iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

เพตรา จอร์แดน ได้รับการขนานนามว่า นครศิลาทรายสีกุหลาบ (Rose City) จอร์แดน

เพตรา จอร์แดน ได้รับการขนานนามว่า นครศิลาทรายสีกุหลาบ (Rose City) ว่ากันว่าหินทรายที่นี่งามหลาย งามขนาด งามจังหู และหากท่านลองท่องโลกอินเตอร์เน็ตค้นหาคำว่า หินทรายเพตราผ่านอากู๋ ก็จะได้ภาพหินทรายสีชมพูพร้อมทั้งลวดลายหลายหลายสี เป็นขด เป็นวง เป็นชั้นสลับกันสวยงาม นักธรณีวิทยาที่มีโปรแกรมมาเที่ยวที่นี่ ก็หวังว่าจะได้พบ ได้เห็นสิ่งสวยๆงามๆดังกล่าว

เช้าวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ข้าพเจ้าและคณะทัวร์อียิปต์-จอร์แดน ได้มาเยี่ยมชมนครศิลาทรายแห่งนี้ ซึ่งแผนการที่กำหนดไว้คือ เริ่มเดินจากศูนย์นักท่องเที่ยว ลงไปตามหุบกว้างหลายสิบเมตร ที่สองข้างเป็นหินทรายสีขาวที่เกิดจากแม่น้ำประสานสาย (Disi Fm.) เมื่อ 500 กว่าล้านปีมาแล้ว หลังจากได้ระยะทางประมาณ 800 เมตร ก็จะเดินลงไปตามซอกผา (The Siq) ที่แต่แรกเริ่มเป็นเพียงรอยแยกในหินทรายสีชมพู ที่เกิดจากแม่น้ำเมื่อประมาณ 600 ล้านปีมาแล้ว (Umm Ishrin Fm.) รอยแยกดังกล่าวนี้ ต่อมาได้ถูกกัดเซาะผุพังทำลายโดยน้ำ ฝน แสงแดด และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ จนกลายเป็นร่องหุบลึกหลายสิบเมตรและกว้างสุดถึง 8 เมตร เมื่อเดินไปได้ระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ก็จะถึงสถานที่ที่เรียกว่า คลังสมบัติ (Treasury) จากนั้น หุบเขาก็กว้างออกหลายร้อยเมตร อันเป็นที่ที่ชาวนาบาเทียน ชนเผ่าโบราณ ขุดเจาะภูเขาหินทรายให้เป็นบ้านและเมืองที่อยู่อาศัย

ทั้งสองข้างของทางเดินทั้งภายในและภายนอกซอกผานั้น จะพบเห็นชั้นหิน เนื้อหิน โครงสร้างและลวดลายในหิน ตลอดจนผลงานที่ชาวนาบาเทียน แกะสลัก หรือดัดแปลงหินเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น รางส่งน้ำ บ่อพักตะกอน ฝายหินป้องกันน้ำหลาก และภาพสลักสิ่งที่พวกเขาเคารพบูชา และสำหรับข้อสังเกตในด้านธรณีวิทยานั้น ก็พอจะมีไฮไลต์มาเล่าสู่กันฟังได้บ้าง ดังนี้

ภาพ A คือภาพเปลี่ยนแปลงทางเคมีของเนื้อหินหลังจากกลายเป็นหินแล้ว มีมัคคุเทศก์รายหนึ่ง ได้บรรยายให้ลูกทัวร์ของตนฟังว่า นี่คือซากกระดูกไดโนเสาร์ ซึ่งคลิปนี้ก็ได้รับการวิจารณ์อย่างมากมายว่าเป็นยิ่งกว่าการจับแพะชนแกะ เพราะนี่คือการจับแพะชนไดโนเสาร์นู่นแน่ะ

ภาพ B คือหินกรวดคละขนาดที่ถูกพัดพามาด้วยน้ำไหลหลากลงสู่หุบเขา Siq จากลักษณะของชั้นหินเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ชาวนาบาเทียนจะมาอยู่อาศัย หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งได้ว่า พวกเขาคงจะต้องขุดแต่งชั้นกรวดทรายเหล่านี้ออกไป เพื่อสร้างเส้นทางเข้าสู่นครเพตรา

ก้อนกรวดที่พบในหินที่เกิดจากแม่น้ำประสานสาย (Disi Fm.) นั้น พบไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นแร่ควอร์ตซ์ เม็ดมน ขนาดไม่เกิน 3 เซนติเมตร พบวางตัวตามชั้นเฉียงระดับ จำนวนก้อนกรวดที่พบนั้นมีน้อยมาก เทียบไม่ได้เลยกับกรวดในหินทรายของหมวดหินภูพานของบ้านเรา

ชั้นหินเฉียงระดับที่มีลักษณะการพับตลบ (Overturned cross Bedding) ซึ่งแสดงถึงกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากรุนแรงอย่างเฉียบพลัน พบมากมายในหินทรายของหมวดหิน Umm Ishrin จนถือว่าเป็นลักษณะเด่นของหินทรายของหมวดนี้ ทิศทางการไหลของแม่น้ำโบราณจะเป็นไปในทิศทางคล้ายคลึงกันในทั้งสองหมวดหิน คือ เหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือ ความหนาของชุดชั้นเฉียงระดับนั้นมากสุดคือประมาณ 1.5 เมตร เชื่อว่าเกิดจากแม่น้ำที่มีขนาดน้องๆ แม่น้ำโขง (เสือใหญ่มิได้กล่าวไว้)

ลวดลายคล้ายโบติดหมวก หรือวงแหวนตาปลา (Liestgang Rings) ที่เห็นว่าสวยงามในโพสต์ของนักธรณีวิทยา(ต่างชาติ)หลายท่านนั้น กลับมิได้เด่นชัดสะดุดตาในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณใกล้กับปากทางเข้าซอกผา เพราะหินผากลับเป็นสีฝุ่นหม่น ต่อเมื่อเดินเข้าไปสักสี่ห้าร้อยเมตร หินจึงจะเริ่มเห็นเป็นสีชมพู ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะส่วนต้นทางนั้น อยู่ใกล้กับตัวเมือง Wadi Musa (หุบเขาโมเสส) จึงอาจเป็นแหล่งสร้างฝุ่นละอองที่ปลิวมาปกคลุมหน้าผา จนปิดบังสีอันแท้จริงของหิน ทำให้เรื่องข้อกังขาที่คิดไว้ก่อนจะมาที่นี่แล้วว่า จะให้ฝนตกก่อนที่ทัวร์ของเราจะมาเยือนสักสองสามวันดีไหม กลับมาอีกครั้งหนึ่ง

สรุปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าข้าพเจ้ามาเยือนนครเพตราผิดจังหวะจะโคน หรือมาเยือนช้าไป แบบที่เขาว่า “พบหินงาม เมื่อค้อนบิ่น” หรือเปล่าน้ออออ

.

-------------------------------------------------

ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak

รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward