iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
วัดรอยตีนวอร์ดกับบุนนาค (Follow the Foot Track of Ward and Bunnag, 1964; 2nd Chapter) 3 ตติยบท
 
ภาพที่ 1 ลำดับชั้นหินของกลุ่มหินโคราชตามเส้นทางผานกเค้า-หลังแปภูกระดึง ของ Ward and Bunnag,1964 รวมทั้งการแบ่งเป็นหน่วยย่อยของบางหมวดหิน (PNK=Pha Nok Khao Fm., NP=Nam Phong, PK=Phu Kradung, PW=Phra Wihan, SK=Sao Khua, PP=Phu Phan, KK= Khok Kruat Fm.)
วัดรอยตีนวอร์ดกับบุนนาค (Follow the Foot Track of Ward and Bunnag, 1964; 3rd Chapter) ตติยบท
ข้าพเจ้าได้เขียนบทความเรื่องวัดรอยตีนปู่วอร์ดกับปู่ดิ้น บุนนาคไปแล้ว 2 บท พูดถึงหมวดหิน 4 หมวดที่วางตัวอยู่ข้างล่างของกลุ่มหินโคราช วันนี้จึงเหลืออีก 2 หมวดหิน ดังต่อไปนี้
5. หมวดหินภูพาน มีลำดับชั้นหินต้นแบบอยู่ที่ภูผาผึ้ง เทือกเขาภูพาน กาฬสินธุ์ มีความหนารวม 114.1 เมตร ลักษณะเด่นของหมวดหินภูพานคือหินทรายปนกรวด สีส้ม สีเหลืองแกมขาว ชั้นหนา มีชั้นเฉียงระดับมากมาย เกิดสะสมตัวจากแม่น้ำประสานสาย (braided river) มีความคงทนต่อการกัดกร่อนผุพังทำลายมากกว่า หินตะกอนสีน้ำตาลแกมแดงของหมวดหินเสาขัวที่วางตัวอยู่ด้านล่าง กับหมวดหินโคกกรวดที่วางทับอยู่ข้างบน
ทว่า ชั้นหินของหมวดหินภูพานที่ภูเขาภูกระดึง ซึ่งมีความหนารวม 183 เมตร ตามภาพที่ 1 นั้น มีเม็ดกรวดน้อยมาก นอกจากนั้นยังมีขนาดเล็กประมาณ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้นักธรณีวิทยาหลายท่านคิดว่า ชั้นหินบนยอดภูกระดึงนั้น ควรเป็นหมวดหินพระวิหารมากกว่า
การอธิบายเพื่อสนับสนุนความเห็นทั้งสองด้านอาจเป็นไปได้ดังนี้
ถ้าชั้นหินบนหลังแปของภูกระดึงเป็นหมวดหินพระวิหาร ความหนาของหมวดหินน้ำพองกับภูกระดึงรวมกันจะมากกว่า 3,000 เมตร ซึ่งหนามาก แต่อาจอ้างได้ว่าบริเวณนี้เป็นใจกลางของแอ่งสะสมตะกอนจึงมีความหนามากกว่าที่อื่นๆ ทั่วไป
ถ้าให้ชั้นหินบนหลังแปเป็นหมวดหินภูพาน ก็สามารถอธิบายได้ว่า บริเวณนี้เป็นตอนปลายของแอ่งสะสมตะกอน เม็ดกรวดที่ถูกแม่น้ำพัดพามา ย่อมมีปริมาณน้อยลง และมีขนาดเล็กลง รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่า ในการสำรวจลำดับชั้นหินโดยละเอียด จะพบหินทรายสีอ่อน ชั้นหนา มีชั้นเฉียงระดับมากมาย อันเป็นคุณสมบัติเด่นของหมวดหินพระวิหาร ที่บริเวณด้านตะวันตกของซำแฮก ซึ่งไม่ปรากฎให้เห็นบนเส้นทางปีนเขาของนักท่องเที่ยว ทำให้มั่นใจว่า การกำหนดหมวดหินตามเส้นทางผานกเค้า-ยอดภูกระดึง ของ Ward and Bunnag, 1964 นั้น ถูกต้องแล้ว
ลักษณะของหินทรายจะคล้ายกับชั้นทรายของแม่น้ำผสมผสาน (amalgamated river) มากกว่าแม่น้ำประสานสาย ดังภาพที่ 2 และ 3 ส่วนชั้นหินเฉียงระดับของหมวดหินภูพานที่นี่นั้น พบว่ามีแบบ tabular มากกว่า ผิดกับบริเวณอื่นของอีสาน ที่จะพบแบบ trough มากกว่า เช่นที่แสดงในภาพที่ 4 ความพิเศษอีกประการหนึ่งคือ เม็ดกรวดในหินทรายมีขนาดเล็กไม่เกิน 5 มิลลิเมตร และมีแต่แร่ควอทซ์เท่านั้น (ภาพที่ 5)
บริเวณหน้าผาชันก่อนถึงหลังแปนั้นจะพบร่องรอยของการเคลื่อนตัวผ่านกันของชั้นหิน จนปรากฎ “หน้าระนาบรอยเลื่อน” (fault’s slikenside) มากพอสมควร ตามภาพที่ 6 รวมทั้งบริเวณหน้าผาด้านใต้ของยอดเขาภูกระดึงนั้น จะพบว่าถูกกำกับด้วยรอยแยก (joint) สองแนวเกือบตั้งฉากกัน โดยมีแนวเด่นในทิศตะวันตก-ตะวันออก ดังภาพที่ 7 ที่ถ่ายทำตอนมืดแล้วที่ผาเหยียบเมฆ (เพราะคำนวณเวลาเดินทางผิดพลาด) ทำให้สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมจึงหลงเหลือโขดหินที่โดดเด่นแยกตัวออกมาจากหน้าผาส่วนใหญ่ได้ และนี่คือหลักฐานที่จะเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังว่า โอกาสที่จะมีการถล่มลงมาของหน้าผา ตามแนวรอยเลื่อน และรอยแยกนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก
6. หมวดหินโคกกรวด หมวดหินที่ชื่อสร้างความสับสนให้นักธรณีวิทยาไทยมากพอสมควร เพราะหลายคนจะทึกทักเอาว่า หมวดหินนี้ต้องมีหินกรวดมนมากแน่นอน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะอันที่จริงแล้ว ลำดับชั้นหินต้นแบบของหมวดนี้คือ ลำดับชั้นหินตามสองข้างถนนสายมิตรภาพจากประมาณตะวันออกของเขามอจะบก สีคิ้ว จนถึงบ้านโคกกรวด อำเภอเมือง นครราชสีมา (บ้านโคกกรวดได้ชื่อมาจากการที่ในหมู่บ้านมีเนินที่มีชั้นกรวดอายุแปดแสนปีรองรับอยู่) ประกอบกับลำดับชั้นหินจากหลุมเจาะน้ำบาดาลที่บ้านโคกกรวดดังกล่าว โดยมีความหนารวม 709 เมตร หินส่วนใหญ่ของหมวดหินโคกกรวดจะเป็นหินตะกอนสีน้ำตาลแกมแดง ที่วางทับอยู่บนหมวดหินภูพาน ที่ประกอบด้วยหินทราย และหินทรายปนกรวด สีอ่อน ชั้นหนา มีชั้นเฉียงระดับมากมาย จุดเด่นของหมวดหินโคกกรวดที่ต้นแบบก็คือ จะมีหินกรวดมนกระเปาะปูนเยอะ และแต่ละชั้นหนามากกว่า 2 เมตร และเป็นชั้นหินที่พบฟอสซิลไดโนเสาร์และสัตว์ชนิดอื่นฝังตัวอยู่มากพอสมควร และในรายงานของวอร์ดเและบุนนาคเอง ก็ได้รายงานว่าพบฟอสซิล ทั้งกระดูกและเขี้ยวแต่ไม่สามารถระบุข้อมูลได้มากกว่านี้ ในหินกรวดมนกระเปาะปูน 2 แห่ง ในบ่อหินที่ระเบิดและทุบหินเพื่อการก่อสร้างสองบ่อ ที่บ้านโคกกรวดเอง และด้านตะวันตกประมาณ สองกิโลเมตรทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน (ภาพที่ 😎
Ward and Bunnag, 1964 รายงานว่า ตามเส้นทางเดินขึ้นภูกระดึงจากบ้านศรีฐานนั้น หมวดหินโคกกรวดมีความหนารวม 35 เมตร ช่วงล่างถูกปกคลุมด้วยดินปัจจุบันรวม 23.5 เมตร หินที่พบหนา12 เมตร คือหินทรายสีเทาแกมเหลือง ชั้นหนา และมีชั้นเฉียงระดับมาก แต่ในการเดินขึ้นไปพักผ่อนหย่อนใจแถมชะโงกดูหินของข้าพเจ้าและคณะเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น พบแต่หินที่ผุมากแล้ว ตามภาพที่ 9 ไม่สามารถคาดเดาว่าหินจะมีลักษณะเช่นใดตอนที่ยังมีสภาพสดและสมบูรณ์ จึงทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่า ชั้นหินหนารวม 35 เมตรนี้ ควรจะแยกออกมาเป็นหมวดหินโคกกรวดหรือไม่
อนึ่ง ชั้นหินและลานหินที่พบตามทางเดินและน้ำตกบนยอดภูกระดึง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากการวางตัวแล้ว น่าจะเทียบเคียงได้กับชั้นหินที่ให้เป็นหมวดหินโคกกรวดนั้น กลับมีลักษณะปรากฎที่คล้ายกับหมวดหินภูพานมากกว่า การวิเคราะห์ความถูกต้องโดยทีมงานของนักธรณีวิทยาที่จะมาสำรวจตรวจสอบอย่างแท้จริง จึงสมควรดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
พี่น้องครับ ข้าพเจ้าก็ได้เขียนเปรียบเหมือนเปรียบต่างถึงหมวดหินทุกหมวด ของกลุ่มหินโคราช ที่พบตามเส้นทางสำรวจเส้นที่สามของ Ward and Bunnag, 1964 แล้ว แต่ก็จะเหลือเรื่องราวที่เป็นเกร็ดเล็กผสมน้อย เกี่ยวกับกลุ่มหินโคราชที่ภูกระดึง ซึ่งจะทะยอยเขียนมาให้อ่านกันเล่นๆ ต่อไปครับ ท่านสารวัตร
.

ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak

รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com

-------------------------------------------------

รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)

-------------------------------------------------

ภาพที่ 2 หน้าผาของหมวดหินภูพาน สามารถเห็นชั้นทรายที่เกิดทับซ้อนกันในบางชั้น และกัดลงไปในชั้นทรายที่ตกสะสมตัวก่อนหน้า กลายเป็นชั้นหินทรายผสมผสาน (amalgamated sandstone beds) และมวลสารพอก (เส้นสีน้ำเงิน = ชั้นหิน; เส้นสีแดง = ชั้นหินบาง และชั้นเฉียงระดับ; เส้นสีขาว= มวลสารพอก, concretion )
 
ภาพที่ 3 ภาพแสดงร่องน้ำที่กัดลงไปบนชั้นทรายเดิมในช่วงการกำเนิดตะกอนของหมวดหินภูพาน (เส้นสีน้ำเงิน = ชั้นหิน; เส้นสีแดง = ชั้นหินบาง)
 
 
ภาพที่ 4 ภาพหินทรายชั้นหนาของหมวดหินภูพาน แสดงชั้นทรายใต้ท้องน้ำ และชั้นเฉียงระดับชนิดแผ่น(tabular cross bedding) ที่เกิดใน Transvese bar; T bar
ภาพที่ 5 ภาพหินทรายชั้นหนาของหมวดหินภูพาน แสดงชั้นทรายใต้ท้องน้ำ และชั้นเฉียงระดับชนิดแผ่น(tabular cross bedding) ที่เกิดใน Transvese bar; T bar
ภาพที่ 6 ภาพหินทรายที่มีเม็ดกรวดของแร่ควอตซ์ ขนาดไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ตามแนวชั้นเฉียงระดับ
ภาพที่ 7 ภาพระนาบรอยเลื่อน (slickensides) ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวผ่านกันของหินทั้งสองข้าง ทำให้เกิดหน้าหินที่เรียบเป็นมัน มักพบเห็นเส้นที่มีแนวตามทิศทางการเคลื่อนตัวของหินทั้งสองข้าง ตามรูปนี้ นี่คือรอยเลื่อนที่เคลื่อนตัวไปทางขวา (right lateral strike slip fault) นั่นคือก้อนที่เห็นอยู่จะเลื่อนตัวไปทางขวา เมื่อเทียบกับก้อนที่อยู่ด้านบนที่หายไป ซึ่งเลื่อนไปทางซ้าย
ภาพที่ 8 โขดหินเหยียบเมฆในความมืด สามารถเห็นรอยแยก (joint) ได้ชัดเจน 2 แนวคือ แนวเด่นมีทิศทางเกือบตะวันออก-ตะวันตก (เส้นสีแดงหนา) หรือว่าขนานกับแนวหน้าผา และแนวรองทิศเหนือ-ใต้ (เส้นสีแดงบาง) ชั้นหิน (เส้นสีดำ) ชั้นเฉียงระดับ(เส้นสีขาว) ในหินทรายชั้นล่างแสดงทิศทางการไหลของแม่น้ำที่ให้กำเนิดว่าไปทางทิศตะวันตก
ภาพที่ 9 หินกรวดมนกระเปาะปูน และฟอสซิลเขี้ยวไดโนเสาร์ชนิด Spinosaurid วางตั้งแสดงที่อนุสาวรีย์ช่างเจาะน้ำบาดาล สีคิ้ว คาดว่าถูกยกมาจากบ่อหินทางตะวันตกของบ้านโคกกรวด อำเภอเมือง นครราชสีมา
ภาพที่ 10 หินผุที่น่าจะเป็นชั้นหินที่ Ward and Bunnag,1964 จัดให้เป็นหมวดหินโคกกรวด พบข้างทางเดินจากหลังแปไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง
 
 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward