ผู้จัดการมรดก มีอำนาจขายทรัพย์มรดกได้หรือไม่
ผู้จัดการมรดก สามารถขายที่ดินได้ไหม
การจัดการทรัพย์มรดกของผู้ตาย กฎหมายกำหนดให้ ผู้จัดการมรดก ตามกฎหมายเท่านั้น ที่จะเป็นคนจัดการทรัพย์มรดกของผู้ตาย แต่ก็จะมีปัญหาที่มักจะถามกันเข้ามาว่า ถ้ามีทรัพย์มรดกเป็นที่ดิน ผู้จัดการมรดกสามารถขายที่ดินได้ไหม
การจัดการมรดก คืออะไร
การจัดการมรดก คือ หน้าที่ตามกฎหมายของ ผู้จัดการมรดก ที่จะต้องติดตามรวบรวมทรัพย์มรดก เพื่อแบ่งให้แก่ทายาท ไม่ว่าจะเป็นทายาทตามกฎหมายหรือตามพินัยกรรม รวมถึงการชำระหนี้ การจัดทำบัญชีทรัพย์มรดก หรือการเรียกประชุมทายาท คือ การเอาทรัพย์สินของเจ้ามรดกมาแบ่งให้แก่ทายาท ไม่ว่าจะแบ่งที่ตัวทรัพย์เลยหรือจะเป็นการขายทรัพย์มรดกแล้วเอาเงินมาแบ่ง
ผู้จัดการมรดก มีอำนาจขายทรัพย์มรดกได้หรือไม่
ตามกฎหมายไทย ผู้จัดการมรดก มีอำนาจขายทรัพย์มรดกได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากทายาททุกคน แต่ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกองมรดก เป็นไปเพื่อการแบ่งทรัพย์มรดกให้กับทายาท และได้รับความเห็นชอบจากทายาทส่วนใหญ่ หากเป็นไปโดยไม่สุจริตก็ถือว่าเป็นการกระทำนอกหน้าที่ไม่มีผลผูกพันทายาทคนอื่น
กรณีที่ทำได้
- ผู้จัดการมรดก มีอำนาจขายทรัพย์มรดกได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากทายาททุกคน สามารถขายได้เมื่อเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกองมรดก เช่น เพื่อการแบ่งทรัพย์มรดกให้กับทายาท และได้รับความเห็นชอบจากทายาทส่วนใหญ่
- กรณีที่ทรัพย์มรดกแบ่งกันได้ยาก เช่น รถยนต์ บ้านพร้อมที่ดิน ผู้จัดการมรดกสามารถขาย เพื่อนำเงินมาแบ่งปันให้กับทายาทได้
กฎหมายให้อำนาจผู้จัดการมรดกในการดำเนินการแบ่งทรัพย์มรดก รวมถึงการขายทรัพย์มรดก เพื่อนำเงินมาแบ่งให้กับทายาท
กรณีที่ทำไม่ได้
- หากการขายทรัพย์มรดกเป็นไปโดยไม่สุจริต เช่น ขายในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง
- สมรู้ร่วมคิดกับผู้ซื้อ หรือฝ่าฝืนมติของทายาทส่วนใหญ่ จะถือว่าเป็นการกระทำนอกหน้าที่ และไม่มีผลผูกพันทายาทคนอื่น
- การขายต้องไม่เป็นไปในลักษณะของการฝาก หรือมีพฤติการณ์พิเศษอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการมรดกหรือผู้ซื้อไม่สุจริต
ถ้ามีทรัพย์มรดกที่เป็นที่ดิน ผู้จัดการมรดก ขายที่ดินได้ถ้าการขายนั้นเป็นการขาย เพื่อนำเงินมาแบ่งให้กับทายาทก็เท่ากับว่าเป็นการจัดการมรดกอย่างหนึ่ง จึงสามารถทำได้โดยที่อาจไม่ต้องได้รับความยินยอมจากทายาททุกคนก็ได้ แต่ถ้าขายที่ดินเพื่อเอาเงินมาเป็นของตัวเองคนเดียว หรือทำผิดวิธีส่อให้เป็นการทุจริตก็จะเข้าข่ายเป็น ความผิดฐาน ผู้จัดการมรดก ยักยอกทรัพย์มรดก ซึ่งเป็นความผิดอาญาเข้าข่ายผิดกฎหมายซึ่งมีโทษจำคุก แถมยังอาจถูกกำจัดไม่ให้รับมรดกอีกด้วย ซึ่งทายาทก็จะต้องไปว่ากล่าวเป็นคดีต่างหากต่อไป
การขายที่ดินตามมติที่ประชุมทายาท
ในการจัดการมรดก จะต้องมีขั้นตอนก่อนที่ ผู้จัดการมรดก จะไปทำสิ่งต่างๆ ได้ ก็คือ การประชุมทายาท ซึ่งก็ คือ การที่ทายาทที่มีสิทธิได้รับมรดกมาประชุมกัน เพื่อตกลงเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการมรดกหรือการแบ่งทรัพย์มรดก ซึ่งในที่ประชุมก็จะมีการตกลงและลงมติกันว่าทรัพย์มรดกจะจัดการยังไง จะแบ่งกันแบบไหน
ประเด็นเรื่องการขายที่ดิน
ถ้าที่ประชุมทายาทลงมติให้ขายที่ดินแล้วนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน แบบนี้ผู้จัดการมรดกก็สามารถขายที่ดินได้เลย ถ้าใครจะมาโต้แย้งหรือกล่าวหาอะไร ก็เอาบันทึกการประชุมทายาทมาใช้ยันได้เลยว่าผู้จัดการมรดกทำตามมติของที่ประชุมนั่นเอง แต่ถ้าไม่มีมติที่ประชุมทายาท หรือมีแต่ไม่ได้มีมติให้ขาย แล้วผู้จัดการมรดกฝ่าฝืนไปขาย ก็อาจเข้าข่ายกรณีผู้จัดการมรดกยักยอกทรัพย์มรดก ซึ่งก็จะต้องไปว่ากล่าวเป็นคดีต่างหากต่อไปเช่นกัน
สรุป
ผู้จัดการมรดก มีอำนาจขายทรัพย์มรดกได้ แต่ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกองมรดก เป็นไปเพื่อการแบ่งทรัพย์มรดกให้กับทายาท และได้รับความเห็นชอบจากทายาทส่วนใหญ่ หากเป็นไปโดยไม่สุจริต ก็ถือว่าเป็นการกระทำนอกหน้าที่ ไม่มีผลผูกพันทายาทคนอื่น
ใครที่เป็น ผู้จัดการมรดก หรือกำลังจะเป็นผู้จัดการมรดก ก็จะต้องระวังไว้ให้ดี หากไม่มั่นใจก็ควรปรึกษาทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย ก่อนไปดำเนินการจะดีที่สุดถ้าไปทำอะไรเองแล้วเกิดพลาดขึ้นมาก็ต้องรับผลซึ่งเป็นความผิดอาญาเข้าข่ายผิดกฎหมายซึ่งมีโทษจำคุก แถมยังอาจถูกกำจัดไม่ให้รับมรดกอีกด้วย
.
-------------------------
ที่มา
-
รวบรวมข้อมูลและรูป
-------------------------