Waranon กลอเซโล อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
กลอเซโล ... ทะเลหมอกสองแผ่นดิน
ร่องเขาหรือหุบเขาที่ว่านี้ เกิดจากอิทธิพลของรอยเลื่อนของเปลือกโลก แม่ปิง หรือ Mae Ping fault zone ที่วางตัวในแนว ตะวันออกเฉียงใต้ - ตะวันตกเฉียงเหนือ ในเขตประเทศไทย และเมื่อเข้าเขตประเทศพม่า จะมีรอยเลื่อนย่อยๆ ที่มีการบิดตัวเข้าไปหาทางทิศเหนือมากขึ้น และ อาจจะบิดตัวไปเป็นเกือบแนวเหนือใต้ได้ และ รอยเลื่อนแม่เมย Mae Mei fault zone ซึ่งก็เป็นรอยเลื่อนหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์กับรอยเลื่อนแม่ปิงด้วย แต่วางตัวในทิศทางเกือบเหนือใต้
ความสำคัญของรอยเลื่อนแม่ปิงในบริเวณนี้ก็คือ เป็นรอยที่หินแตกหักง่าย ก็ทำให้แม่น้ำสาละวิน หรือ Than Lwin หรือ Than Lyin ในภาษาพม่า มีทิศทางการไหลจากเกือบจะเป็นทางทิศเหนือลงใต้ N-S direction ส่วนรอยเลื่อนแม่เมยนั้น มีแนว เหนือ-เหนือ-ตะวันตก ไปทาง ใต้-ใต้-ตะวันออก NNW-SSE แต่ที่นี้ แผ่นดินในส่วนค่อนมาทางประเทศไทยจะสูงกว่า แม่น้ำเมย จึงไหลขึ้นไปทางทิศเหนือ ดังนั้นก็เป็น หนึ่งในแม่น้ำสองสามสาย ในประเทศไทยที่ไหลจากทางทิศใต้ ขึ้นไปทางทิศเหนือ ใช่ครับ แปลกกว่าที่อื่น
ตำแหน่งที่แม่น้ำเมยไหลไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวินนั้น เรียกว่า "สบเมย"
ในภาพรวมแล้ว แม่น้ำสาละวิน กับแม่น้ำเมยก็ช่วยกันกัดเซาะ แผ่นดินในบริเวณนี้จนเป็นรูปร่างแอ่งก้นกะทะที่แคบและยาวในแนวเหนือใต้ ที่ระดับแม่น้ำจะอยู่ประมาณสองร้อยเมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่แนวสันเขาที่ขนาบสองข้าง จะสูงราวๆ 800 ถึง 1200 เมตร
ขอให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า แม่น้ำเมย เป็นเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทยและพม่า และ บางส่วนของแม่น้ำสาละวิน ก็เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างไทยและพม่าด้วย
เมื่อเรายืนอยู่บนยอดแนวเขาในฝั่งไทย มองไปทางทิศตะวันตก เราก็จะเห็นทิวเขาสูงทอดยาวจากเหนือลงใต้ ในเขตพม่า และ หุบเขาตรงกลาง ก็มีแม่น้ำสาละวินผ่านกลาง ส่วนแม่น้ำเมย แม่น้ำเส้นเล็กๆ วิ่งจากทางใต้มาบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน ทำให้เกิด แม่น้ำสองสีอันสวยงาม
พอถึงเวลาก่อนฟ้าสว่าง เมื่อเรายืนอยู่บนทิวเขาที่สูงราวๆแปดร้อยเมตรเหนือระดับน้ำทะเลในฝั่งไทย เราก็จะเริ่มเห็นฟองเมฆสีขาวจมอยู่ในก้นแอ่ง และเมื่อฟ้าสว่างขึ้น เราก็จะเห็นปุยเมฆลอยอ้อยอิง ไม่ขยับเขยื้อนอยู่ในแอ่งกะทะนั้น จะดูเสมือนเป็นท้องทะเลสีขาว ดังนั้น บริเวณนี้จึงได้รับการเรียกขานแบบไม่เป็นทางการว่า "ทะเลหมอกสองแผ่นดิน"
เช้านี้ อากาศดีมากที่อุณหภูมิราวๆ 12-14°C ลมพัดเบาๆ ได้รับรู้ถึงความหนาว แต่ด้วยบรรยากาศอันสวยงาม พวกเราก็จัดการเตรียมกาแฟและอาหารเช้ากินกันพร้อมกับชื่นชมในวิวที่สวยงาม จนราวๆสักสิบโมงเช้า แดดร้อนขึ้นจนปุยเมฆสีขาวก็ค่อยๆละลายหายไป และน่าจะกลับมาใหม่ตอนกลางคืน
เส้นทางไปกลอเซโลนั้นค่อนข้างจะโหดร้ายสักนิด เป็นทางลูกรังขรุขระ แคบ และไต่ไปตามไหล่เขา ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น จากบ้านแม่สามแล่บ จะมีถนนลูกรังสภาพพอใช้ได้ แต่พอวิ่งขึ้นเขา จะมีสามสี่เส้นทางย่อย ระยะทางก็ประมาณ 18-25 กิโลเมตร แล้วแต่จะเลือก ก็ใช้เวลาราวๆสองชั่วโมงขอรับ
กลอเซโล คงจะเริ่มเป็นที่นิยม โดยเฉพาะหน้าหนาว เห็นมีคนใช้รถ 4WD ขึ้นมาพักกางเต้นท์นอนกันหลายคน พอมีที่กางเต้นท์ให้บริการ มีทั้งแบบเอาเต้นท์มาเอง และมาเช่าเต้นท์พร้อมกระต้อบเอาที่นั่นก็ได้ แต่ควรจะต้องจองไปก่อนน่ะขอรับ จะได้ไม่ต้องนอนกลางป่าขอรับ
-------------------------------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/waranon555
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------------------------------
บทความ วรานนท์ หล้าพระบาง (Waranon Laprabang) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย-------------------------------------------------
นักธรณีวิทยาไทย ..สำรวจทั่วไทย ...ไปไกลทั่วโลก
บรรยากาศยามสาย สักสิบโมง หมอกยังไม่ยอมจากไป
เวลายามเที่ยง เมฆหมอกแพ้ความร้อน จากหายไป แต่จะกลับมาคืนนี้ ร่องลึกกลางภาพจะเป็นแม่น้ำสาละวิน และปลายร่องด้านซ้าย จะเป็นสบเมย ส่วนร่องขาวๆไกลๆจะเป็นด้านปลายน้ำของแม่น้ำสาละวินที่อยู่ในเขตพม่า
บรรยากาศยามเย็นกับบรรยากาศเช้า ให้อารมณ์กันคนล่ะแบบ