Waranon ไทย อุดรธานี อุทยานมรดกโลก ภูพระบาท
สมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย จัดทริปศึกษาธรณีวิทยาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาคอีสานตอนบน ในวันนี้ ได้พาพวกเรามาเยี่ยมชมอุทยานมรดกโลกแห่งที่ 8 ของประเทศไทยที่ภูพระบาท อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
อันที่จริง ข้าพเจ้าเคยมาเยี่ยมชมที่นี่ครั้งหนึ่ง เมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นมรดกโลก แต่ก็ยังประทับใจอยู่เสมอ จึงยังชอบที่จะมาชมอีกครั้ง พร้อมกับปรมาจารย์ด้านธรณีวิทยาหลายๆท่านในครั้งนี้
นอกจากหอนางอุสา ที่เป็น Highlight แล้วก็ยังมีรูปแก่ะสลักสมัยขอม ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์อีกหลายรูป ที่มีลักษณะเด่นเป็นของตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานที่แห่งนี้ มีความสำคัญ และ ใช้ในพิธีกรรมมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนยุคประว้ติศาสตร์มาแล้ว จึงไม่น่าสงสัยว่าทำไมจึงได้รับรองจาก Unesco ให้เป็นมรดกโลก ลำดับที่ 8 ของประเทศไทย
สถานที่นี้ก็ไปมาไม่ยาก มีทั้งศิลปะวัฒนธรรมหลายยุคหลายสมัย ลักษณะเด่นทางธรณีวิทยา และป่าไม้อันร่มรื่น ขอรับ
การเดินทางก็ไม่เกินชั่วโมงเองขอรับ จากตัวเมืองอุดรธานี มาเยี่ยมชมกันน่ะครับ
.
-------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/waranon555
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------
บทความ วรานนท์ หล้าพระบาง (Waranon Laprabang) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------
หอนางอุสา ที่ถูกใช้ในเชิงพิธีกรรมตั้งแต่ยุคก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเข้ามา ก่อนจะถูกเปลี่ยนไปเป็นสถานที่ทางพุทธศาสนาโดยสังเกตุได้จากเสาเสมา 8 หลักรอบๆ และ รูปสลักนูนต่ำเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ.
โบก หรือ pod hole ที่เกิดจากการกัดเซาะโดยกระแสน้ำขนาดใหญ่ โดยแม่น้ำอายุหลายแสนปีมาแล้ว แต่วันนี้ แทนที่จะอยู่ในแม่น้ำ กลับถูกยกตัวมาอยู่บนเขา.
เพิงหิน หรือ ภาษาอีสาน และ ภาษาเหนือ เรียกว่า เงิบ ที่มีภาพเขียนสีก่อนประวิติศาสตร์ เป็นรูปควาย เพราะมีเขาโง้งยาว.
ภาพเขียนสีเป็นรูปคน ที่น่าจะแสดงการเต้นรำเพื่อบูชาในพิธีกรรมบางอย่างของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์.
นอกจากภาพเขียนบนผนังแล้ว ยังมีภาพเขียนบนเพดานชะง่อนหินด้วยน่ะขอรับ.
ประสานักธรณีวิทยาที่เป็นแล้วไม่หายสักที ก็อดหาดูลักษณะหินแปลกๆ ไม่ได้ โดยในรูปนี้ จะเห็นชั้นหินสีดำๆ ถูกน้ำหนักด้านบนกดทับทั้งสองข้าง ในขณะที่ยังเป็นชั้นทราย จนทำให้ชั้นทรายสีขาวปูดขึ้นตรงกลาง.
ตรงฐานของหอนางอุสาด้านหนึ่ง จะเห็นชั้นหินเฉียงระดับ วางตัวอยู่บนชั้นหินทรายที่ไม่เฉียงระดับ แต่ชั้นหินเฉียงระดับ มีการแตกเป็นชั้นๆ ออกมาคล้ายขนมชั้น.
รูปเทวรูปสมัยขอม ที่ถูกชะง่อนหินหักทับ
บ่อน้ำนางอุสา ที่มีน้ำขังทั้งปี พวกนักธรณีเราเชื่อว่า น้ำบาดาลซึมไหลมาจากยอดเขาที่ห่างออกไปสักกิโลเมตรหนึ่ง แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่า น่าจะเป็นการแก่ะสลักโดยคนโบราณเพื่อใช้ในพิธีกรรมบางอย่าง แต่ข้าพเจ้าก็แอบทะลึ่งคิดว่า นางอุสา แอบมาอาบน้ำที่นี่หรือเปล่าเน้อะ.