iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

Nares เวียดนาม เที่ยวเดียนเบียนฟู ซาปา ประสานักธรณีฯ (7) ภาพสลักหินก่อนประวัติศาสตร์

 

ภาพที่ 1 ภาพหุบเขาเมืองเฮาที่มีการทำนาขั้นบันได และมีก้อนหินขนาดใหญ่-น้อย ฝังดินระเกะระกะอยู่ตามไหล่เขา และในหุบเขา
 
ซาปาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่โด่งดังของเวียดนามเหนือ ฝรั่งเศสเคยใช้สถานที่นี้เป็นแหล่งพักอากาศของพวกเขาตั้งแต่ครั้งที่ยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชาในชื่อที่ว่า “อินโดจีนของฝรั่งเศส” (French Indochina) ความโดดเด่นดังกล่าวก็ได้แก่เรื่อง ภูมิประเทศและภูมิอากาศที่สวยงาม สงบเงียบ อันประกอบด้วยนาขั้นบันไดของชาวเขาเผ่าม้ง กับยอดเขาฟานซีปัน ที่มีความสูงมากที่สุดในพื้นคาบสมุทรอินโดจีน
 
แต่สำหรับคณะของข้าพเจ้า ที่จะไปเยี่ยมซาปาในเมือนเมษายน 2566 นี้ ต้องหาเบิ่งหินกันบ้าง ตามประสาคนชอบคุยกระซิบกระซาบกับหิน เราจึงตั้งใจจะไปดู “หินที่มีภาพสลักก่อนประวัติศาสตร์ “ (Sapa Mistery Rocks) พบในหุบเขาเมืองเฮา (Muong Hoa valley) ซึ่งเป็นหุบเขาต่อเนื่องมาจากเมืองซาปา และอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ไม่เกิน 12 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8 ตารางกิโลเมตร
 
หินสลักก่อนประวัติศาสตร์นี้ถูกค้นพบและรายงานเป็นครั้งแรกในปี 1923 โดยนักโบราณคดีฝรั่งเศสเชื้อสายรัสเซียชื่อ Victor Goloubev การสำรวจต่อมาจนถึงปัจจุบัน สรุปว่าพบหินทั้งหมด 159 ก้อน มีขนาดทั้งเล็กและใหญ่คละกัน ลวดลายที่สลักลงในหินนั้นค่อนข้างจะยากต่อการแปลความหมายว่าเป็นรูปอะไรแน่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลายเส้นที่ค่อนข้างจะขนานกัน บ้างก็ว่าเป็นรูปบ้านยกพื้นสูง รูปทุ่งนา รูปผู้หญิง และผู้ชาย รูปคนพุ่งตัวลงมาจากที่สูง รูปคนยืดแขนออกสองข้างมีประกายแสงออกมาจากรอบศีรษะ ผู้ชายสวมหมวกมีดาว ผู้หญิงใส่หมวกยอดแหลม รวมทั้งภาพอีโรติก
 
จุดเด่นอีกหนึ่งประการในพื้นที่ดังกล่าว คือ หินขนาดใหญ่ 2 ก้อนที่ดูคล้ายกับร่างกายของมนุษย์ ก้อนที่ใหญ่กว่าเรียกว่า “หินพ่อ” (Da Chong) (ยาว 15 สูง 6 เมตร) กับ “หินแม่” (Da Vo) มีตำนานเล่าต่อมากันว่า มีหนุ่มสาวสองคนที่รักกันมาก แต่ทั้งสองเกิดมาในเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกัน จึงถูกกีดกันจากญาติพี่น้อง ทั้งสองจึงตกลงใจหนีตามกันไปในคืนคืนหนึ่ง โชคร้ายที่ตัวของฝ่ายสาวติดจมลงไปในบ่อดินโคลนที่เหนียวหนึบ ฝ่ายชายพยายามช่วยแล้วก็ไม่สามารถดึงตัวเธอขึ้นมาได้ ทั้งสองจึงทำได้แต่นอนหมอบเฝ้ามองซึ่งกันและกัน จนกระทั่งสิ้นชีวิตไปด้วยกันทั้งคู่ กลายเป็นหินพ่อ และหินแม่ ที่หันศีรษะเข้าจ้องมองหากันอยู่ตลอดมา
หุบเขาเมืองเฮา เกิดขึ้นมาในยุคพาลีโอจีนตอนต้น เป็นผลพวงล่าสุดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีแปรสันฐานของเวียดนามเหนือที่มีต่อหินอายุแก่ และมีความรุนแรงมาตลอด โดยค่อยสงบลงเมื่อประมาณ 20 ล้านปีที่ผ่านมา เหลือเพียงการเคลื่อนตัวในแนวดิ่ง และการกัดเซาะของแม่น้ำ ทำให้หุบเขาแห่งนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
 
มีรายงานว่า หินที่พบในหุบเขาเมืองเฮานั้นมีอายุในยุคพรีแคมเบรียนตอนปลาย (1,000-540 ล้านปี) ประกอบด้วย หินชิสต์ ควอร์ตไซต์ และหินอ่อน ทว่าหินแกะสลักเหล่านี้ กลับเป็นหินทราย ที่เชื่อว่าน่าจะมีอายุในมหายุคชีวิตกลาง และตกมาจากยอดเขา โดยอาจจะเนื่องจากแผ่นดินไหว หรือการเกิดรอยเลื่อน และหลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนภูมิประเทศโดยฝนและแม่น้ำลำธารในพื้นที่นี้ 
โม่งดำโม่งแดงจะเป็นอย่างไร ก็ต้องลองลุ้นกันในอีกสองสามวันนะครับ ท่านสารวัต
 
 
ภาพที่ 2 ภาพหินแม่ กับหินพ่อในหุบเขาเมืองเฮา
 
 
 
ภาพที่ 3 ภาพการแกะสลักหินทรายเป็นลวดลายต่างๆ
 
 

ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak

รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com

-------------------------------------------------

รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)

-------------------------------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward