วัดที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ในอยุธยา
วัดที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือพระนอนในอยุธยา ตามรอยพุทธศิลป์ยิ่งใหญ่ในเมืองเก่า ดินแดนมรดกโลกของไทย
แนวคิดที่ดีในการไหว้พระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือพระนอน การกราบไหว้พระพุทธรูปเป็นสิ่งที่เราชาวพุทธปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่การไหว้พระพุทธรูปปางไสยาสน์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "พระนอน" นั้น มีแนวคิดและความหมายที่แตกต่างออกไป ซึ่งหากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้การกราบไหว้ของเรามีความหมายและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ความหมายที่แท้จริงของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในอิริยาบถบรรทม (นอน) โดยมีพุทธศิลป์ที่แตกต่างกันตามเหตุการณ์ในพุทธประวัติ ซึ่งมีอยู่ 3 เหตุการณ์หลัก ๆ ได้แก่
- ปางทรงพระสุบิน (ความฝันของพระพุทธเจ้า) เป็นปางที่แสดงถึงความฝันของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้
- ปางโปรดอสุรินทราหู เป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปาฏิหาริย์เพื่อโปรดอสุรินทราหู ซึ่งเป็นยักษ์ที่มีกายใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า คือ องค์พระพุทธรูปจะอยู่ในพระอิริยาบถนอนตะแคงขวา พระหัตถ์ซ้ายแนบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียร พระเขนย (หมอน) รองรับ และพระบาททั้งสองข้างวางทับเสมอกันครับ
- ปางปรินิพพาน เป็นปางที่สำคัญที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด โดยแสดงถึงช่วงเวลาที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพาน
โดยปกติแล้ว พระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่เราเห็นตามวัดต่างๆ มักจะเป็นปางปรินิพพาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการละสังขาร, การหลุดพ้นจากสังสารวัฏ และการเข้าถึงความสงบที่แท้จริง
แนวคิดที่ดีในการกราบไหว้
เมื่อเราเข้าใจความหมายของพระพุทธรูปปางไสยาสน์แล้ว การกราบไหว้ของเราจะไม่ได้เป็นเพียงแค่พิธีกรรม แต่เป็นการปฏิบัติที่ลึกซึ้งมากขึ้น
ระลึกถึงพระพุทธคุณ: ระลึกถึงพระพุทธเจ้าในอิริยาบถสุดท้ายแห่งชีวิต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเพียรพยายามตลอด 45 ปีแห่งการเผยแผ่พระธรรม และการเข้าถึงที่สุดแห่งความสงบสุข
น้อมนำคำสอนมาปฏิบัติ: การปรินิพพานของพระพุทธเจ้าคือเครื่องเตือนใจว่า ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นอนิจจัง (ไม่เที่ยง) เราควรกราบไหว้ด้วยจิตที่ปลงและปล่อยวาง พร้อมที่จะน้อมนำคำสอนของพระองค์มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
ตั้งจิตอธิษฐานขอพร: หากต้องการขอพร ควรตั้งจิตอธิษฐานในเรื่องที่เกี่ยวกับ การปลดเปลื้องความทุกข์, การปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็น, และการเข้าถึงความสงบทางจิตใจ มากกว่าการขอในเรื่องทางโลกที่ยึดติดกับสังสารวัฏ
การกราบไหว้พระพุทธรูปปางไสยาสน์จึงไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้เรามีแต่สิ่งที่เป็นมงคลในทางโลกเท่านั้น แต่เป็นการปฏิบัติเพื่อให้เราเข้าใจและเข้าถึงความสงบที่แท้จริง อันเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามที่งดงามและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกรุงเก่าอย่างพระนครศรีอยุธยา นอกจากโบราณสถานอันยิ่งใหญ่แล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือการตามรอย "พระนอน" หรือพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งเป็นพุทธศิลป์ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตได้อย่างชัดเจน เพื่อให้ได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่ล้ำลึกของเมืองแห่งนี้ รู้จักกับวัดที่มีพระนอนที่น่าสนใจในอยุธยา
- วัดหน้าพระเมรุราชิการาม (พระอารามหลวง) วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงจากพระประธานในพระอุโบสถที่ไม่ถูกทำลายในสมัยสงคราม แต่ภายในพระวิหารเล็ก ๆ ทางด้านหลังยังมี พระนอน ที่มีความงดงามไม่แพ้กัน และเป็นที่กราบสักการะของชาวบ้าน
- วัดใหญ่ชัยมงคล (Wat Yai Chaimongkol) ภายในวิหารของวัดใหญ่ฯ มี พระนอนองค์ใหญ่ที่สวยงามและสมบูรณ์ เป็นพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ด้านข้างเจดีย์ชัยมงคล ทำให้เป็นที่เคารพสักการะของผู้มาเยือน มีวิหารที่ประดิษฐาน พระนอน องค์ใหญ่ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงามและสมบูรณ์ เป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรเรื่องชัยชนะและความสำเร็จ และถ่ายรูป จุดที่น่าสนใจในวัดมี 4 จุด คือ วิหารพระพุทธไสยาสน์, พระอุโบสถ, เจดีย์ชัยมงคล และพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- วัดเสนาสนาราม (Wat Senasanaram) เป็นวัดพระอารามหลวงที่งดงาม พระนอน ที่นี่ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่ได้รับการบูรณะอย่างดี องค์พระมีพุทธลักษณะที่สวยงามและโดดเด่นไม่แพ้ที่อื่น นิยมขอพรให้พ้นโรคภัย
- วัดโลกยสุธาราม (Wat Lokayasutharam) นี่คือไฮไลต์ที่สำคัญที่สุดของอยุธยา พระนอนวัดโลกยสุธาราม เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา พระนอนกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในเกาะเมือง ขอพรเรื่องความสำเร็จและความสมหวัง มีความยาวถึง 42 เมตร และสูง 8 เมตร แม้จะเหลือเพียงองค์พระ แต่ก็ยังคงความสง่างามและเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน
- วัดธรรมาราม (Wat Thammaram) เป็นอีกหนึ่งวัดที่ซ่อนตัวอยู่นอกเขตเกาะเมือง แต่มี พระนอน ที่มีความงดงามและเปี่ยมด้วยศรัทธา องค์พระมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ให้ความรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาทำบุญและพักผ่อนจิตใจในบรรยากาศที่เงียบสงบ
- วัดพุทไธศวรรย์ (Wat Phutthaisawan) วัดเก่าแก่แห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย รวมถึง พระนอน ที่ตั้งอยู่ในวิหารเล็ก ๆ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่สวยงามและได้รับการบูรณะอย่างดี พระนอนเก่าแก่ ศักดิ์สิทธิ์ด้านคุ้มครองป้องกันภัย แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็ควรค่าแก่การมาชมและกราบไหว้
- วัดกุฎีดาว (Wat Kudidao) แม้จะเป็นวัดที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่ พระนอน ที่วัดแห่งนี้ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็น แม้จะอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ก็เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของวัดในอดีต
- วัดป่าโค (Wat Pa Kho) วัดนี้เป็นวัดเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จัก แต่มี พระนอน ที่ชาวบ้านให้ความเคารพอย่างยิ่ง องค์พระนอนมีความยาวประมาณ 16 เมตร และยังคงสภาพที่สมบูรณ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบและอยากสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้าน
- วัดเกาะแก้ว (Wat Ko Kaeo) เป็นอีกหนึ่งวัดเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากเกาะเมือง ภายในวัดมีวิหารที่ประดิษฐาน พระนอน ที่งดงามและได้รับการดูแลอย่างดี บรรยากาศภายในวัดมีความเงียบสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับการมาทำบุญและพักผ่อนจิตใจ
- วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat) วัดมหาธาตุมีชื่อเสียงจากเศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์ แต่ภายในวัดที่กว้างขวางยังคงมีร่องรอยของ พระนอน ที่เคยประดิษฐานอยู่ แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
- วัดกษัตราธิราชวรวิหาร (Wat Kasattrathirat Worawihan) เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมือง แต่มีความสำคัญและสวยงามไม่แพ้กัน ภายในวิหารด้านหลังมี พระนอน ที่มีความงดงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะและชมความงามของสถาปัตยกรรมภายในวัด
- วัดพระนอน 600 ปี ขอพรโชคลาภ ชื่อวัดก็บอกอยู่แล้วว่ามี พระนอน ที่สำคัญ องค์พระมีความยาวถึง 25 เมตร สร้างขึ้นมานานกว่า 600 ปี เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว
- วัดสามวิหาร (Wat Sam Wihan) แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ที่นี่ก็มี พระนอน ที่น่าสนใจ องค์พระอยู่ในวิหารที่ไม่มีหลังคา ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต นิยมขอพรให้พ้นเคราะห์
- วัดธรรมิกราช พระนอนหินทราย ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว องค์พระได้รับการบูรณะอย่างดีและยังคงสภาพที่สมบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งพระนอนที่ต้องมาชมด้วยตาตัวเอง พระนอนงดงาม มีตำนานเล่าขาน เสริมสิริมงคลชีวิต
- วัดมหาธาตุมีชื่อเสียงจากเศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์ แต่ภายในวัดที่กว้างขวางยังคงมีร่องรอยของ พระนอน ที่เคยประดิษฐานอยู่ แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
- วัดพนมยงค์ (Wat Phanomyong) ภายในวิหารของวัดพนมยงค์เป็นที่ประดิษฐาน พระนอนองค์ใหญ่ในวิหารโปร่ง ที่มีพุทธลักษณะงดงามและมีอายุเก่าแก่ เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอยุธยา มักขอพรให้สุขภาพแข็งแรงและครอบครัวร่มเย็น
- วัดตึก (Wat Tuek) วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มี พระนอน ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่เหลือแต่โครงสร้าง ทำให้องค์พระดูโดดเด่นและสวยงามไปอีกแบบ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบและถ่ายรูป พระนอนเสริมเรื่องโชคลาภและการเดินทางปลอดภัย
- วัดหน้าต่างนอก (Wat Natang Nok) เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเขตเกาะเมือง แต่ก็มี พระนอน ที่งดงามและเป็นที่เคารพของชาวบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวบางคนอาจจะยังไม่เคยไปเยี่ยมชม
การตามรอยพระนอนในอยุธยาไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่เป็นการเดินทางเพื่อสัมผัสกับพุทธศิลป์และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ลองหาเวลาไปเยี่ยมชมสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักเมืองเก่าแห่งนี้มากขึ้นกว่าเดิม
.
----------------------
ที่มาข้อมูล
-