iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

001 lithosphere ทฤษฎีทวีปเลื่อน (Continental Drift)

 

ทฤษฎีทวีปเลื่อน (Continental Drift) เป็นทฤษฎีที่เสนอโดย Alfred Wegener ในปี 1912 ซึ่งกล่าวว่า แผ่นดินทั้งหมดบนโลกเคยรวมกันเป็นมหาทวีปเดียวชื่อ แพนเจีย (Pangaea) ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ต่อมาได้แยกตัวออกจากกัน และเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งปัจจุบัน

Wegener สังเกตเห็นว่ารูปร่างของทวีปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาใต้และชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา ดูเหมือนจะ khớp กันเหมือนจิ๊กซอว์ เขาจึงเสนอว่าทวีปต่างๆ เคยเชื่อมต่อกันมาก่อน แต่ในตอนนั้น แนวคิดนี้ไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจาก Wegener ไม่สามารถอธิบายกลไกที่ทำให้แผ่นดินเคลื่อนที่ได้อย่างน่าพอใจ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยในภายหลังโดยนักธรณีวิทยาคนอื่นๆ เช่น Arthur Holmes ได้นำไปสู่การค้นพบกลไกการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก และการพัฒนาทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน (Plate Tectonics) ซึ่งสนับสนุนแนวคิดของ Wegener

ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน อธิบายว่าแผ่นเปลือกโลก ซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของโลก แบ่งออกเป็นหลายแผ่น และเคลื่อนที่ไปตามชั้นแมนเทิล ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ใต้แผ่นเปลือกโลก การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น การเกิดภูเขาไฟ การเกิดแผ่นดินไหว และการเกิดแผ่นดินถล่ม

ทฤษฎีทวีปเลื่อน และทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน เป็นทฤษฎีที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ บนโลก นอกจากนี้ ทฤษฎีเหล่านี้ยังช่วยให้เราสามารถทำนายการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ในอนาคตได้ด้วย

ประวัติความเป็นมาของทฤษฎีทวีปเลื่อน

ทฤษฎีทวีปเลื่อน เป็นทฤษฎีที่ถูกเสนอขึ้นครั้งแรกโดย Alfred Wegener ในปี 1912 ในหนังสือชื่อ "The Origin of Continents and Oceans" Wegener สังเกตเห็นว่ารูปร่างของทวีปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาใต้และชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา ดูเหมือนจะ khớp กันเหมือนจิ๊กซอว์ เขาจึงเสนอว่าทวีปต่างๆ เคยเชื่อมต่อกันมาก่อน แต่ต่อมาได้แยกตัวออกจากกัน และเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม แนวคิดของ Wegener ไม่ได้รับการยอมรับในตอนแรก เนื่องจาก Wegener ไม่สามารถอธิบายกลไกที่ทำให้แผ่นดินเคลื่อนที่ได้อย่างน่าพอใจ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้นยังเชื่อว่าโลกเป็นทรงกลมที่แข็ง และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้

ในปี 1929 Arthur Holmes นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ เสนอว่าการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก เกิดจากการไหลของความร้อนในชั้นแมนเทิล แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การพัฒนาทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ในปี 1960

ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน อธิบายว่าแผ่นเปลือกโลก ซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของโลก แบ่งออกเป็นหลายแผ่น และเคลื่อนที่ไปตามชั้นแมนเทิล ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ใต้แผ่นเปลือกโลก การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น การเกิดภูเขาไฟ การเกิดแผ่นดินไหว และการเกิดแผ่นดินถล่ม

ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และถือเป็นทฤษฎีที่สำคัญที่สุดในธรณีวิทยาสมัยใหม่ ทฤษฎีนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ บนโลก นอกจากนี้ ทฤษฎีนี้ยังช่วยให้เราสามารถทำนายการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ในอนาคตได้ด้วย

หลักฐานสนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อน

มีหลักฐานหลายอย่างที่สนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อน ได้แก่

  • หลักฐานทางธรณีวิทยา: รูปร่างของทวีปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาใต้และชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา ดูเหมือนจะ khớp กันเหมือนจิ๊กซอว์ นอกจากนี้ ยังมีการพบหินและฟอสซิลที่คล้ายคลึงกันในทวีปต่างๆ ที่เคยเชื่อมต่อกันมาก่อน
  • หลักฐานทางธรณีฟิสิกส์: การวัดความหนาแน่นของแผ่นเปลือกโลก พบว่าแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต้ทวีป มีความหนาแน่นมากกว่าแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต้มหาสมุทร ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าทวีปเคยเชื่อมต่อกันมาก่อน
  • หลักฐานทางธรณีเคมี: การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของหินในทวีปต่างๆ พบว่าหินในทวีปต่างๆ มีองค์ประกอบทางเคมีที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าทวีปเคยเชื่อมต่อกันมาก่อน
  • หลักฐานทางธรณีชีววิทยา: การพบฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกันในทวีปต่างๆ ที่เคยเชื่อมต่อกันมาก่อน แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันมาก่อน

ผลกระทบของทฤษฎีทวีปเลื่อน

ทฤษฎีทวีปเลื่อน มีผลกระทบต่อหลายด้านของวิทยาศาสตร์ ได้แก่

  • ธรณีวิทยา: ทฤษฎีทวีปเลื่อน ช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ บนโลก
  • ธรณีฟิสิกส์: ทฤษฎีทวีปเลื่อน ช่วยให้เราเข้าใจถึงโครงสร้างภายในของโลก และการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
  • ธรณีเคมี: ทฤษฎีทวีปเลื่อน ช่วยให้เราเข้าใจถึงองค์ประกอบทางเคมีของหินในทวีปต่างๆ
  • ธรณีชีววิทยา: ทฤษฎีทวีปเลื่อน ช่วยให้เราเข้าใจถึงการกระจายตัวของสิ่งมีชีวิตบนโลก

นอกจากนี้ ทฤษฎีทวีปเลื่อน ยังมีผลกระทบต่อการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการวางแผนการจัดการภัยพิบัติ

ทฤษฎีทวีปเลื่อน เป็นทฤษฎีที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ บนโลก ทฤษฎีนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และถือเป็นทฤษฎีที่สำคัญที่สุดในธรณีวิทยาสมัยใหม่

 

-------------------------------

รูปแสดงขั้นตอนการเลื่อนของแผ่นธรณีภาคจากอดีตถึงปัจจุบัน

 

ที่มาข้อมูล

- ....

ภาพและรวบรวมโดย www.iok2u.com

---------------------------------------------------

รวมข้อมูลและเรื่องราว ธรณีภาค (lithosphere)

---------------------------------------------------

รวมข้อมูลและเรื่องราว ธรณีวิทยา

---------------------------------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward