Waranon ไทย บึงกาฬ วัดภูทอก
มหัศจรรย์ทะเลทรายโบราณ อายุร่วมร้อยล้านปี ในประเทศไทย
สมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวิชาการ นำชมชั้นหินที่เกิดตัวสะสมตัวในสภาพแวดล้อมที่เป็นทะเลทราย และในวันนี้ถูกยกตัวและถูกกัดเซาะโดยแม่นำโบราญที่ไม่ทราบชื่อ และ ท้ายสุดโดยแม่น้ำโขง ยังคงเหลือไว้แต่แนวสันเขาแคบๆ ยาวๆ ในแนวเหนือใต้ เรียกว่าแนวเขาภูสิงห์ โดยมี หินสามวาฬ หินสามแม่พ่อลูก กำลังแหวกว่ายขึ้นไปทางเหนือ และมีวัดภูทอกอยู่ด้านปลายสุดทางด้านใต้
หินชุดนี้เราเรียกกันว่าหินชุดภูทอก โดยแบ่งเป็นสามหมวดได้แก่ นาหว้า คำตากร้า และ ภูทอกน้อย ซึ่ง หมวดหินภูทอกน้อยนี้ เป็นหินทรายที่พัดพาโดยลม และ สะสมตัวเป็น Sand dune และในส่วนบนสุด จะเป็นชั้นหินแบบ Sand dune หนาเกือบสิบเมตร สลับกับ หินทรายที่ตกตะกอนในทะเลทราย โดยการพัดพามาโดยลม สลับกับการพัดพาโดยน้ำในสภาวะอากาศแห้งแล้ง
การกัดเซาะโดยน้ำและอากาศ ทำให้เกิดภูมิทัศน์ สีสรรที่สวยงาม แปลกตา หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ในประเทศไทย
การไปเที่ยวชมหินสามวาฬนั้นง่ายมาก เมื่อสามสี่ปีที่แล้ว ถนนทางขึ้นยังเป็นทางลูกรัง แต่วันนี้ ปูคอนกรีตเรียบร้อย แล้วเดินต่ออีกร้อยกว่าเมตร เราก็จะไปยืนอยู่บนหลังวาฬได้แล้ว
ส่วนปลายสุดด้านใต้สุดของแนวเขาภูสิงห์ จะเป็นวัดภูทอก ที่เป็นหินทะเลทรายที่ถูกกัดเชาะสี่ด้าน จนเหลือเป็นแท่งหินตั้งโด่ อยู่บนที่ราบสูง
อันที่จริง แนวเขาภูสิงห์นี้ เป็นแกนกลางของโครงสร้างทางธรณีวิทยาแบบประทุนหงาย Syncline โดยขอบด้านข้าง และแกนกลางของโครงสร้างแบบประทุนคว่ำ Anticline เกิดรอยแตกมากมาย จนง่ายต่อการผุพังและกัดเซาะ จึงถูกกัดเซาะไปจนหมดสิ้น
เขาหินที่วัดภูทอกนี้ มีถนนลาดยางถึงที่ ทางวัดทำบันไดไม้ค่อยๆไต่ลัดเลาะขึ้นไปจนถึงยอดเขา เป็นทางเดินชันน้อยชันมากสลับกันไป และ มีมุมหวาดเสียวให้เห็นตั้งแต่ชั้น 5-6-7 ด้วย สำหรับคนที่ชอบผจญภัย โดยตัวยอดเขาชั้น 7 นี้ น่าจะสูงจากพื้นราวๆ 250 เมตรโดยประมาณ ถ้าจะขึ้นลงแบบเร็วๆ ก็น่าจะสักไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินดูวิวดูหิน ดูลวดลายสายสีในเนื้อหิน ไป ก็จะใช้เวลานานสักนิด
ข้าพเจ้ามองสีสรร ลวดลายในเนื้อหิน รูปร่างโค้งเว้าที่เกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำ ก็รู้สึกชื่นชอบมากๆ ตามประสานักธรณีวิทยาที่เป็นมาค่อนชีวิต
มาเที่ยวกันน่ะครับ อากาศเย็นๆสิบกว่าองศาเองครับ โอกาสดีๆ แบบนี้ หายากน่ะครับ
.
-------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/waranon555
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------
บทความ วรานนท์ หล้าพระบาง (Waranon Laprabang) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------
สีสรรชั้นหินที่เกิดจากการกัดกร่อนและละลายเอาเหล็กออกไซด์ออกมาจากเนื้อหิน สร้างสีขาวสลับเหลืองสลับน้ำตาลแดง แปลกตา.
ร่องรอยแตก Fracture ที่ถูกน้ำกัดเซาะขยายเป็นโพรงเป็นซอกหินแคบๆ พอเดินผ่านได้.
เมื่อเดินผ่านซอกหินมาเล็กน้อย ก็จะผ่านชะง่อนผา กึ่งถ้ำ ที่ใช้เป็นที่พักของกองกำลังคอมมูนิส สมัยเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว.
สะพานทางเดินไม้ลัดเลาะไปตามหน้าผา.
รอยแตกลึกห้าหกเมตร วางตัวในแนวเหนือใต้ อยู่ในแนวเดียวกันกับแนวรอยแตกที่แบ่งหินสามวาฬแม่พ่อลูก นั่นเอง.
สันหลังเกล็ดพญานาค โดยด้านปลายเป็นหินแขวนอยู่ มองคล้ายหัวพญานาค.
ยอดเขาวัดภูทอก ที่ชันตั้งฉากกับพื้น.
ชั้นเกลือซัลเฟตสีขาว แสดงรอยริ้วคลื่น ที่สะสมตัวในบึงแห้งในทะเลทราย.
ร่องรอยริ้วคลื่นของชั้นทรายที่พัดพามาโดยลมสลับกับน้ำและชั้นเกลือซัลเฟต ในทางธรณีวิทยาแล้ว เราเชื่อว่าเป็น Inter dunes deposit คือ อยู่ในร่อง หรือ พื้นที่ระหว่าง Sand dunes หรือ ในจังหวะที่มีความชื้น หรือ ฝนตกในทะเลทราย.
รูปนี้ แสดงชั้นหินที่เกิดแบบ Inter dunes วางตัวแบบไม่ต่อเนื่องบนชั้นหินทรายที่ตกตะกอนแบบ Sand dunes ที่อยู่ด้านล่าง วางตัวแบบเฉียงๆ เอียงตัวไปทางซ้ายมือของภาพ.
ประตูเมืองสิงห์ ที่เคยเป็นโตรกผา หรือช่องเขาที่ถูกกัดเซาะโดยแม่น้ำโบราญไม่ทราบชื่อ ลักษณะแบบนี้ ในปัจจุบัน ก็พบเห็นที่ ออบหลวง จังหวัดเชียงใหม่.
หัววาฬตัวแม่ นอนยิงฟัน น่ารัก.
นักธรณีหนุ่มชูฆ้อน.
หินทรายที่เกิดแบบ Inter dunes ที่เกิดร่องรอยการกัดกร่อน Whethering จนกลายเป็นรูปหมอน วางตัวซ้อนๆกัน หรือเกล็ดพญานาค อยู่ด้านล่าง และหินทรายเฉียงระดับ แบบ Sand dunes ที่วางทับอยู่ด้านบน.
ชั้นหินทรายวางตัวเฉียงๆ หนาร่วมสิบเมตร วางทับ หินทรายที่วางตัวในแนวระนาบ
.