Lertsin 013 เพชรราหู
013 เพชรราหู
ว่างเว้นไปนานเพราะเหตุการณ์โควิด 19 ระบาดหนักมากจนขาดแรงจูงใจที่จะเขียนต่อ แต่ถ้าปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานกว่านี้ ความจำอาจเสื่อมจนลืมเหตุการณ์สำคัญที่ผ่านมาในชีวิต เพราะสิ่งที่เขียนมาทั้งหมดเกิดจากความจำอย่างเดียว ไม่ได้จดไว้เลย เป็นเรื่องการเข้าไปตรวจสอบธรณีวัตถุหรือปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธรณีวิทยา ที่เกี่ยวโยงไปถึงเรื่องความเชื่อเหนือโลก โดยมีหลักยึดว่าถ้าเป็นเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา เกี่ยวโยงไปถึงเรื่องศาสนา เราจะไม่ตรวจสอบ แต่ถ้ามีเรื่องการหลอกลวงเข้ามาเกี่ยวข้อง จำเป็นที่ต้องเข้าพิสูจน์ตรวจสอบ เพื่อไขปัญหาเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธรณีวิยาให้ประชาชนผู้สนใจได้รับทราบความจริง
หลายท่านคงยังจำเหตุการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ที่เกิดในเมืองไทย เมื่อช่วงสายของวันที่ 24 ตุลาคม 2538 ได้ดี ราหูอมดวงอาทิตย์จนมืดมิดไปทั่วเมือง คนไทยตื่นเต้นและเฝ้าติดตามดูกันทั่วประเทศ ขณะที่เงาของดวงจันทร์บดบังแสงจากดวงอาทิตย์จนสนิท บรรยากาศในช่วงสิบโมงเช้าช่างเหมือนยามพลบค่ำเหลือเกิน เสี้ยววินาทีก่อนที่ราหูจะคลาย เกิดเหตุการณ์ที่นักดาราศาสตร์เรียกว่า"ปรากฏการณ์แหวนเพชร" โดยเกิดแสงสว่างส่องประกายแว๊บว๊าบ บนขอบของดวงอาทิตย์ที่ถูกบดบังจนมืดมืดมิด ช่างเหมือนกับแหวนเพชรส่องประกายยามต้องแสงไฟ การเฝ้าดูปรากฏการณ์นี้ต้องดูผ่านอุปกรณ์พิเศษเท่านั้น หากดูด้วยตาเปล่ามีโอกาสตาบอดสูงมาก
วิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์มักไปคู่กันเสมอ และเมื่อยึดมั่นในศรัทธามากจะกลายเป็นความงมงาย ปัญญาก็ไม่เกิด การหลอกลวงก็ทำได้ง่ายดาย หลังเหตุการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง 2-3 วัน มีข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ว่ามีผู้พบเพชรราหูกระจายอยู่ตามพื้นดินที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน คาดว่าเป็นเพชรที่ร่วงมาจากดวงอาทิตย์หลังเกิดปรากฏการณ์แหวนเพชร ลักษณะของเพชรราหูคือมีสีขาวใสแต่เมื่อใส่ในแก้วที่มีน้ำเต็ม เขาจะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนเป็นสี ชมภู น้ำเงิน และวิ่งพล่านไปทั่ว มีการซื้อขายกัน เริ่มต้นขนาดเม็ดถั่วแดงราคา 50 บาท ขนาดเม็ดไข่มุก ราคา 100 บาท และราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงเม็ดละ 5,000 บาท หลังจากหนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดตีข่าวทุกวัน จนทางจังหวัดขอให้เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณีเข้าตรวจสอบเพชรราหูตามที่เป็นข่าว
ผลการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าบริเวณที่พบเพชรราหูกระจายอยู่ไม่ไกลจากเสาไฟฟ้า อาจเป็นเพราะบุญบารมีที่พอมีอยู่บ้างจึงพบเพชรราหู เม็ดเล็กได้หลายเม็ด พิจารณาจากรูปทรงโดยใช้แว่นขยายช่วยแล้วพบว่าสิ่งที่คิดว่าเป็นเพชรราหู ไม่น่าใช่วัตถุที่เกิดตามธรรมชาติ ความแข็งคงเทียบไมได้กับเพชร ได้นำมาทดสอบต่อหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและผู้สื่อข่าว โดยใช้ตัวอย่างทั้งที่เก็บได้เองและตัวอย่างของเพชรราหูที่มีการซื้อขายกันใส่ลงในแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่เกือบเต็มแก้ว ตัวอย่างทั้งคู่แสดงอิทฺธิฤทธิ์ให้เห็นชัดเจน วิ่งในน้ำและเปลี่ยนสีได้จริงๆ คิดถึงวิชาเคมีพื้นฐาน คิดถึงวิชาเคมีฟิสิกซ์ที่เคยเกือบตกมาแล้ว คิดถึงสถานที่ที่พบ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาสอบถาม ก็ได้ความจริงของเพชรราหูว่าเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าขึ้นไปใส่สารกันความชื้นในหม้อแปลงไฟฟ้า ทั้งของเก่าของใหม่ก็มีร่วงลงมาบ้าง
ผู้สื่อข่าวนสพ.ยังไม่อยากจบเรื่อง เพราะข่าวกำลังดัง เขาไปตระเวณสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ เล่นข่าวได้อีก 2 วันก่อนบอกว่าเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์มาตรวจสอบแล้วพบว่า เพชรราหู คือซิลิก้าเจลหรือสารดูดความชื้นนั่นเอง
เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
20 สิงหาคม 2564
.
-------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------
บทความ เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ (Lertsin Raksaskulwong) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------
