เที่ยวอยุธยา บางปะอิน วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

Google Maps Location https://maps.app.goo.gl/cWpFHS6tb5KbMBnKA
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร: อัญมณีโกธิกแห่งอยุธยา มนตร์เสน่ห์ข้ามกาลเวลา สู่ดินแดนพุทธธรรมอันน่าอัศจรรย์ สัมผัสสถาปัตยกรรมตะวันตกหนึ่งเดียว ใจกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งราชธานีเก่า ที่ "วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร" อัญมณีแห่งศรัทธาและความงามเหนือกาลเวลา
การเดินทางสู่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดินแดนที่เคยเป็นราชธานีอันรุ่งโรจน์ของสยามประเทศ มักจะพาเราย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตรตระการตา ปรางค์ เจดีย์ และโบราณสถานต่าง ๆ ที่เป็นดั่งพยานของประวัติศาสตร์ แต่ท่ามกลางความงดงามตามแบบแผนเหล่านั้น ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ซ่อนเร้นความพิเศษและความมหัศจรรย์ไว้ รอคอยให้นักเดินทางผู้แสวงหาประสบการณ์ใหม่ได้ค้นพบ นั่นคือ "วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร" พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่ไม่ได้มีเพียงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ซึ่งสร้างเลียนแบบโบสถ์คริสต์ ราวกับยกเอาอาสนวิหารจากยุโรปมาตั้งไว้กลางเกาะลอยแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ณ บางปะอิน นี่คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ธรรมดา เป็นเสมือนประตูมิติที่จะพาคุณก้าวข้ามผ่านขอบเขตของวัฒนธรรมและกาลเวลา สู่โลกที่สองสิ่งซึ่งดูเหมือนจะอยู่คนละขั้วมาหลอมรวมกันได้อย่างกลมกลืนและงดงามน่าอัศจรรย์ใจ
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นวัดหลวงชั้นเอก ที่มีความโดดเด่นด้าน สถาปัตยกรรมแบบโกธิกผสมผสานกับเอกลักษณ์ไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดนี้สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 และเป็นจุดเด่นที่สะท้อนถึงการเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกอย่างลงตัว ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสบรรยากาศที่สงบเงียบและความงดงามที่ไม่เหมือนวัดไทยทั่วไป
วัดตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2419 โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนา ในขณะที่พระองค์เสด็จประทับที่พระราชวังบางปะอิน พระองค์มีพระราชประสงค์ให้วัดนี้มีความแตกต่างจากวัดทั่วไปในประเทศไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิกในยุโรป
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ไม่เพียงแต่เป็นวัดไทยแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเช่นนี้ แต่ยังเป็นผลงานอันเกิดจากพระราชดำริอันล้ำยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงต้องการสร้างสิ่งใหม่ที่แปลกตาและน่าสนใจ เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมและเป็นเครื่องจรรโลงใจไปพร้อมกับการบำเพ็ญพระราชกุศลยามเสด็จประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน ความงามอันเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง และบรรยากาศอันสงบเงียบ ทำให้วัดแห่งนี้มิใช่เพียงสถานที่ท่องเที่ยว หากแต่เป็นดินแดนแห่งแรงบันดาลใจ ที่จะเติมเต็มความรู้สึกอัศจรรย์ใจให้กับทุกย่างก้าวของผู้มาเยือน เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการผจญภัยทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร สู่ใจกลางเกาะลอยอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
รายละเอียดที่ตั้ง
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิกัดทางภูมิศาสตร์ของวัดแห่งนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง เนื่องจากตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ ตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน ทำให้การเดินทางไปยังวัดมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเข้าถึงวัดแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย "กระเช้าไฟฟ้าลอยน้ำ" ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของการมาเยือน กระเช้าไฟฟ้าจะออกเดินทางทุก 5-10 นาที สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 4-5 คนต่อรอบ การได้ลอยตัวข้ามผ่านผิวน้ำ สัมผัสสายลมและทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำ คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด และเป็นดั่งการเปลี่ยนผ่านจากโลกภายนอกสู่ดินแดนแห่งความสงบอันวิจิตรบรรจง ค่าใช้จ่ายในการโดยสารกระเช้าเป็นไปตามศรัทธา
ประวัติและความสำคัญ
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและทรงคุณค่า ย้อนไปเมื่อปีพุทธศักราช 2419 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์อันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างพระอารามหลวงแห่งนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศลยามที่เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับยังพระราชวังบางปะอิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน
การก่อสร้างวัดแห่งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี 22 วัน โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2419 และแล้วเสร็จพร้อมจัดงานสมโภชในปี พ.ศ. 2421 สิ่งที่ทำให้วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารแตกต่างจากวัดไทยอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง คือสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะรูปแบบโกธิก (Gothic) ซึ่งเลียนแบบโบสถ์คริสต์คาทอลิก สถาปนิกผู้ออกแบบคือ นายโยอาคิม แกรซี (Joachim Grassi) ชาวอิตาลี ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมอันงดงามในยุคนั้น
พระราชดำริของรัชกาลที่ 5 ในการสร้างวัดด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกทั้งหมดนั้น แสดงให้เห็นถึงพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและล้ำสมัย พระองค์ทรงต้องการให้วัดแห่งนี้เป็น "ของแปลก" และ "น่าสนใจ" สำหรับประชาชนทั่วไป เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างความตระหนักในความงามที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังทรงมีพระราชประสงค์เพื่อความมั่นคงถาวรของพระอารามหลวงในหัวเมือง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความใส่พระทัยในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและบ้านเมือง
ความสำคัญของวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารจึงมิได้จำกัดอยู่เพียงการเป็นพระอารามประจำพระราชวังบางปะอิน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานศิลปะไทยและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัวและกลมกลืน เป็นต้นแบบของการเปิดรับวัฒนธรรมจากต่างชาติมาปรับใช้ในบริบทของไทยได้อย่างชาญฉลาดและสร้างสรรค์
พระอุโบสถของวัดเป็นสถาปัตยกรรมโกธิกที่โดดเด่นที่สุดในประเทศไทย ผนังอาคารสีเหลืองอ่อนโดดเด่นด้วยหน้าต่างโค้งปลายแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะโกธิก ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" เป็นพระประธาน ซึ่งมีความพิเศษไม่แพ้ตัวอาคาร พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ซึ่งผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยมของไทยและศิลปะตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างวิจิตรบรรจง ทำให้มีพุทธลักษณะที่ดูคล้ายสามัญชน แสดงออกถึงความเข้าถึงง่ายและเมตตาธรรมอันบริสุทธิ์
สิ่งที่เพิ่มความอัศจรรย์ใจให้กับภายในพระอุโบสถคือ "กระจกสีประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5" ที่สั่งตรงจากประเทศอิตาลี ประดับอยู่บริเวณฝาผนังด้านหน้าพระประธาน เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านกระจกสีเหล่านี้ ก็จะเกิดเป็นแสงสีที่งดงามจับตา สร้างบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์และน่าเลื่อมใสยิ่งขึ้น นี่คือเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยากยิ่งในวัดไทยทั่วไป เป็นดั่งมรดกทางศิลปะและประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพและพระราชดำริอันล้ำค่าของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปฏิรูปประเทศ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นมากกว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่บอกเล่าเรื่องราวของยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงและการเปิดรับโลกกว้าง
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดและเคล็ดลับในการชม: วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร มีสิ่งปลูกสร้างและองค์ประกอบทางศิลปะที่น่าสนใจมากมาย ควรใช้เวลาเดินชมอย่างละเอียดเพื่อซึมซับความงดงามและเรื่องราวของแต่ละจุด
-
พระอุโบสถสไตล์โกธิก: นี่คือหัวใจสำคัญของวัด อาคารสีเหลืองอ่อนที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย การได้เห็นโบสถ์แบบตะวันตกตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบไทย ๆ เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง สังเกตรายละเอียดของมุขยื่นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกันสองชั้น ช่องหน้าต่างโค้งปลายแหลม และหอระฆังยอดโดมทรงกรวยแหลมสูงสามชั้นที่อยู่ด้านหลัง ถ่ายภาพเก็บความประทับใจจากมุมต่าง ๆ เพราะแสงและเงาจะสร้างมิติที่แตกต่างกันตลอดวัน
-
พระพุทธนฤมลธรรโมภาส: ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานที่มีพุทธลักษณะพิเศษผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยมของไทยและตะวันตก ทำให้องค์พระดูคล้ายสามัญชน มีความสงบและเข้าถึงง่าย ควรใช้เวลาสักครู่เพื่อนั่งสมาธิหรือทำความเคารพ เพื่อซึมซับพลังแห่งความสงบภายใน
-
กระจกสีประดับพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5: นี่คืออีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ไม่ควรพลาด บริเวณฝาผนังด้านหน้าพระประธานมีการประดับกระจกสี (Stained Glass) ที่สั่งตรงมาจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่พบเห็นในวัดไทยอื่น ๆ เมื่อแสงแดดส่องผ่านกระจกสีเหล่านี้ จะเกิดเป็นภาพของพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 และลวดลายอันงดงาม ทำให้ภายในพระอุโบสถเต็มไปด้วยสีสันและความศักดิ์สิทธิ์ ควรชมในช่วงเวลาที่แสงแดดส่องกระทบได้ดี เพื่อเก็บภาพความประทับใจและสัมผัสความงดงามของแสงที่ระยิบระยับ
-
หอพระคันธารราษฎร์: เป็นหอพระที่ประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ ปางขอฝน ซึ่งมีความสำคัญในพิธีกรรมขอฝนตามความเชื่อโบราณ
-
หอพระพุทธศิลา: ภายในประดิษฐานพระพุทธศิลา ปางนาคปรกสมัยลพบุรี ซึ่งแสดงถึงความรุ่งเรืองของศิลปะขอมในอดีต เป็นการผสมผสานศิลปะที่หลากหลายภายในวัดเดียว
-
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว: บริเวณด้านนอกวัด มีพระบรมรูปทรงม้าของรัชกาลที่ 5 ประดิษฐานอยู่ เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ผู้ทรงสร้างวัดแห่งนี้
-
สุสานสวนหินและพิพิธภัณฑ์: บริเวณใกล้เคียงยังมีสุสานสวนหิน และพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดแสดงเรื่องราวและวัตถุโบราณของวัด ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
-
ต้นพระศรีมหาโพธิ์: รัชกาลที่ 5 ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ไว้หน้าพระอุโบสถ เป็นสัญลักษณ์ของพุทธศาสนาที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนาน ควรเดินไปสักการะและสัมผัสถึงร่มเงาแห่งพุทธธรรม
-
อาคารและกุฏิ: อาคารและกุฏิสงฆ์ภายในวัดส่วนใหญ่สร้างในลักษณะตึกฝรั่งทาสีสดใส ซึ่งแตกต่างจากวัดไทยทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ให้บรรยากาศคล้ายเมืองในยุโรปเล็ก ๆ เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าเดินชมและถ่ายภาพ
-
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร พิพิธภัณฑ์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับใบลานและพัดยศ
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนวัดอื่นในประเทศไทย และบรรยากาศที่สงบเงียบ ทำให้วัดนี้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติ การมาเยือนวัดนี้จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและคุ้มค่าอย่างยิ่ง
การเดินทางสู่ "วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร" มิใช่เพียงการเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากแต่เป็นการออกผจญภัยอันน่าอัศจรรย์ใจ สู่ดินแดนที่ความศรัทธาในพุทธศาสนาได้ผลิบานขึ้นท่ามกลางสถาปัตยกรรมแบบโกธิกอันวิจิตรตระการตา ที่นี่คือที่ซึ่งอดีตอันรุ่งโรจน์ของสยามประเทศ ผสมผสานเข้ากับอิทธิพลทางวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ เป็นดั่งมรดกอันล้ำค่าที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมอบไว้ให้แก่แผ่นดิน ด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและพระราชดำริที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะ
จากวินาทีแรกที่คุณก้าวขึ้นสู่กระเช้าไฟฟ้าลอยน้ำ ล่องลอยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา สู่เกาะลอยอันเงียบสงบ คุณจะสัมผัสได้ถึงความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ บรรยากาศอันร่มรื่นของวัดที่ตั้งอยู่กลางผืนน้ำ พร้อมกับทัศนียภาพของพระอุโบสถทรงโกธิกสีเหลืองอ่อนที่ปรากฏเด่นเป็นสง่า จะสร้างความประทับใจและความแปลกตาที่ยากจะลืมเลือน ทุกองค์ประกอบของวัด ตั้งแต่กระจกสีประดับพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 อันงดงามภายในพระอุโบสถ ไปจนถึงพระประธาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" ที่ผสมผสานศิลปะอย่างลงตัว และอาคารกุฏิสไตล์ยุโรปสีสันสดใส ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงความรุ่มรวยทางศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มอบความงดงามทางสายตาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และศูนย์รวมจิตใจที่มอบความสงบให้กับผู้มาเยือนทุกท่าน การได้เดินชมความงดงาม สัมผัสถึงความเงียบสงบ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา จะช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณและสร้างแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิต
ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมออกเดินทางค้นหาอัญมณีแห่งอยุธยาแห่งนี้ สัมผัสความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมข้ามวัฒนธรรม และซึมซับมนต์เสน่ห์แห่งกาลเวลา ณ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร สถานที่ที่ไม่เพียงจะอยู่ในความทรงจำของคุณ แต่ยังจะอยู่ในใจของคุณตลอดไป ว่าครั้งหนึ่งคุณได้มาเยือนดินแดนที่ความแตกต่างได้รวมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างงดงามและเปี่ยมด้วยศรัทธาอย่างแท้จริง
.
----------------------
ที่มาข้อมูล

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
20251023 วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร บางปะอิน อยุธยา
https://photos.app.goo.gl/izDHNmbqxyE4wNBK6
-----------------------
20241214 วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร บางปะอิน อยุธยา
https://photos.app.goo.gl/yWwaJBSdhBNDYa5R6
-----------------------









