ว่าด้วยตำนานนครภูเวียง (ฉบับสมบูรณ์) ตอนที่ 2 อวสานวีรบุรุษ ขอนแก่น
“เล่าโดยลอเรศ”
เจ้าเมืองเวียงคุกเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย แม้จะสูญเสียกองทหารและเสบียงกรังไปอย่างมากมาย พระองค์กลับรวบรวมพลเข้าโอบล้อมนครภูเวียง การสู้รบจึงเกิดขึ้นโดยฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอ่อนด้อยก็คือกองทัพภูเวียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการต่อสู้นั้น ปรากฏว่าแม่ทัพคนหนึ่งของเวียงคุกมีอาวุธเป็นกระบอกโลหะที่สามารถปล่อยแสงออกมาและมีอานุภาพการทำลายที่น่ากลัว สามารถทำให้ผาหินแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ได้ โชคดีที่ดูเหมือนว่าอาวุธดังกล่าวจะใช้งานได้ไม่กี่ครั้ง เมื่อการสู้รบยืดเยื้อไปหลายเดือน เจ้านครภูเวียงจึงส่งสาส์นออกไปเสนอความเห็นทำนองว่า “สงครามทำให้เราทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องสูญเสียไพร่พลกันเป็นจำนวนมาก ขอให้ท่านพิจารณายกเลิกการต่อสู้ครั้งนี้เสียเถิด” เจ้าเมืองเวียงคุกได้ตอบมาว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้นครภูเวียงส่งทหารที่เก่งที่สุดมา 1 คน เพื่อต่อสู้กับสัตว์เลี้ยง 10 ตัวของข้าพเจ้า ตัวต่อตัว หากสามารถเอาชนะได้ทั้งหมด ข้าสัญญาว่าจะถอยทัพกลับเวียงคุก” ด้วยความจำใจที่ต้องยอมตาม ฝ่ายนครภูเวียงจึงได้ส่ง “บักลอ” ออกมาต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงของเจ้าเมืองเวียงคุก
ปรากฎว่า สัตว์เลี้ยงของเจ้าเมืองเวียงคุกนั้นแต่ละตัวมีรูปร่างใหญ่โต หน้าตาแปลกประหลาด ที่ชาวนครภูเวียงไม่เคยพบเห็นมาก่อน กระนั้นก็ตาม บักลอก็เอาชนะ สามารถฆ่าสัตว์เลี้ยงทั้งหมดได้ แต่เจ้าเมืองเวียงคุกกลับตระบัดสัตย์ รบเร้าให้มีการประลองฝีมือต่อเนื่องไปอีกหลายสิบครั้ง ซึ่งบักลอก็เอาชนะได้ทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อสัตว์เลี้ยงตัวสุดท้ายล้มลง บักลอซึ่งได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงขาดใจตามไปด้วย โชคดีที่เจ้าเมืองเวียงคุกก็ถอดใจยอมถอยทัพกลับแม่น้ำโขง ชาวนครภูเวียงจึงได้นำศพของบักลอและสัตว์ประหลาดทั้งหมดไปฝังไว้ที่ห้วยประตูตีหมา และภูเขาที่เป็นขุนห้วย ทำให้ภูเขาลูกนั้นได้รับการขนานนามว่า “ภูซำบักลอ”
ปีพ.ศ. 2519 กรมทรัพยากรธรณีได้เข้ามาสำรวจแร่ยูเรเนียม ในบริเวณเทือกเขาภูเวียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ห้วยประตูตีหมา และในช่วงดังกล่าวนั้น นักธรณีวิทยาที่ชื่อ ”สุธรรม แย้มนิยม” ได้พบหินก้อนหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับกระดูกสัตว์ ซึ่งต่อมาก็ได้รับการยืนยันว่านี่คือซากดึกดำบรรพ์กระดูกไดโนเสาร์ กรมทรัพยากรธรณีจึงได้จัดตั้งคณะสำรวจซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ขึ้นมาในปีพ.ศ. 2521 โดยเริ่มต้นการสำรวจที่ประตูตีหมาและภูซำบักลอ โครงการนี้ดำเนินไปด้วยดี เป็นเหตุให้มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์มากมาย หลายชิ้นได้รับการพิสูจน์ว่า เป็นไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ และ/หรือชนิดใหม่ จนมีชื่อพันธุ์และชนิดเป็นเกียรติแก่สถานที่ที่ค้นพบ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะในบริเวณภูเวียง แต่รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในอีสาน และแม้แต่ภูมิภาคอื่นของประเทศไทย
พ่อตู้คำมายแห่งสำนักปู่เจ้าสมิงพราย เมืองเวียงเก่า ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกแห่งแดนสนธยาให้ความเห็นว่า แร่ยูเรเนียมที่พบที่ประตูตีหมาน่าจะเป็นร่องรอยของปืนกัมมันตรังสีของแม่ทัพชาวเวียงคุกนั่นเอง ส่วนฟอสซิลไดโนเสาร์ทั้งหมดที่เจอนั้น เมื่อวิเคราะห์แล้วเห็นว่านั่นก็คือ กระดูกของสัตว์เลี้ยงของเจ้าเมืองเวียงคุกนั่นเอง แต่สงสัยอยู่ประเด็นเดียวว่า ทำไมกระดูกไดโนเสาร์ถึงถูกค้นพบได้ง่ายและมากมาย แต่จนถึงปัจจุบันนี้ ทำไมไม่มีใครพบเจอซากกระดูกของบักลอบ้างเลย หรือว่ากระดูกของท่านจะเฮี้ยนจัดปลัดบัญชา ช่วยสอบสวนหาคำตอบให้หายสงสัยได้ไหมครับ ท่านสารวัตร
.
ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak
รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com
-------------------------------------------------
รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)-------------------------------------------------