iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

 Waranon จีน ลาซา วัดโจคัง ลาซา Potala palace, Lhasa Tibet

 
 
ชุดสาวชาวทิเบต สวยงามมากครับ

Potala palace, Lhasa Tibet พระราชวังโปตาลา ลาซา ทิเบต

พระราชวังโปตาลา เมืองลาซา ทิเบต นี่ ตกลงว่าเป็นวัด หรือว่า ที่พัก หรือยังไงกันแน่

ข้าพเจ้าเคยเห็นภาพถ่ายของพระราชวังโปตาลา มานานแล้ว และ ก็ไฝ่ฝันว่าจะมาเยี่ยมชมสักครั้ง และ ภาพของพระราชวังโปตาลา นี้ ก็ไปปรากฏอยู่ในด้านหลังของ ธนบัตรจีนสีเขียว มูลค่า 50 หยวน ทำให้คนจีนทุกคนจะต้องรู้จักพระราชวังนี้กันแน่นอน

ตัวพระราชวังโปตาลานี้ สร้างอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ชันๆ สูงประมาณเกือบ 100 เมตร ที่น่าจะเกิดจากการที่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ พาดผ่านบริเวณนี้ ในแนวเกือบ ตะวันออกไปตะวันตก แล้วหินในรอยเลื่อนเกิดการบีบอัด จนให้หินในรอยเลื่อนนี้ยกขึ้นมา แต่หินที่อยู่รอบๆ เกิดการแตกหัก ผุพังได้เร็ว จนเกิดเป็นร่องแม่น้ำลาซา หรือ Lhasa river และบางส่วนก็กลายเป็นสภาพที่น้ำท่วมขัง หรือ Wet Land ซึ่งปัจจุบันถูกยกระดับให้เป็นพื้นที่สงวนอีกด้วย

ตัวเนินเขาที่เป็นที่ตั้งของ Potala Palace นี้นั้น เป็น low graded Metamorphic rock ที่เรียกว่า Slate หรือหินชนวน แต่ค่อนข้างจะมีรอยร้าวแตกหักเยอะ แต่ก็จะเห็นเป็นแผ่นๆ ได้อยู่บ้าง

ในทิเบตนี้มีดาไลลามะมาแล้วทั้งสิ้น 14 องค์ ปัจจุบันองค์ที่ 14 อยู่ที่อินเดีย ตามประวัติศาสตร์นั้น ทิเบตถูกปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ มาช้านาน โดยมีดาไลลามะ เป็นประมุขในทางศาสนา จบจนมีถึง ดาไลลามะ องค์ที่ 5 ผู้นำทางการเมือง Political leader กับ ผู้นำทางศาสนา Religious leader ได้ถูกควบรวมกัน
ตัวพระราชวังโปตาลานี้ ก็นับว่าเป็นชัยภูมิที่ดี มีแม่น้ำไหลผ่านใกล้ๆ มีความอุดมสมบรูณ์ มีเขาเป็นที่ตั้งของจุดศูนย์กลางเมือง ดังนั้น ตั้งแต่ดาไลลามะองค์ที่ 5 เป็นต้นมา ตัว Potala palace ก็มีการพัฒนาปรับปรุงให้เป็นที่ประทับของดาไลลามะ แต่เพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจาก ดาไลลามะและคณะสงฆ์ที่ทำหน้าที่บริหารประเทศเป็นพระ ดังนั้น ใน Potala palace จึงมีรูปและสัญญลักษณ์ทางศาสนา และความเชื่อมากมาย มีทั้ง พระพุทธรูป มี เทพเจ้ารักษาสี่ทิศ เห็นรูปนาคและครุฑ เห็นรูปราหู และรูปปั้นที่น่าจะแสดงถึงองค์ลามะที่ตายไปแล้วจำนวน 9 องค์ ในชั้นบนสุดของ พระราชวัง และ มีห้องนั่งกรรมฐาน นั่งสมาธิ มีหอสวดมนต์ และมีสุสานด้วย

บนส่วนบนสุดของ Potala palace นั้นจะแยกเป็นสองส่วนคือ White palace และ Red palace ซึ่งก็เป็นที่พักของดาไลลามะ มีห้องรับรองแขกบ้านแขกเมือง ห้องทำงาน ห้องเรียน ห้องนั่งสมาธิ เหมือนๆกันทั้งสองส่วน แต่ใน Red palace ที่มีขนาดใหญ่กว่ามากนั้น มีส่วนฝังศพของดาไลลามะ ที่เป็นทั้ง Political & Religious Leader ในคราวเดียวกัน ทั้งหมด 8 องค์ ด้วยกัน มีการก่อสร้างเป็นโลงไม้เนื้อหอมปิดด้วยทองคำแท้ อยู่ในส่วนของ Red palace แต่ข้าพเจ้าซักไม่ทันว่าทำไมไม่ครบ 13 องค์ เพียงแต่ทราบว่า องค์ที่ 12 ถูกฝังอยู่ที่ Qinghai

ที่ข้าพเจ้าสนใจมากๆก็คือเทคนิคการก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีพันกว่าปีที่แล้ว เขาทำอย่างไรกันกับอาคารสูงๆแบบนี้ จะว่าใช้ผนังรับน้ำหนักก็ไม่ใช่ เพราะไปสังเกตุดูแล้วพบว่า น่าจะเป็นผนังที่ทำจากพวกก้านกกชนิดหนึ่งแข็งๆ วางซ้อนๆกัน แล้วใช้ปูนขาวฉาบ เอามากกว่า

ส่วนเสา ก็เป็นเสาไม้ หลายๆต้น น่าจะเป็นไม่หลายชิ้นประกบกันแล้วใช้แผ่นเหล็กรัดเอา ใช้คานไม้ซุง ทั้งหมด จึงเป็นเหตุทำให้ขนาดความกว้างของห้องไม่เกิน สามหรือสี่เมตรเห็นจะได้ ส่วนความยาว ก็ทำได้ไม่ค่อยจำกัด เมื่อวางคานบนหัวเสาแล้ว ก็จะวางคานขนาด 4"-5" ให้ชิดกันชั้นหนึ่งก่อน แล้ววางคานขนาด 2"-3" ตั้งฉากกับชั้นแรกให้ชิดกัน ก่อนที่จะเทพื้นด้วยวัสดุปูพื้น

แต่พื้นล่ะ ตามบันไดทางขึ้น จะใช้หินปูพื้น แต่ด้วยทักษะแรงงานในอดีต กับ วัสดุท้องถิ่นการคัดหินกรวดจากแม่น้ำลาซา จึงไม่ค่อยได้ขนาดที่เท่ากัน มีหลากชนิด แต่ก็เห็นความพยายามที่จะทำให้เสมอกันให้มากที่สุด และยังมีการเซาะร่องกันลื่นอีกด้วย

ส่วนพื้นอาคารทั้งหมดทั้งภายในภายนอก เป็นการใช้ปูนขาว เป็นวัสดุหลัก ผสมกับน้ำ และ ก้อนกรวดที่น่าจะทุบเอามาจากหินปูนสีเนื้อ คาดว่าน่าจะเป็นแบบเดียวกับที่เอาไปทำปูนขาว ทุบให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกันแล้วเทบนคานไม้สองชั้น แล้วบดอัด ตามด้วยการลงขึ้ผึ้งหรือ น้ำมัน Yak กันน้ำซึม ก็ดูแข็งแรงมาก คนนำทางเล่าด้วยความภูมิใจว่าเป็นเทคโลโลยีของคนทิเบตมาพันกว่าปีแล้ว เพราะบนลานกว้างข้างบน ที่มีห้องจำนวนมากอยู่ข้างล่างนั้น ทนแดดทนฝนมาเป็นเวลานับพันปี?? อืมม น่าจะมีการซ่อมแซมบ้างล่ะครับ

อ้าว แล้วตกลงจะเป็นวัด หรือก็ไม่น่าใช่ น่าจะเป็นพระราชวังของผู้นำทางการเมืองและทางศาสนา ที่มีทุกอย่างครบในตัวมากกว่าใช่ไหม ขอรับ

เสียดายมากที่เขาห้ามถ่ายรูปด้านใน ก็เลยไม่มีรูปสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างโบราณมาแบ่งกันดู เห็นป้ายทางเข้าระบุว่าเป็น Listed World Heritage ก็ดีใจครับ ของเก่าแก่ สวยๆงามๆ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ก็ควรจะถูกอนุรักษ์ไว้น่ะ ขอรับ

 

 
ยามบ่ายก็ให้อารมณ์อีกแบบ
 
รูปวาดพระราชวังโปตาลา ในธนบัตร ใบล่ะ 50 หยวน
.
อาคารด้านหลังนั้นมีอย่างน้อย 7-8 ชั้น สร้างด้วยเทคโนโลยี่แบบโบราณ
.
.
ลานกิจกรรมที่อยู่ด้านบน พื้นปูด้วยปูนขาวผสมกรวก หินบด ก็คงคล้ายๆกับ คอนกรีตในปัจจุบันนี่ล่ะครับ ทนแดดทนฝนมานาน
.
ทางขึ้น Potala Palace ที่มีนักท่องเที่ยวหนาตา
.
 
เทคนิคการใช้หินชนวน Slate มาวาง แล้วใช้ปูนขาวเททับ สลับด้วยหินชนวนอีกชั้น ก่อนปิดทับด้วยคอนกรีตแบบโบราญ ก็น่าจะกันน้ำซึมได้ดี
.
..
 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward