ผาเปลวเพลิง (Flaming Cliffs) ทะเลทรายโกบีตอนใต้ มองโกเลีย
พื้นที่ที่มีการค้นพบซากกระดูกไดโนเสาร์ในปี 1923-1928 ในทะเลทรายโกบี มองโกเลีย ของคณะสำรวจค้นหาและศึกษาประวัติสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลทรายโกบี มองโกเลีย ที่นำทีมโดย รอย แช็ปแมน แอนดรูว์ จากพิพิธภัณฑ์ประวัติความเป็นมาของธรรมชาติแห่งอเมริกานั้น จะรวมถึงพื้นที่ที่เรียกว่า “ผาเปลวเพลิง” (Flaming Cliffs) ซึ่งแอนดรูว์เป็นคนตั้งชื่อนี้ขึ้นมา เพราะเขาเคยมองดูหน้าผานี้จากระยะไกล และเห็นภาพเสมือนมีประกายพวยพุ่งออกมาดุจดังแสงของอาทิตย์อัศดง หุบผาแห่งนี้มีชื่อที่เรียกขานโดยคนท้องถิ่นว่า “Bayn Dzak” ซึ่งแปลว่า “เต็มไปด้วยต้นแซค” (ไม้พุ่มมีหนาม สูงประมาณ 2 เมตร และอาหารโปรดของอูฐ)
ชั้นหินตะกอนที่พบที่ผาเปลวเพลิงนั้น ถูกกำหนดให้อยู่ใน Bayn Dzak member ซึ่งโดยทั่วไปแล้ววางตัวอยู่ข้างล่างของ Turgrugyin member ทั้งสองหมู่หินนี้ อยู่ในหมวดหิน Djadokhta Formation ดังนี้
A) หมู่หิน Bayn Dzak แบ่งออกได้เป็น 9 หน่วย จากแก่ไปอ่อนสุด ดังนี้
1. หินทรายที่ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ที่โด่งดังจะพบอยู่ในหน่วยหินนี้
2. ชั้นที่พบซากดึกดำบรรพ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากมาย
3. ชั้นหินที่พบเป็นหน้าผา
4. ชั้นหินกรวดมนอยู่ช่วงล่าง
5. ชั้นที่มีการอัดแน่นไม่มากนัก
6. ชั้นที่มีสารปูนพอกมาก
7. ชั้นหินทรายไม่แสดงชั้นสลับกับชั้นสารปูนพอก
8. ชั้นทรายสลับกับสารปูนพอก
9. หินอายุอ่อน(<2.7 ล้านปี)
หินทั้งหมดมีความหนารวมกัน ประมาณ 37 เมตร
หมู่หิน Tugrugyin (ไม่พบที่ผาเปลวเพลิง) ประกอบด้วยหินชมพูอ่อน กับหินทรายที่มีขั้นหินเฉียงระดับที่มีมุมเอียงเทสูง แสดงว่าเกิดสะสมตัวจากเนินทรายในทะเลทราย
โดยสรุปแล้ว สภาพแวดล้อมของการสะสมตัวของหินตะกอนที่พบที่ผาเปลวเพลิงนี้ บ้างก็เคย เป็นเนินทรายในทะเลทราย บ้างก็เกิดจากแม่น้ำ บ้างก็เกิดในที่ลุ่มระหว่างเนินทราย ส่วนอายุของหมวดหินนี้ ที่ได้จากการวัดค่าสนามแม่เหล็กโลกโบราณ ก็คือ 71-75 ล้านปีก่อน
ปลายเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ นักธรณีวิทยา และนักบรรพชีวินวิทยาไทยร่วม 20 ชีวิต จะได้โอกาสไปแวะชมผาเปลวเพลิง หวังว่านักล่าไดโนเสาร์ทุกท่านจะได้ข้อมูล ข้อสังเกต ข้อคิดเห็น และประสบการณ์จากแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ที่ติดระดับโลกที่นี่ แล้วนำเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ติดตาตรึงใจ มาประมวลใช้ประกอบในงานสำรวจค้นหาซากดึกดำบรรพ์ในประเทศไทย อันจะส่งผลให้มีการค้นพบหลักฐานที่มีคุณค่า มีความสำคัญระดับภูมิภาคหรือระดับโลก เพื่อยกระดับงานบรรพชีวินวิทยาของไทยเราให้ก้าวหน้าสืบไป เพี้ยงงงงง
.
ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak
รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com
-------------------------------------------------
รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)-------------------------------------------------