (ผสมผสาน) เป็นการนำสิ่งสองสิ่งหรือมากกว่ามารวมกัน เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นที่แตกต่างไปจากเดิม เกิดประโยชน์และหน้าที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น หรือรวมกันอยู่ในชิ้นเดียวได้
A = Adapt (การปรับใช้) ผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการส่วนใดที่สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขเพื่อลบจุดอ่อนและเพิ่มโอกาสให้สินค้าบริการดียิ่งขึ้นได้บ้าง
M = Modify/Magnify/Minify (การปรับปรุง/ขยาย/ลด) ผลิตภัณฑ์สามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเพิ่มหรือลดคุณสมบัติส่วนไหนได้บ้าง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
P = Put to Other Uses (การประยุกต์ใช้) เป็นการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ไปใช้ประโยชน์ให้เข้ากับสิ่งอื่น
E = Eliminate (การตัดทิ้ง/การขจัดออก) การตัดบางส่วนของผลิตภัณฑ์ออกเพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นหรือสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงของผลิตภัณฑ์บางอย่างให้รูปลักษณ์ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
R = Rearrange/Reverse (การเรียงใหม่) เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการใหม่หรือย้อนปรับกระบวนการ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม
นักออกแบบ และผู้ที่สนใจในเทคนิคการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อาจนำเทคนิค SCAMPER นี้ไปใช้ตั้งคำถามกับสิ่งที่กำลังทำอยู่เพื่อค้นหาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้ปฏิบัติงานในการให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชุมชนในการแก้ไขปัญหาให้สามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่แตกต่างไปจากเดิม และเกิดเป็นนวัตกรรมได้ เพื่อให้แนวคิดของผู้สร้างสรรค์ผลงานสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้งานง่ายและก่อให้เกิดประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
----------------------------------------------------------
ที่มา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIP)