Marketing การทำตลาดยุคใหม่ 4P ที่ต้องปรับเปลี่ยนไปในยุคการขายออนไลน์และการตลาดดิจิทัล
นักการตลาดในอดีตที่ผ่านมาทุกคนคงรู้จักและคุ้นเคยกับกลยุทธ์การทำการตลาดแบบ 4P ที่ประกอบด้วย สินค้า (Product ) ราคา (Price) สถานที่ (Place) และโปรโมชัน (Promotion) เป็นอย่างดี หากถามว่าในปัจจุบันการค้าขายหลายส่วนมีการเปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีการขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น นักการตลาดอาจไม่สามารถทำการตลาดอย่างเดิมหรือที่มักเรียกกันว่าแบบออฟไลน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากถามว่านักการตลาดต้องอาศัยแนวคิด 4P มาวางแผนได้อีกไหมหรือควรเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คงกล่าวได้ว่าการตลาดในปัจจุบันแม้จะมีการเพิ่มช่องทางการขายที่เป็นออนไลน์มากขึ้น แต่หลักการ 4P นั้นยังสามารถนำมาใช้ได้แต่ควรเพิ่มการปรับเพิ่มในรายละเอียดบางส่วนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป คือ
Product (สินค้า) ในการดำเนินธุรกิจการขายออนไลน์ เราไม่จำเป็นต้องกำหนดหรือเลือกว่าจะขายสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะการขายออนไลน์ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยพื้นที่ สถานที่ การสต็อกสินค้า หรือจำนวนในการวางสินค้า ทำให้ผู้ขายสามารถแสดงสินค้าที่จะขายได้จำนวนมากมายไม่มีที่สิ้นสุด โดยอาจมีความหลากหลายมากกว่ากว่าการวางขายของที่ร้านแบบออฟไลน์ การจำกัดการขายสินค้าเพียงจำนวนจำกัดชนิดหรือเพียงอย่างเดียว จะเป็นการตัดโอกาสทางการขายสินค้าของเราไปด้วย ผู้ขายออนไลน์ควรทำการกำหนดสินค้าให้เป็นไปตามแผนการตลาดที่มีการกำหนดเป้าหมาย หรือตำแหน่งทางการตลาดของร้านในรูปแบบที่ไม่มีขีดจำกัด เน้นการส้รางความแตกต่างชวนให้ติดตามค้นหา โดยเข้าถึงอารมณ์หรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มากที่สุด
Price (ราคา) ในการขายของออนไลน์นั้น การเปรียบเทียบราคาจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะลูกค้าสามารถหาข้อมูลสินค้าจากหลายแห่งเพื่อนำมาทำการเปรียบเทียบได้โดยง่าย ดังนั้นนอกจากการคำนวณเรื่องต้นทุนกำไรที่เหมาะสมแล้วก่อนที่จะทำการกำหนดราคาสินค้า ผู้ขายควรสืบค้นและสำรวจราคาสินค้าในตลาดออนไลน์ก่อนที่จะทำการกำหนดขาย แม้ว่าเราอาจจะไม่จำเป็นต้องกำหนดให้ราคาสินค้าของเราถูกที่สุด แต่ก็ควรที่จะต้องกำหนดให้สินค้าของเรามีราคาที่เหมาะสมไม่แพงมากเกินไป ควร กำหนดราคาที่สมเหตุสมผลกับคุณภาพของสินค้านั้น ให้เกิดการยอมรับได้ทั้งในด้านของผู้ซื้อที่ยอมจ่ายและผู้ขายที่มีกำไร หากเมื่อไรที่เราจำเป็นต้องตั้งราคาที่สูงกว่าร้านอื่น เราจะต้องสามารถให้เหตุผลและข้อมูลถึงคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับว่าจะมีมากกว่าอย่างไร อาจต้องทำเป็นเรื่องการอธิบายคุณภาพของส่วนที่ต่างให้ชัดเจน เช่น การให้บริการหลังการขาย
Place (สถานที่) ปัจจุบันสถานที่ขายสินค้าในโลกออนไลน์นั้น จะมีอยู่ทุกที่ทุกเวลาไม่จำเป็นต้องไปผูกติดหรือยึดโยงกับสถานที่ตำแหน่งในพื้นโลก แต่จะเกิดจากการเข้าใช้งานผ่านช่องทางโปรแกรมหรือระบบที่เรามักเรียกว่า แพลตฟอร์ม (Platform) ซึ่งการขายออนไลน์นั้นมีระบบใช้ในการขายมากมายอยู่หลากหลายช่องทาง นักการตลาดที่ดีจะต้องเลือกการแพลตฟอร์มที่ใช้ให้เหมาะสม โดยการตัดสินใจเลือกอาจดูจาก กลุ่มลูกค้าหรือเป้าหมายที่สนใจ ว่าเขาใช้อะไรกันเป็นส่วนใหญ่ เลือกระบบที่มีความง่ายในการใช้งานและมีความปลอดภัยน่าเชื่อถือ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงและการขายที่ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีลูกค้าใช้งานอยู่มาก
Promotion (การโปรโมชั่น) การจัดประชาสัมพันธ์หรือรูปแบบในการโปรโมตสินค้าในระบบออนไลน์ สามารถทำได้หลายรูปทั้งนี้มักจะแบบขึ้นอยู่กับระบบหรือแพลตฟอร์มที่เราใช้ เนื่องจากในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีความสามารถและเงื่อนไขในการทำงานที่แตกต่างกัน การโปรโมตสินค้าในด้านออนไลน์นั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การยิงโฆษณาโดยการซื้อตำแหน่งแสดงแอด การผลิตเนื้อหาเรื่องราวหรือคอนเทนต์ที่โดนใจตลาดเพื่อบอกเล่าเรื่องราวสินค้า (Storytelling) หรือการส่งเสริมการขายด้วยราคาหรือการแจกแถม เป็นต้น สิ่งสำคัญที่สุดในส่วนนี้ คือ การวางกลยุทธ์ในการที่จะทำการโปรโมตสินค้าให้เข้าถึงและตรงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด การเลือกขายสินค้าประเภทที่แยกตามกลุ่มลูกค้าเช่น อายุ จะช่วยในการจัดทำคอนเทนต์แนะนำที่เหมาะสมตามวัยและง่ายดายในการเข้าถึง
.
-------------------------------------------------
สนใจเรื่องราวเพิ่มเติมคลิกที่นี่
การตลาด (Marketing) รวมข้อมูลเพิ่มเติม
-------------------------------------------------