iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

เที่ยวนครพนม ธาตุพนม วัดมรุกขนคร

วัดมรุกขนคร: มนต์เสน่ห์แห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นครพนม

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/aevPftA3KVrRUrM18

วัดมรุกขนคร ตั้งอยู่ในตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เดิมชื่อว่า "วัดมรุกขรังษี" สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดย พระเจ้าบรมราชา (แอวก่าน) เจ้าเมืองมรุกขนคร ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่เคยรุ่งเรืองในอดีต และเป็นเมืองท่าสำคัญในการค้าขายกับอาณาจักรล้านช้าง

วัดมรุกขนคร เคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและการศึกษาของเมืองมรุกขนคร มีพระภิกษุ สามเณร และนักเรียนจำนวนมาก แต่เมื่อเมืองมรุกขนครถูกน้ำเซาะตลิ่งพังทลายลงในปี พ.ศ. 2310 และเกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นอันมาก จึงได้ย้ายไปตั้งที่บ้านหนองจันทร์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บริเวณนั้นปรากฏชื่อว่า "บ้านเมืองเก่า" มาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีซากปรักหักพังของเมืองและวัดปรากฎอยู่ให้เห็น อยู่ในบริเวณโรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ ทิศเหนือห้วยบังฮวก  วัดมรุกขนคร ถูกทิ้งร้างไปเป็นเวลานานกว่า 200 ปี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2536 มีการค้นพบซากโบราณสถานของวัดมรุกขนคร และได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันได้รับการบูรณะและตั้งเป็นวัดโดยถูกต้องสมบูรณ์ เดิมเมืองมรุกขนครตั้งอยู่ที่เมืองท่าแขก ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ต่อมาพระบรมราชา (กู่แก้ว) ผู้ครองเมืองมรุกขนนคร ได้ย้ายเมืองจากท่าแขกมาตั้งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงปากห้วยบังฮวก เมื่อราวปี พ.ศ. 2300 และสร้างวัดไว้กลางเมือง 4 วัด คือ

1. วัดดอนกอง (อยู่ระหว่างบ้านดอนกอง ต่อกับบ้านดงขวาง)

2. วัดดงขวางท่า (อยู่ริมถนนชยางกูรทิศตะวันตกเหนือสุดบ้านดงขวางท่า )

3. วัดขอนแก่น (อยู่ริมห้วยบังฮวกลึกเข้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)

4. วัดนาถ่อนท่า /ดอนศาลเจ้า (บ้านนาถ่อนท่าอยู่ริมถนนชยางกูรด้านทิศตะวันออก)

วัดมรุกขนคร ที่ประดิษฐานพระธาตุองค์นี้มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว สร้างโดยพระบรมราชาเจ้าแอวก่าน เจ้าเมืองมรุกขนคร เป็นวัดประจำเมืองที่มีความเจริญมากแต่ต่อมาถูกทิ้งร้างไป มีการพบซากของวัดอยู่ที่โรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ตรงข้ามกับที่ตั้งวัดในปัจจุบัน กั้นด้วยห้วยบังฮวกซึ่งเป็นห้วยที่ไหลมาจากแม่น้ำโขง ส่วนฐานของศาสนสถานเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยอิฐ อายุราวปลายสมัยอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์ ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ใน พ.ศ. 2539 ทางโรงเรียนได้นำอิฐมาก่อล้อมซากอาคารเอาไว้

พระธาตุมรุกขนคร ประดิษฐานอยู่ที่ วัดมรุกขนคร มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กกว่า องค์พระธาตุเป็นสีทองอร่าม สูง 50.9 เมตร ฐานกว้างด้านละ 20 เมตร ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และสิ่งของมีค่าที่ขุดพบจากซากโบราณสถานของวัดมรุกขนครเดิม พระธาตุมรุกขนคร เป็น 1 ในพระธาตุประจำวันเกิด 7 องค์ในจังหวัดนครพนม (โดยพระธาตุพนมเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุหลัก ส่วนอีก 6 องค์เป็นบริวาร) และถือเป็นพระธาตุบริวารของ พระธาตุพนม องค์ที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาพระธาตุทั้ง 7 องค์ 

พระธาตุมรุกขนคร สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2536 องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนรูปทรงสี่เหลี่ยม ลักษณะคล้ายพระธาตุพนมแต่เล็กกว่า สูง 50.9 เมตร ฐานกว้างด้านละ 20 เมตร พระธาตุสูง 50.9 เมตร มีความหมายว่าสร้างขึ้นในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และ จุด 9 หมายถึงรัชกาลที่ 9

อุโบสถ อุโบสถของวัดมรุกขนคร เป็นอุโบสถทรงไทยประยุกต์ มีความสวยงามวิจิตรตระการตา ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย และพระพุทธรูปอื่นๆ อีกหลายองค์ นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงถึงเรื่องราวพุทธประวัติและทศชาติชาดก

ศาลาการเปรียญ ศาลาการเปรียญของวัดมรุกขนคร เป็นศาลาขนาดใหญ่ ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นที่จัดกิจกรรมต่างๆ ของวัด

หอระฆัง หอระฆังของวัดมรุกขนคร เป็นหอระฆังทรงไทย มีความสูงสง่า ภายในแขวนระฆังใบใหญ่ ซึ่งใช้สำหรับตีบอกเวลาและเรียกประชุมพระภิกษุ สามเณร

พิพิธภัณฑ์วัดมรุกขนคร ภายในวัดมรุกขนครยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่ขุดพบจากซากโบราณสถานของวัดมรุกขนครเดิม เช่น พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับ และอาวุธ เป็นต้น

กิจกรรมและเทศกาลที่วัดมรุกขนคร วัดมรุกขนคร มีกิจกรรมและเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น

  • งานนมัสการ พระธาตุมรุกขนคร จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

  • งานสรงน้ำพระ จัดขึ้นในวันสงกรานต์ของทุกปี

  • งานทอดกฐิน จัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี

  • งานลอยกระทง จัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี

ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว

  • ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเมื่อเข้าไปในบริเวณวัด

  • ควรถอดรองเท้าก่อนเข้าไปในอุโบสถ

  • ไม่ควรส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น

  • ไม่ควรสัมผัสหรือเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ

  • ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัดอย่างเคร่งครัด

วัดมรุกขนคร ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาวนครพนมอีกด้วย วัดแห่งนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงความรุ่งเรืองของเมืองมรุกขนครในอดีต และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในจังหวัดนครพนม หากมีโอกาสมาเยือนจังหวัดนครพนม อย่าลืมแวะมาเที่ยวชมวัดมรุกขนคร เพื่อสัมผัสกับความงดงามและความสำคัญของวัดแห่งนี้ด้วยตัวคุณเอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดนครพนม นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมความสวยงามของวัด สักการะพระธาตุมรุกขนคร และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองมรุกขนครในอดีตได้ที่นี่

 

-----------------------------------------

ที่มาข้อมูล

รวบรวมรูปภาพ

www.iok2u.com

-----------------------------------------

เที่ยวนครพนม (Travel Nakhon Phanom)

เที่ยวไทย (Travel Thailand)

-----------------------------------------

  

 

 ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
 

20220723 วัดมรุกขนคร นครพนม

https://photos.app.goo.gl/cUMAeAaHT9qFyCSz8

 
 
  

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward