ความรู้เรื่องเขื่อน (Dam)
เขื่อน (Dam) เป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านการจัดการน้ำ การผลิตไฟฟ้า การเกษตร และการป้องกันอุทกภัย นอกจากประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมแล้ว เขื่อนหลายแห่งยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการและเชิงนิเวศที่มีคุณค่า สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาศึกษา เรียนรู้ และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงาม
ความหมายและประเภทของเขื่อน
เขื่อน หมายถึง สิ่งก่อสร้างที่ขวางกั้นทางน้ำหรือแม่น้ำ เพื่อเก็บกักน้ำ ควบคุมการไหลของน้ำ หรือผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อนสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและโครงสร้าง เช่น
เขื่อนเก็บกักน้ำ (Storage Dam) – ใช้กักเก็บน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค เกษตรกรรม หรือการชลประทาน เช่น เขื่อนภูมิพล
เขื่อนระบายน้ำ (Diversion Dam) – ใช้เบี่ยงเส้นทางน้ำเพื่อการเกษตรหรือการชลประทาน
เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydropower Dam) – ใช้พลังงานน้ำในการผลิตไฟฟ้า เช่น เขื่อนศรีนครินทร์
เขื่อนป้องกันน้ำท่วม (Flood Control Dam) – มีหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำเพื่อลดความเสี่ยงจากอุทกภัย
เขื่อนดินและเขื่อนคอนกรีต – แบ่งตามวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง
เขื่อนคืออะไร มากกว่าแค่ผนังกั้นน้ำ
ในเชิงวิชาการ เขื่อน คือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อควบคุมการไหลของแม่น้ำ ป้องกันน้ำท่วม และใช้ประโยชน์จากพลังงานน้ำ คำว่า "เขื่อน" ในภาษาอังกฤษคือ "dam" ซึ่งมาจากภาษาดัตช์ คำว่า "dam" หรือ "damm" หมายถึงผนังหรือกำแพงที่กั้นน้ำ ในภาษาไทย คำว่า "เขื่อน" หมายถึงสิ่งก่อสร้างที่ใช้กั้นน้ำหรือกั้นทางน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้า และการคมนาคม
เขื่อนที่สำคัญๆ ของโลกส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่โตและมีความซับซ้อนทางวิศวกรรมสูง เขื่อนแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น
เขื่อนคอนกรีต (Concrete Dam): เป็นเขื่อนที่มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับภูมิประเทศที่มีช่องเขาแคบๆ และรองรับแรงดันน้ำมหาศาลได้ เช่น เขื่อนฮูเวอร์ (Hoover Dam) ในสหรัฐอเมริกา
เขื่อนหินทิ้งและดิน (Embankment Dam): เป็นเขื่อนที่สร้างจากดิน หิน หรือทราย เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฐานรากไม่แข็งแรงนัก เช่น เขื่อนสามผา (Three Gorges Dam) ในประเทศจีน
เขื่อนแบบคันดิน (Earth-fill Dam): เป็นเขื่อนที่สร้างจากดินล้วนๆ มีความยืดหยุ่นสูง และเป็นประเภทที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย เช่น เขื่อนภูมิพล และ เขื่อนสิริกิติ์
ประโยชน์ของเขื่อนพลังงานและชีวิตบทบาทและความสำคัญ
เขื่อนมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในหลายๆ ด้าน ได้แก่
- การผลิตกระแสไฟฟ้าด้านพลังงาน เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เขื่อนจำนวนมากถูกออกแบบมาเพื่อเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โดยอาศัยหลักการเปลี่ยนพลังงานศักย์ของน้ำที่ถูกกักเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำให้เป็นพลังงานจลน์เมื่อไหลผ่านกังหันน้ำ ซึ่งจะไปขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
- การชลประทาน น้ำที่กักเก็บไว้ในเขื่อนสามารถนำไปใช้ในการเกษตรกรรม ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูแล้ง
- การบรรเทาอุทกภัย เขื่อนทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่าง ช่วยลดความรุนแรงของปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน
- การเป็นแหล่งท่องเที่ยว เขื่อนกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมทิวทัศน์ และทำกิจกรรมทางน้ำ เขื่อนหลายแห่งได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น ล่องเรือ ตกปลา พายเรือคายัค และชมทัศนียภาพอันงดงามของอ่างเก็บน้ำ
- ด้านสิ่งแวดล้อม เขื่อนช่วยสร้างแหล่งน้ำจืด แหล่งเพาะพันธุ์ปลา และพื้นที่สีเขียวใหม่
- ด้านเศรษฐกิจและสังคม เขื่อนช่วยสร้างความมั่นคงทางน้ำ ส่งเสริมการเพาะปลูกตลอดทั้งปี เพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
นอกจากนี้ เขื่อนยังช่วยในการประมง การคมนาคมทางน้ำ และเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคที่สำคัญของชุมชนอีกด้วย
การท่องเที่ยวเชิงวิชาการที่เขื่อนในประเทศไทย
ในประเทศไทย มีเขื่อนหลายแห่งที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ที่บริหารงานโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว เขื่อนในประเทศไทยและต่างประเทศหลายแห่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการและเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ทั้งด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมท้องถิ่น ควบคู่กับการสัมผัสธรรมชาติ เช่น
- เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก : เขื่อนคอนกรีตโค้งแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย มีทัศนียภาพภูเขาสลับซับซ้อน
- เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ : เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและล่องเรือชมวิว
- เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี : แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่
- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี : จุดท่องเที่ยวที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกและทัศนียภาพกว้างไกล
- เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก: เขื่อนโค้งคอนกรีตแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สุด เป็นจุดศูนย์กลางการเรียนรู้เรื่องพลังงานน้ำและประวัติศาสตร์การพัฒนาประเทศ
- เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์: เขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำและการสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติกับวิศวกรรม
- เขื่อนรัชชประภา (เชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี: ไม่ได้มีแค่ความสวยงามระดับกุ้ยหลินเมืองไทย แต่ยังมีบทเรียนทางประวัติศาสตร์และความสำคัญในการผลิตไฟฟ้าเพื่อภาคใต้
-
-
การเดินทางไปเที่ยวเขื่อนจึงควรเป็นการเดินทางที่ผสมผสานระหว่างการพักผ่อนและการเรียนรู้ ลองมองโครงสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้ในมุมมองใหม่ ไม่ใช่แค่ผนังคอนกรีตที่กั้นน้ำ แต่เป็นสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนให้เห็นถึงความอัจฉริยะของมนุษย์ในการควบคุมและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างชาญฉลาด
เขื่อนในมิติการเรียนรู้เชิงวิชาการ
เขื่อนถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และการบริหารจัดการน้ำ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าศึกษาเยี่ยมชม เพื่อเรียนรู้เรื่องระบบนิเวศ การจัดการน้ำ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เขื่อนเป็นมากกว่าสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรม หากแต่เป็นมรดกทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ เขื่อนยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงวิชาการที่ส่งเสริมให้ผู้คนตระหนักถึงคุณค่าของน้ำและพลังงาน ตลอดจนความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรเพื่อคนรุ่นหลัง ในโลกของการท่องเที่ยว มีสถานที่หลายแห่งที่ไม่ได้มอบแค่ความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้และแรงบันดาลใจอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือ "เขื่อน" ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงโครงสร้างทางวิศวกรรมขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขื่อนคือจุดตัดของธรรมชาติ เทคโนโลยี และชีวิตผู้คน การเดินทางไปเยี่ยมชมเขื่อนจึงไม่ใช่แค่การไปพักผ่อนหย่อนใจ แต่คือการเรียนรู้เรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่นั้น
.
-------------------------
ที่มา
-
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------
รวมข้อมูลและเรื่องราวธรณีวิทยา
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------