iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

วิธีแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้อง ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ต้องขายหรือแบ่งกรรมสิทธิ์

 

การแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้องหลายคน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อต้องการให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ไม่ต้องการขายที่ดินหรือแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัวได้ ดังนั้น การหาวิธีจัดการที่ดินอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้อง โดยให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ไม่สามารถขายที่ดินหรือมีสิทธิในทรัพย์สินได้ แนวทางที่เหมาะสมคือการจัดตั้งสัญญาการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน หรือ สัญญาเช่าที่ดินระหว่างพี่น้อง มีหลายวิธีในการแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้อง

การแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้องหลายคน เป็นเรื่องที่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะหากต้องการให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์จากที่ดินร่วมกัน แต่ไม่มีสิทธิขายหรือถือกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งและรักษาที่ดินให้เป็นของตระกูลตลอดไป แนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้ เช่น

1. ทำสัญญาใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน (Co-ownership Agreement)

การทำสัญญาใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน โดยที่ดินยังคงเป็นทรัพย์สินส่วนกลางที่ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ต้องแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ จัดตั้งเป็นกองมรดกหรือกองทรัสต์ ใช้แนวทาง "กองมรดก" (Estate Holding) หรือ "กองทรัสต์" (Trust) กำหนดว่าที่ดินเป็นทรัพย์สินของกองมรดก และพี่น้องทุกคนเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ ระบุเงื่อนไขว่าไม่สามารถขายหรือแบ่งแยกที่ดิน เว้นแต่ทุกฝ่ายตกลงร่วมกัน ตั้งผู้จัดการกองมรดกหรือผู้ดูแลทรัสต์เพื่อบริหารที่ดินและแบ่งผลประโยชน์

วัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันข้อพิพาทในอนาคต โดยกำหนดสิทธิในการใช้ประโยชน์จากที่ดินร่วมกัน โดยไม่ต้องแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ข้อดี

- ช่วยป้องกันความขัดแย้งในครอบครัว

- สร้างความชัดเจนในสิทธิและหน้าที่ของแต่ละคน

- ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างเท่าเทียม

- ไม่ต้องขายหรือแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

- สามารถกำหนดกฎเกณฑ์การใช้ที่ดินร่วมกันได้

- สามารถทำได้ง่ายกว่าการแบ่งแยกโฉนด

- ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรังวัดและแบ่งแยกโฉนด

- สามารถกำหนดสัดส่วนการใช้ประโยชน์และผลประโยชน์ในที่ดินร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่น

ข้อเสีย

- อาจต้องมีการทำสัญญาที่ซับซ้อนและรัดกุม

- เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งในอนาคต

- หากพี่น้องคนใดต้องการขายที่ดินส่วนของตนเอง

- อาจต้องได้รับความยินยอมจากพี่น้องคนอื่นๆ ก่อน

วิธีการ

- โดยระบุให้ที่ดินเป็นทรัพย์สินส่วนกลางที่ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์ร่วมกัน จะถือครองกรรมสิทธิ์ร่วมกันในโฉนดที่ดินให้ทำ "สัญญาใช้สิทธิร่วมกัน"

- ระบุว่าแต่ละคนมีสิทธิได้รับผลประโยชน์จากที่ดิน เช่น ค่าเช่า แต่ไม่มีสิทธิขายหรือแบ่งกรรมสิทธิ์

- กำหนดห้ามขายที่ดินโดยเด็ดขาด

- รายได้จากที่ดิน เช่น ค่าเช่า จะถูกแบ่งให้พี่น้องตามสัดส่วนที่ตกลงกัน

- ทำพินัยกรรมหรือข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุสิทธิและหน้าที่ของพี่น้องแต่ละคน

- แต่งตั้งผู้จัดการเพื่อดูแลและบริหารทรัพย์สิน หาวิธีการบริหารและใช้ประโยชน์จากที่ดินให้เกิดรายได้ร่วมกัน

- กำหนดกฎเกณฑ์การใช้ที่ดิน เช่น การแบ่งพื้นที่ใช้สอย การแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดจากที่ดิน (เช่น การปลูกพืชหรือให้เช่า)

- กำหนดกฎเกณฑ์ว่าหากมีผู้ใดต้องการออกจากข้อตกลง จะต้องขายสิทธิให้พี่น้องที่เหลือก่อน

- ระบุวิธีการจัดการกรณีเกิดข้อพิพาท

- ควรมีพยานและจดทะเบียนกับสำนักงานที่ดินเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย

2. จัดตั้งนิติบุคคลเพื่อจัดการที่ดิน 

การจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อจัดการที่ดิน การตั้งเป็นนิติบุคคล เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัท หรือบริษัทจำกัด เพื่อเป็นเจ้าของที่ดินและบริหารจัดการแทนพี่น้องทุกคน และโอนที่ดินให้เป็นทรัพย์สินของนิติบุคคล วิธีนี้ช่วยให้ที่ดินเป็นทรัพย์สินขององค์กรแทนบุคคล และสามารถกำหนดข้อบังคับภายในได้ กำหนดให้พี่น้องเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น วางข้อบังคับหรือเงื่อนไขในสัญญาบริษัทว่าห้ามขายที่ดิน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากทุกคน ผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ที่ดิน เช่น ค่าเช่า สามารถแบ่งตามสัดส่วนหุ้น

วัตถุประสงค์ เพื่อให้มีหน่วยงานกลางมาดูแลและบริหารที่ดินแทนพี่น้องทุกคน

ข้อดี

- มีหน่วยงานกลางมาดูแลและบริหารที่ดินอย่างเป็นระบบ

- ผลประโยชน์ที่ได้จากที่ดินสามารถแบ่งปันตามสัดส่วนที่ตกลงกัน

- ลดความเสี่ยงในการเกิดข้อพิพาท

- เหมาะสำหรับที่ดินที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง

- สามารถบริหารจัดการที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปแบบของเงินปันผลได้

ข้อเสีย

- อาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งและบริหารจัดการบริษัท

- อาจต้องมีการทำข้อตกลงที่ซับซ้อนระหว่างผู้ถือหุ้น

วิธีการควรมีรายละเอียดประกอบด้วย

- จัดตั้งนิติบุคคล เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัท หรือบริษัทจำกัด เพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน

- พี่น้องทุกคนเป็นผู้ถือหุ้นหรือมีสิทธิในการบริหารร่วมกัน

- ผลประโยชน์ที่ได้จากที่ดิน เช่น ค่าเช่า หรือรายได้ที่มี แบ่งให้พี่น้องตามสัดส่วนหุ้นที่ตกลงกัน

- กำหนดห้ามขายที่ดิน เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากทุกคน

- การสืบทอดกรรมสิทธิ์ของหุ้นสามารถกำหนดให้ตกทอดแก่ทายาทได้

3. จัดตั้งมูลนิธิ (Foundation) เพื่อจัดการที่ดิน

การโอนที่ดินให้เป็นมูลนิธิ (Foundation) ตั้งมูลนิธิครอบครัว และโอนที่ดินให้มูลนิธิเป็นเจ้าของ กำหนดวัตถุประสงค์ของมูลนิธิให้ชัดเจนว่าใช้ที่ดินเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้อง เช่น ให้เช่าและนำรายได้มาแบ่งกัน ระบุในข้อบังคับว่าห้ามขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน หากต้องการให้ที่ดินอยู่ในครอบครัวตลอดไปโดยไม่มีการขาย สามารถโอนที่ดินให้เป็นมูลนิธิครอบครัว และกำหนดให้พี่น้องเป็นคณะกรรมการมูลนิธิ

วัตถุประสงค์ เพื่อให้มีหน่วยงานกลางมาดูแลและบริหารที่ดินแทนพี่น้องทุกคน

ข้อดี

- ที่ดินจะกลายเป็นสมบัติของมูลนิธิ ไม่สามารถขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ได้
- มีหน่วยงานกลางมาดูแลและบริหารที่ดินอย่างเป็นระบบ
- สามารถบริหารจัดการที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปแบบของเงินปันผลได้
- รายได้จากที่ดิน เช่น ค่าเช่า นำมาใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกครอบครัว ผลประโยชน์ที่ได้จากที่ดินสามารถแบ่งปันตามสัดส่วนที่ตกลงกัน
- ลดความเสี่ยงในการเกิดข้อพิพาท
- สามารถกำหนดให้ทายาทรุ่นต่อไปบริหารมูลนิธิต่อไปได้

ข้อเสีย

- อาจต้องมีการทำข้อตกลงที่ซับซ้อน

วิธีการ

- จัดตั้งมูลนิธิเพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน

- พี่น้องทุกคนเป็นผู้ถือหุ้นหรือมีสิทธิในการบริหารร่วมกัน

- ผลประโยชน์ที่ได้จากที่ดิน เช่น ค่าเช่า หรือรายได้ที่มี แบ่งให้พี่น้องตามสัดส่วนหุ้นที่ตกลงกัน

- กำหนดห้ามขายที่ดิน เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากทุกคน

- การสืบทอดกรรมสิทธิ์ของหุ้นสามารถกำหนดให้ตกทอดแก่ทายาทได้

4. ทำสัญญาเช่าที่ดินระหว่างพี่น้อง

ทำสัญญาเช่าที่ดินระหว่างพี่น้อง ตั้งเป็นสัญญาให้เช่าระยะยาว หากที่ดินมีศักยภาพในการใช้ประโยชน์ เช่น การให้เช่าทำเกษตรกรรมหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาจทำ สัญญาเช่าระยะยาว และนำรายได้มาแบ่งกัน ระบุในสัญญาว่าทุกคนจะได้รับผลประโยชน์จากค่าเช่า แต่ไม่มีสิทธิขาย หากไม่ต้องการแบ่งกรรมสิทธิ์ แต่ต้องการให้ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์จากที่ดิน การทำ “สัญญาเช่าที่ดินระหว่างพี่น้อง” ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ

หรือการทำเป็นสัญญาให้เช่าระยะยาว หากต้องการให้พี่น้องได้รับผลประโยชน์จากที่ดินโดยไม่มีการขาย สามารถทำ สัญญาเช่าระยะยาว กับบุคคลภายนอกหรือบริษัท และนำรายได้มาแบ่งกัน โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขว่า ค่าเช่าจะถูกแบ่งให้พี่น้องตามสัดส่วน ห้ามโอนสิทธิในที่ดินให้บุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากทุกคน ที่ดินยังเป็นของครอบครัวโดยไม่ถูกแบ่งขาย

วัตถุประสงค์ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์จากที่ดินโดยไม่ต้องแบ่งกรรมสิทธิ์

ข้อดี

- ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์จากที่ดินโดยไม่ต้องแบ่งกรรมสิทธิ์

- สามารถกำหนดค่าเช่าและเงื่อนไขการใช้ที่ดินได้อย่างชัดเจน

วิธีการ

- เจ้าของที่ดิน (อาจเป็นผู้รับมรดกคนใดคนหนึ่งหรือทุกคนร่วมกัน) ทำสัญญาเช่ากับพี่น้องคนอื่น

- กำหนดค่าเช่าและเงื่อนไขการใช้ที่ดินอย่างชัดเจน

- ผลประโยชน์จากที่ดินสามารถแบ่งปันตามสัดส่วนที่ตกลงกัน

เพื่อป้องกันข้อพิพาทในอนาคต การทำพินัยกรรมหรือข้อตกลงร่วมกัน เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยวิธีแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้อง ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ต้องขายหรือแบ่งกรรมสิทธิ์ จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า การแบ่งมรดกที่ดินให้พี่น้องโดยให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน มีหลายวิธี โดยไม่จำเป็นต้องขายหรือแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินเสมอไป การทำสัญญาใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน จัดตั้งนิติบุคคล จัดตั้งเป็นมูลนิธิ หรือทำสัญญาเช่า เป็นวิธีที่ช่วยให้ทุกคนได้รับประโยชน์อย่างเป็นธรรม และลดความเสี่ยงในการเกิดข้อพิพาท

นอกจากนั้นยังมีวิธีการจัดการมรดกที่อีกหลายแบบ แต่อาจจะไม่สามารถรักษามรดกได้เพราะหลังจากดำเนินการไปแล้ว ผู้รับมอบมรดกอาจมีการขายที่ดินหรือแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ไปเลย เช่น

1. การแบ่งมรดกที่ดินโดยการแบ่งแยกโฉนด

ข้อดี

เป็นวิธีที่ชัดเจนที่สุด ทุกคนได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนของตนเองอย่างชัดเจน สามารถจัดการที่ดินส่วนของตนได้ตามต้องการ

ข้อเสีย

อาจมีค่าใช้จ่ายในการรังวัดและแบ่งแยกโฉนด หากที่ดินมีขนาดเล็กหรือไม่สามารถแบ่งแยกได้ลงตัว อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพี่น้องได้

2. การให้พี่น้องคนใดคนหนึ่งเป็นผู้จัดการมรดก

ข้อดี

สามารถลดความขัดแย้งระหว่างพี่น้องได้ สามารถบริหารจัดการที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย

พี่น้องคนอื่นๆ อาจไม่ไว้วางใจผู้จัดการมรดก อาจต้องมีการทำข้อตกลงที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดก

แนวทางที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของครอบครัว หากต้องการให้ที่ดินคงอยู่และสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน การตั้งเป็นนิติบุคคลหรือมูลนิธิเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้การบริหารเป็นระบบและป้องกันปัญหาความขัดแย้งในอนาคต หากต้องการดำเนินการตามแนวทางเหล่านี้ ควรปรึกษาทนายความเพื่อให้มั่นใจว่าถูกต้องตามกฎหมายไทยและสอดคล้องกับความต้องการของครอบครัว

ข้อควรระวัง

- ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง การแบ่งมรดกที่ดินอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ควรพิจารณาถึงความรู้สึกและความต้องการของพี่น้องทุกคน

- ข้อกฎหมาย ควรศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งมรดกที่ดิน เพื่อให้การแบ่งมรดกเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

- การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกวิธีใด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือด้านการจัดการที่ดิน เพื่อขอคำแนะนำ

- ความชัดเจน ต้องกำหนดสิทธิและหน้าที่ของแต่ละคนให้ชัดเจน

- ความเป็นธรรม ผลประโยชน์ควรแบ่งปันอย่างเท่าเทียมหรือตามความเหมาะสม

- กฎหมาย ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติที่ดิน และกฎหมายมรดก

การปรึกษานักกฎหมาย

การจัดการมรดกที่ดินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายด้าน ดังนั้น การปรึกษานักกฎหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การจัดทำสัญญาหรือข้อตกลงเป็นไปตามกฎหมายและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นักกฎหมายจะช่วยตรวจสอบสิทธิในที่ดินและจัดทำเอกสารให้ถูกต้อง ข้อดี ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องตามกฎหมาย และช่วยตรวจสอบสิทธิในที่ดินและจัดทำเอกสารให้ถูกต้อง

คำแนะนำ

ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการแบ่งมรดกที่ดิน ควรพูดคุยกับพี่น้องทุกคนอย่างเปิดอก เพื่อทำความเข้าใจความต้องการและความกังวลของแต่ละคน จากนั้นจึงค่อยพิจารณาเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกคนแนวทางที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับลักษณะของที่ดินและเป้าหมายของครอบครัว หากต้องการให้ที่ดินเป็นของครอบครัวตลอดไปและสร้างรายได้ร่วมกัน "การตั้งเป็นนิติบุคคล หรือ มูลนิธิ" เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะช่วยป้องกันการขายและทำให้การบริหารเป็นระบบมากขึ้น ควรปรึกษาทนายความเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขทางกฎหมายและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย

หมายเหตุ

บทความนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น การปฏิบัติตามกฎหมายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี สามารถใช้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการแบ่งมรดกที่ดิน โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือด้านการจัดการที่ดินก่อนตัดสินใจใดๆ เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกรณีของแต่ละคน

 

.

-------------------------

ที่มา

-

รวบรวมข้อมูลและรูป

www.iok2u.com

-------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward