Waranon ไทย สงขลา อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี
ช่วงวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2024 ข้าพเจ้าร่วมทางมากับคณะแอบดูนก เดินทางล่องใต้โดยรถไฟ จากสถานีกลางบางซื่อ มาที่หาดใหญ่แล้วต่อรถตู้มากันที่ ว่าที่อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ที่บอกว่าเป็นแค่ว่าที่ ก็เพราะ รอการลงประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง แต่ตัวอุทยาน ก็มีความพร้อมในหลายๆด้านแล้ว ทั้งที่ทำการอุทยาน เจ้าหน้าที่ ศูนย์นักท่องเที่ยว และ นกหายากมากมายหลายชนิด ที่จะมาบินโฉบไปมาให้นักท่องเที่ยวมาแอบส่องดู
อันที่จริงนั้น การมาแอบส่องดูนกทำกิจวัตร์ประจำวันนั้น นักส่องนกทั้งหลายแทบจะไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไปในป่าดงดิบลึกๆเลยน่ะขอรับ นกก็มักจะบินไปบินมาอยู่แล้ว และทางอุทยานก็เก็บรักษาต้นไม้เช่น ต้นไทร ต้นบุก ต้นกะออก และ ต้นที่มีผลไม้ป่า เอาไว้ใกล้ๆที่ทำการอุทยาน หรือริมถนน เวลาเช้าๆ นกคงหิว ก็บินโฉบไปมา หาอารเช้ากินกัน ทีนี้พวกแอบส่อง ก็ดูได้ตามสบายใจ
มาคราวนี้ ข้าพเจ้าและคณะ ไม่เจอนกใหญ่ๆ เช่น นกเงือกปากเรียบ นกเงือกปากสว่าง เอ้ย นกเงือกปากย่น นกชนหิน นกเงือกดำ ในระยะใกล้ๆที่พอจะส่องเห็น เนื่องจากแหล่งอาหารที่อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานนั้น โดนกินไปเกือบหมดแล้ว แต่เราเจอนกหายากตัวเล็กๆ จิ๋วๆ สวยๆ หลากหลายชนิด เนื่องจากแถวนี้ เป็นรอยต่อที่ค่อนลงมาทางใต้ระหว่างป่าดิบชื้น กับป่าดิบผสมป่าเต็งรังแบบแถวเมืองกาญจน์ จึงมีนกหลายชนิด ที่ไม่พบในส่วนเหนือจังหวัดชุมพรขึ้นไปหลายชนิด
อันที่จริงข้าพเจ้าเคยมีกล้อง Binoculars ขนาดใหญ่ที่เอาไว้แอบดูนกอยู่อันหนึ่ง แต่ผ่านมาหลายสิบปีแล้วไม่ได้ใช้ ก็เลยหาไม่เจอ ก็เลยสั่งกล้องตาเดียวทางออนไลน์ เอามาใช้แก้ขัดไปก่อน แต่คุณภาพสู้ไม่ได้เลย ใช้โทรศัพท์มือถือ Sumsung S23+ ถ่ายซูมได้ 30เท่า ก็เห็นตัวน่ะ แต่มันจะเบลอๆ ไม่สวย แต่เรามีเพื่อนร่วมทางนิ ก็ขอรูปของเขามาใช้เสียเลย คริคริ ก็ขอขอบคุณพี่อิ๊ด บิ๊กไบค์ จากขอนแก่น ที่อนุเคราะห์รูปนกสวยๆในครั้งนี้ครับ
เมื่อวานบ่าย เราก็ออกไปเดินเทรลกัน ในเส้นทางชมธรรมชาติที่อยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยาน เป็นเส้นทางเดินเป็นเกือบเป็นวงรีๆ ขึ้นเขาลงห้วย เดินเลาะไปตามห้วยต้นน้ำคลองเทพา ที่มีน้ำใสในลำธารไหลตลอดปี
ด้วยความที่เป็นนักธรณีวิทยาเรื้อรัง รักษาไม่หาย ก็อดด้อมๆมองๆดูหินแถวนี้ ก็พบว่าเป็นหินตะกอน ที่มีอิทธิพลของการผ่านแรงดันและอุณหภูมิสูงมาพอสมควร ก็ เป็น low graded Metamorphic rocks ล่ะครับ ตัวหินมีรอยแตกมากมาย หลายทิศทาง และถูกเติมในรอยแตกด้วย Milky Quartz ดูคล้ายๆกับหินกลุ่มแก่งกระจาน ที่น่าจะตกตะกอนในสภาวะแวดล้อมแบบน้ำทะเลตื้น ถ้าให้คาดเดา ก็น่าจะอยู่ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส ก็อายุราวๆ 299 ถึง 359 ล้านปี แต่ที่ชอบมากก็คือ บริเวณห้วยคลองเทพาด้านหลังที่พัก สบายๆริมคลองบ้านบาโหย ดูจะเป็นหินบะซอลท์สีดำ วางตัวขวางลำคลองอยู่ พอขึ้นมายืนบนตลิ่งสูงๆดู เหมือนจะเป็น Dike หรือ หินอัคนีเนื้อละเอียด ที่แทรกตัวขึ้นมา น่าจะมีความหนาราว 20-30 เมตร
สภาพทั่วไปเป็นป่าดงดิบชื้นรกชัฏ เป็นป่าไผ่สลับพุ่มไม้ ที่มีต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านสาขาคลุมด้านบน และมียุง ผึ้งและแมลงบินทั่วไป และข้างล่างมีทาก ใช่ครับ ทากย้วยเยี้ย
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่อุทยานพาเดินชมป่าดิบ นั้น ฝนก็ตกปรอยๆมาเป็นระยะๆ เราได้ยินเสียงฝนกระทบใบไม้ด้านบน แต่เราเจอฝนด้านล่างน้อยกว่าที่ได้ยินเสียงเยอะ ฝนน่าจะหล่นลงมาไม่ค่อยจะถึงมั้งขอรับ
ข้าพเจ้าหาถุงเท้ากันทากไม่เจอ เลยไม่ได้เอามา ก็เลยต้องใช้เทปผ้าพันปิดตรงรอยต่อระหว่างกางเกงกับรองเท้า และรอยต่อระหว่างกางเกงท่อนบนกับด้านล่างที่มีซิปเชื่อมกันไว้ พูดง่ายๆคือ ปิดช่องทุกอย่าง ตั้งแต่ขาถึงเอว ก่ะว่าเจ้าทาก เอ็งไม่มีทางมุดมากินเลือดข้าได้แน่นอน
ระหว่างทางนั้น เจ้าหน้าที่อุทยานก็ชี้ให้ดูธรรมชาติหลายอย่าง เช่นรังนกหายากหลายชนิด เห็ดป่าหลายอย่าง ผลไม่ป่าที่นก หรือลิง หรือ นางอาย ที่กินแล้วก็ทิ้งเศษเปลือกผลไม่ และ เมล็ดลงมาจากยอดไม้ มาเรี่ยราดบนพื้น แล้วก็งอกออกมาเป็นต้นหลายชนิด
ซึ่งการพันด้วยเทปกาวผ้า ก็นับว่าได้ผลดี เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่ง ระหว่างที่เดินๆอยู่ ข้าพเจ้าก็นึกสักหรณ์ใจ เลยก้มลงดูที่บริเวณน่อง เจอเจ้าทาก กำลังกระดึ้บๆๆ ข้ามเทปพัน ที่บริเวณข้อเท้า ขึ้นมาแถวน่อง ข้าพเจ้าก็ตะลึงไปชั่วครู่ว่า ฉิกหายแล้ว มันใช้วิธีกระดึ้บขึ้นมาด้วยการยืดตัวจนสุด แล้วหดตัวสลับกันไป ภายในเวลาไม่ถึงนาที ที่ข้าพเจ้ามองอยู่นั้น มันก็ระดึ้บขึ้นมาห่างเป้ากางเกงลงไปสักคืบกว่าๆ มันเร็วมากๆ ขอรับ ก็เลยเรียกน้องทีมงานเข้ามาดูความสามารถของมัน น้องเขาใช้เศษใบไม้จับตัวมันดึงออกจากกางเกงของข้าพเจ้า แต่ความที่มันลื่น และยืดหดตัวได้เก่ง มันยืดตัวแล้วโค้งตัวงับปั้บ เข้าที่ปลายนิ้วของน้องเขาจนรู้สึกได้ว่าโดนกัด อืมมม มัน โค ตะ ระ ดุ กระหายเลือด จริงๆ
อ้อ ระหว่างทางเดิน ผึ้งมาคงได้กลิ่นเหงื่อหวานๆ ของข้าพเจ้า บินมาดูน้ำเหงื่อหวานมันเค็มที่ต้นคอด้านซ้าย เอาตีนหนามแหลมๆมาเดินเล่นบนคอของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็เลยเอาฝ่ามือเพชรฆาต ตบเพี้ยะเข้าให้ ตามสัญชาติญาน ตัวผึ้งก็แบน พร้อมกับเหล็กไนที่จิ้มไปในผิวหนังด้วย ก็ปวดๆเจ็บๆแสบๆ และโชคดีที่ไม่แพ้พิษจากผึ้ง น่ะขอรับ
แต่ในท้ายที่สุด พอตอนออกมาจากป่า มานั่งฟังบรยายจากเจ้าหน้าที่อุทยาน น้องที่นั่งข้างหลังมาสะกิดบอกว่า พี่ๆ พี่โดนทากงับและดูเลือดเข้าแล้วที่สะบักหลังขวา ที่เสื้อเดินป่ายี่ห้อฝรั่งอย่างดี มีผ้าตาข่ายไว้ระบายลม ไว้บริเวณหลังด้านบนทั้งสองข้าง ถ้าพลิกสาบเสื้อที่ปิดช่องตาข่าย ก็จะเห็นเลือดเปรอะไปทั้งบริเวณสักครึ่งฝ่ามือเห็นจะได้ และตัวมันยังอยู่เลย มันร้ายกาจมากๆ กัดผ่านตาข่ายแล้วดูดเลือดซ่ะอ้วนเลย ไม่รู้ว่ามาทางไหน ถ้าไต่มาจากเท้า มันก็กระดึ้บมาไกลทีเดียว ข้าพเจ้าว่าป้องกันเต็มที่แล้ว ปิดช่องที่รองเท้า ปลายขากางเกง รอยต่อของซิป แต่ก็ลืมไปว่าเสื้อตัวนี้มันมีรูระบายอากาศอยู่ข้างหลัง ก็เลยเสร็จเจ้าทากสันกาลาคีรีจนได้ ก็โชคดีที่ข้าพเจ้าไม่แพ้น้ำลายทาก เลือดไหลสักพัก ก็หยุดไปเอง
พื้นที่แถวนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ ยังมีความปลอดภัย ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ปรกติ ยังมาเที่ยวกันได้น่ะขอรับ
ป.ล. รูปเยอะสักนิดน่ะครับ เก็บไว้ในนี้น่าจะดีอย่างที่อาจจะไม่หาย แต่ก็ไม่แน่ขอรับ เจ๊งขึ้นมาก็ตัวใครตัวมัน หุหุ
อันที่จริงข้าพเจ้าเห็นนางอายด้วย แต่หารูปสวยๆ จากเพื่อนร่วมทีมไม่ได้สักคน ส่องไฟเจอตามันตอนสักสองทุ่มครึ่ง ตาสะท้อนแสงจ้าสีออกเหลืองๆ
-------------------------------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/waranon555
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------------------------------
บทความ วรานนท์ หล้าพระบาง (Waranon Laprabang) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย-------------------------------------------------