Lertsin 039บั้งไฟพญานาค ในมุมมองนักธรณีวิทยา (1)
Lertsin 039บั้งไฟพญานาค ในมุมมองนักธรณีวิทยา (1)
ใกล้เข้ามาแล้ว สัปดาห์ที่คนหนองคาย บึงกาฬ รอคอย 1 ปี มีหนเดียว ที่จะมีนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศหลั่งไหลไปเฝ้าชม ปรากฏการณ์ "บั้งไฟพญานาค" ในค่ำของวันออกพรรษา ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันพฤหัสที่ 21 ตุลาคม 2564 ลมหนาวกำลังโชยมา คงได้บรรยากาศในการชมไม่น้อยทีเดียว หลายคนอาจเคยไปเฝ้าดูแล้วไม่เจอ ผิดหวัง แสดงว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูลที่แท้จริงก่อนไป เพราะวันที่บั้งไฟพญานาคขึ้นมาอวดโฉมมากที่สุด จะตรงกับวันออกพรรษาลาว ซึ่งช้ากว่าไทย 1 วัน ปีใดที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ปีที่มีกีฬาโอลิมปิค ปีนั้นวันออกพรรษาของทั้งสองประเทศจะตรงกัน บั้งไฟพญานาคจะขึ้นมากเป็นพิเศษ ยกเว้นปีนี้ที่มีโอลิมปิคแต่วันออกพรรษาไม่ตรงกันเพราะญี่ปุ่นเลื่อนจัดมาจากปีที่แล้ว
จากการเฝ้าดูอย่างพินิจพิจารณา ลักษณะของบั้งไฟพญานาค สามารถจำแนกลูกไฟได้เป็น 2 ลักษณะแตกต่างกัน ชนิดที่ขึ้นมาให้เห็นก่อนแต่หัวค่ำ จะเป็นลูกไฟเล็กๆ ขนาดเท่าไข่นกกระทา สีเหลืองส้ม มีหางคล้ายลูกอ๊อด เคลื่อนที่พุ่งขึ้นมาจากใต้น้ำในแนวเฉียง 50-60 องศา จากพื้นราบและพุ่งขึ้นมาด้วยความเร็วค่อนข้างมากสูง 25-30 เมตรแล้วก็หายไป ใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาทีใครเผลอกระพริบตานานไปนิด อาจหมดสิทธิ์เห็นทันที ลูกไฟชนิดที่ 2 สีแดงเข้ม ขนาดเท่าไข่ห่าน ลอยขึ้นมาสูงจากระดับน้ำในแนวดิ่งด้วยความเร็วที่ช้ากว่าลูกไฟกลุ่มแรก สูงขึ้นไป 35-40 เมตร แล้วก็ดับหายไป ไม่ได้ยินเสียงตอนลูกไฟโผล่ขึ้นมา แต่หมอมนัสแห่งโรงพยาบาลหนองคาย ผู้พบเห็นบั้งไฟในระยะใกล้ยืนยันว่าขณะที่ฟองแก๊สลอยพ้นน้ำและติดไฟ มีเสียงดังด้วย
ก่อนปี 2525 ในช่วงเทศกาลออกพรรษา จังหวัดเลย มีเทศกาลผีตาโขน จังหวัดนครพนม มีเทศกาลไหลเรือไฟ นักท่องเที่ยวแห่แหนไปร่วมงานสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในท้องถิ่นมากมาย แต่จังหวัดหนองคายไม่มีเทศกาลอะไรที่จะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเลย มีคนเสนอว่าที่ อำเภอโพนพิสัย มีบั้งไฟผีรู้จักกันดีในท้องถิ่น ถ้าจะโปรโมทเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่าจะดี เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนชื่อจากบั้งไฟผี เป็นบั้งไฟพญานาคเพื่อเพิ่มความขลัง เพราะวิถีชีวิตคนริมน้ำโขงมีความเชื่อและศรัทธาพญานาคมาแต่โบราณกาล ในเชิงของการประชาสัมพันธ์ถือว่าสัมฤทธิ์ผลเกินคาดมาก นักท่องเที่ยวทะยอยกันมาในปีแรกๆ และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วจากหลักพันเป็นหลักหมื่นหลักแสน ทำให้หลายคนเชื่อว่าบั้งไฟพญานาคเป็นปรากฏการณ์ ที่มนุษย์ทำขึ้นเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว มีหลายคนผูกโยงเรื่องราวไปถึงทหารจีไอแพ้สงคราม ต้องซ่อนฟอสฟอรัสขาวไว้ใต้น้ำและเกิดการรั่วทำให้เกิดลูกไฟลอยในอากาศ แต่ความจริงแล้ว ฟอสฟอรัสขาวจะเสื่อมคุณภาพเมื่อเก็บไว้เพียงปีสองปี บางคนบอกว่าการท่องเที่ยวหนองคายร่วมกับทหารทำขึ้นเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว เขาจะทำได้มากมายกระจายไปทั่วลำโขงในเขตหนองคายได้อย่างต่อเนื่องมาหลายสิบปี โดยที่ความลับไม่รั่วไหลทั้งที่ต้องใช้คนที่เกี่ยวข้องจำนวนมากในการทำวางและจุดพลุ อีกทั้งได้มีการทดลองแล้วว่าบั้งไฟที่เกิดขึ้นมาต่างจากพลุชัดเจน บางกลุ่มบอกว่าเป็นฝีมือการยิงปืนของคนลาว ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงบางส่วนเพราะในบางพื้นที่ฝั่งลาวมีการเฉลิมฉลองเทศกาลของเขา แต่มีอีกหลายที่นักที่คนลาวมาเฝ้าดูบั้งไฟเหมือนกับเรา ข้อสำคัญได้มีการพิสูจน์แล้วว่า ลักษณะลูกไฟที่เกิดจากกระสุนปืนต่างจากบั้งไฟพญานาคมาก ดวงไฟที่เกิดจากกระสุนปืนเคลื่อนที่เร็วกว่า ขึ้นสูงกว่าและมีวิถีโค้งชัดเจน เพียงแต่เมื่อมีทีวีไปถ่ายทำฝั่งลาวในพื้นที่ที่เขาเฉลิมฉลองกัน ทุกครั้งที่คนลาวยิงปืนสักครู่จะได้ยินเสียงร้องเฮลั่นจากฝั่งไทย ก็เลยเหมาเอาว่า บั้งไฟพญานาค คือ ลูกไฟที่เกิดจากกระสุนปืน AK47 ที่ยิงจากฝั่งลาว
ธรณีวิทยา คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องโลก ส่วนประกอบภายในโลกตลอดจนถึง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก นักธรณีวิทยาเลยได้รับเชิญจากนักการเมืองระดับชาติที่เป็น สส. หนองคายหลายสมัย ให้ไปช่วยพิสูจน์ว่าบั้งไฟพญานาคเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือไม่ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ดร.ปริญญา จึงร่วมกับนักวิทยาศาสตร์หลายสาขา หลายหน่วยงานได้ออกไปสำรวจพื้นที่และค้นคว้าศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อหาคำตอบว่าบั้งไฟพญานาคแห่งลุ่มน้ำโขงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีปัจจัยอะไรมาเกี่ยวข้องบ้าง ส่วนที่บอกว่า เกิดเฉพาะวันออกพรรษา หลายท่านได้ให้คำตอบแล้วว่า เกิดได้หลายวัน เพียงแต่ 15 ค่ำ เดือน 11 จะมีมากเป็นพิเศษ
ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นอย่างไร มีเรื่องเหนือธรรมชาตืไหม คงต้องรอตอนต่อไปเสียแล้วครับ
เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
18 ตุลาคม 2564
ที่มา
- https://www.facebook.com/เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------------------------------
Lertsin บทความ เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ (Lertsin Raksaskulwong) รวมข้อมูล-------------------------------------------------