Waranon ไทย พิจิตร สินทรัพย์ใต้ดิน

สินทรัพย์ใต้ดิน วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมเหมืองทองคำชาตรี จังหว้ดพิจิตร ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทอัครา ซึ่งมีพนักงานและคนไทยล้วนๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมากสำหรับคนไทย โดยเฉพาะสายงานด้านธรณีวิทยาเหมืองแร่ และ วิศวกรรมเหมืองแร่

อันที่จริง ตัวเหมืองนั้น แม้จะอยู่ในเขตจังหวัดพิจิตร แต่ก็อยู่ติดเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดเพชรบรูณ์และพิษณุโลก
ในภาพรวมทั่วไป เหมืองทองคำชาตรีเป็นเหมืองเปิด ระเบิดหิน แล้วขุดเอาหิน (ซึ่งมีทองคำปะปนอยู่ไม่มาก และมองไม่เห็นทองคำและแร่เงิน ได้ด้วยตาเปล่า แต่อาจจะพอมองเห็นได้ภายใต้กล้องจุลทรรศ์) เอาไปบดย่อยจนเป็นผง แล้วเข้ากระบวนการแยกเอาแร่ทองคำและเงินออกมา

หินที่พบส่วนมากเป็นเป็นหินอัคนี Igneius rock ประเภท Rhyorite/Diorite/Andesite และ Tuffaceous Shale - Siltsone อายุราวๆ 240+/- ล้านปี ในยุดประมาณ Permo-Triassic (ซึ่งในหินพวกนี้จะไม่มีแร่ทองคำหรืออะไรพวกนั้น) หินที่ว่าดังกล่าว มีร่องรอยของสายแร่ Quartz สีขาวๆ เทาๆ แทรกอยู่เยอะพอประมาณ

เจ้าสายแร่ Quartz นี้แหล่ะครับ ที่เป็นตัวสำคัญ ที่มีแร่ธาตุโลหะที่มีค่าปะปนอยู่ ซึ่งเกิดโดยกระบวนการที่เรียกว่า Hydrothermal หรือ สายน้ำร้อน ที่ไหลซึมขึ้นมาจากใต้โลก

ข้าพเจ้ามีความรู้เรื่องแร่ทองคำและ กระบวนการ Hydrothetmal ไม่มากนัก เนื่องจากตั้งแต่เรียนจบธรณีวิทยามา ก็ได้มีโอกาสทำงานด้านสำรวจแร่ แค่ปีเดียว แต่ก็เข้าใจว่า แร่ทองคำ เงิน ที่เกิดจากกระบวนการ Hydrothemal นี้ จะมีขนาดเล็กมาก อาจจะแต่ 1-10 Micron เอง หรืออาจจะเรียกได้ว่า สูสีกับเจ้าฝุ่น PM2.5 ซึ่งกำลังสร้างปัญหาให้คนไทยในทุกวันนี้

เมื่อหินที่มีสายแร่ทองคำเกิดการผุพัง และกัดเซาะโดยสายลมแสงแดดและน้ำฝน แร่ทองคำขนาดจิ๋วเหล่านี้ก็กลิ้งพัดพาไปโดยกระแสน้ำ แต่แร่ทองคำนี้ เวลามันกลิ้งไปเจอกัน มันดันรู้จักกัน ว่าเป็นพวกเดียวกัน มันก็เข้ามาอยู่ด้วยกัน จับตัวกัน พอกตัวกัน ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ จนทำให้คนเรามองเห็นมันได้ อาจจะเป็นเกล็ดบางๆ หรือ หนาขึ้น หรือไม่ก็อาจจะเป็นเม็ดจิ๋วๆได้ แปลกดีน่ะครับที่มันไม่มีชีวิต แต่ดันรู้จักกัน มาอยู่รวมกันได้

ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคไม่ดี ที่ไม่มีการค้นพบเกล็ดทอง หรือเม็ดทองคำ Gold nuggets ในบริเวณที่ทำเหมืองชาตรีนี้
ระบบเหมืองที่นี้ เป็นระบบปิด กล่าวคือ หินดินทรายน้ำ ที่เกิดอยู่ในเขตเหมืองก็จะไม่มีการนำออกจากพื้นที่ เว้นแต่ก้อนแร่โลหะที่ได้รับจากการถลุงในเตาถลุงแบบปิด ที่เรียกว่า Dore' bars ซึ่งเป็นแท่งโลหะผสมทองและเงิน เพื่อส่งออกไปโรงงานถลุงขั้นสุดท้าย เพื่อแยกเอาทองคำบริสุทธิและเงินบริสุทธิ ออกจากกันต่อไป

ส่วนเศษหินดินทรายน้ำที่เกิดจากกระบวนการผลิต ก็ถูกบำบัดตามหลักวิชาการ ไม่ให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ ได้รับการปกป้องไม่ให้หลุดออกไปจากพื้นที่ที่มีการควบคุมดูแล และ เมื่อสิ้นสุดการทำเมือง เศษหินดินทรายน้ำพวกนี้ ก็จะถูกนำไปกลบฝังในที่ที่ขนพวกมันออกมา

ข้าพเจ้าเข้าใจว่า ทองคำบริสุทธิและเงินบริสุทธิ ที่ผลิตได้ในประเทศไทยนี้ ได้ใช้ในประเทศทั้งหมด และสามารถทดแทนการนำเข้าทองคำและเงินจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก เป็นการประหยัดเงินตราต่างประเทศ และใช้สินทรัพย์ในประเทศได้อย่างคุ้มค่า

ภูมิใจแทนคนไทยครับ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นผู้ผลิตทองคำกับเขาด้วย และที่สำคัญ คนทำงานที่นี่ ใช้คนไทยทั้งหมด ใช้นักธรณีวิทยา และวิศวกรเหมืองแร่ ที่จบจากสถาบันการศึกษาในประเทศนี่แหล่ะครับ
อืมม คนไทยเรานี่ก็เก่งเหมือนกันเน้อะ