iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) ชุมแสง นครสวรรค์

 

google map https://maps.app.goo.gl/1pRrD98EyvyJHJ7K8

วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) อภิมหาแห่งศรัทธา ตำนานอมตะแห่งชัยชนะ และความเร้นลับของพญาด่างเกยไชย ริมสายน้ำแห่งกาลเวลา

สู่เส้นทางแห่งพุทธธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ค้นพบจิตวิญญาณแห่งอดีตที่เรืองรอง สัมผัสเรื่องราวแห่งศรัทธาอันมหัศจรรย์ และไขปริศนาแห่งพญาด่างเกยไชย ณ วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) ที่ซึ่งทุกย่างก้าวคือการเดินทางอันลึกซึ้งสู่ใจกลางประวัติศาสตร์ ปัญญา และความเร้นลับ!

หากดวงใจคุณโหยหาการผจญภัยอันเปี่ยมด้วยศรัทธา การเดินทางย้อนเวลาสู่ดินแดนแห่งอดีตอันรุ่งโรจน์ และการสัมผัสถึงมนต์เสน่ห์แห่งพุทธศิลป์ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในทุกอณู วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่งยวด วัดเก่าแก่อันทรงคุณค่ายิ่งแห่งนี้ตั้งตระหง่านอย่างสงบและสง่างาม ริมฝั่งแม่น้ำยม ณ จุดบรรจบอันศักดิ์สิทธิ์ที่แม่น้ำยมโอบกอดแม่น้ำน่านไว้ในอ้อมอก ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามจับใจและเงียบสงบชวนให้หลงใหล ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ แห่งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงศาสนสถานธรรมดาที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น หากแต่คือประตูบานใหญ่ที่เชื้อเชิญให้เราก้าวข้ามกาลเวลา เข้าไปสำรวจเรื่องราว ตำนาน และความศรัทธาที่ถักทอเป็นผืนผ้าแห่งกาลเวลามานานกว่าศตวรรษ เป็นประจักษ์พยานแห่งอารยธรรมอันรุ่งเรือง การมาเยือนวัดแห่งนี้คือการเดินทางอันน่าอัศจรรย์ใจที่จะเติมเต็มทั้งจิตวิญญาณด้วยความสงบเย็น และปัญญาด้วยความเข้าใจในมรดกอันล้ำค่าของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่ยังคงมีชีวิตชีวาและเปล่งประกายมาจนถึงปัจจุบัน วัดพระบรมธาตุแห่งนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับมิติที่ลึกซึ้งของการศรัทธา ความงามของศิลปะ และความน่าทึ่งของตำนานพื้นบ้านที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เป็นประสบการณ์ที่ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการจาริกแสวงบุญในเส้นทางแห่งอดีตอันยิ่งใหญ่ที่รอคอยการค้นพบจากนักเดินทางผู้เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ

วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) ตั้งอยู่ ณ ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นทำเลที่ตั้งอันงดงาม เปี่ยมด้วยมนต์ขลัง และมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์อย่างยิ่งยวด ด้วยการตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยม ณ บริเวณที่แม่น้ำยมไหลมาบรรจบกับแม่น้ำน่าน ก่อเกิดเป็นผืนน้ำกว้างใหญ่ที่สะท้อนแสงตะวันและธรรมชาติอันร่มรื่นอยู่ตลอดเวลา ทัศนียภาพอันสงบเงียบของแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ๆ ตัดกับความเขียวขจีของพืชพรรณสองฝั่ง เป็นภาพที่ชวนให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย การเดินทางมายังวัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการออกเดินทางสู่ใจกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์และประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีลมหายใจอยู่ทุกขณะจิต ท่ามกลางความเงียบสงบของสายน้ำและสายลมที่พัดเอื่อย วัดแห่งนี้ยืนหยัดเป็นประจักษ์พยานแห่งกาลเวลามายาวนานกว่าหกร้อยปี การได้มาเยือนที่นี่จึงไม่ใช่แค่การเยี่ยมชมสถานที่ แต่คือการได้ดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวทางจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง การตั้งอยู่ริมแม่น้ำทำให้วัดแห่งนี้มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำบุญ การปฏิบัติธรรม และการค้นหาความสงบภายในได้อย่างแท้จริง รวมถึงเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ริมน้ำที่สวยงามและน่าประทับใจ ที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงกับผืนแผ่นดินและสายน้ำแห่งชีวิต การมาถึงวัดแห่งนี้จึงเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยทางจิตวิญญาณที่น่าจดจำ Google Map URL: ไม่มีข้อมูล

วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) คืออัญมณีล้ำค่าที่ส่องประกายท่ามกลางกระแสธารแห่งกาลเวลา สะท้อนเรื่องราวแห่งอดีตอันยาวนานและมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาในภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามอันศักดิ์สิทธิ์และเรื่องราวเล่าขานสืบต่อกันมา ชื่อเดิมของวัดคือ "วัดเกยไชย" ซึ่งเป็นชื่อที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงชัยชนะอันศักดิ์สิทธิ์และแฝงไว้ซึ่งเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ใจที่เชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนา ตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมานับศตวรรษกล่าวว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ผู้ทรงเป็นมหาราชแห่งความรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาและเป็นองค์อุปถัมภกที่ยิ่งใหญ่ในยุคสมัยของพระองค์ ได้ทรงมีพระราชศรัทธานำพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นที่สักการะสูงสุดและเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจากทุกสารทิศ เป็นการประกาศพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองแผ่ไพศาล คำว่า "เกยไชย" จึงไม่ได้เป็นเพียงชื่อเรียกสถานที่ หากแต่คือสัญลักษณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ทั้งในสมรภูมิแห่งการรบที่นำมาซึ่งความร่มเย็นและสันติสุขแก่พสกนิกร และชัยชนะเหนือกิเลสในสมรภูมิแห่งศรัทธาและปัญญาที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในยุคต่อๆ มาจนถึงทุกวันนี้

ต่อมา ชื่อของวัดได้ถูกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการเป็น "วัดพระบรมธาตุ เกยไชยเหนือ" เพื่อประกาศให้ประจักษ์แก่คนทั้งหลายถึงการเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือเป็นมงคลสูงสุดของพุทธสถานและเป็นศูนย์รวมแห่งความเคารพสักการะที่มิอาจประเมินค่าได้ และคำว่า "เหนือ" ได้ถูกเติมเข้ามาเพื่อบ่งบอกถึงการตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพื้นที่เกยไชย และเพื่อแยกความแตกต่างจากวัดอื่น ๆ ในละแวกเดียวกันที่อาจมีชื่อคล้ายคลึงกัน หรือเพื่อบ่งบอกถึงความโดดเด่นของวัดแห่งนี้ การเปลี่ยนแปลงชื่อนี้สะท้อนถึงพัฒนาการและความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของวัดในฐานะศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ที่มีสถานะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เคารพสักการะสืบมาอย่างไม่เสื่อมคลาย

จุดเด่นภายในวัดที่ไม่ควรพลาดและควรค่าแก่การมาเยือนและสัมผัสด้วยตนเองอย่างลึกซึ้ง มีดังนี้:

  • พระบรมธาตุเจดีย์: เจดีย์องค์นี้เป็นหัวใจและศูนย์กลางแห่งศรัทธาของวัดพระบรมธาตุอย่างแท้จริง สูงตระหง่านอย่างสง่างาม ท้าทายกาลเวลา เป็นเจดีย์ทรงโบราณที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และหาชมได้ยากยิ่ง ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างศิลปะสุโขทัยอันอ่อนช้อย สง่างาม และล้านนาอันงามสง่า แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางศิลปะที่หลากหลายที่หล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว สร้างสรรค์ความงามเหนือกาลเวลาที่คงอยู่มานานนับศตวรรษ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือที่รู้จักกันในพระนาม "พระเจ้าเสือ" แห่งกรุงศรีอยุธยา ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถในการสร้างสรรค์พุทธสถานอันงดงามและมั่นคง ซึ่งยังคงยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน เป็นพยานหลักฐานถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองในอดีต ภายในพระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้ได้บรรจุพระบรมธาตุของพระอังคุลีมาล หนึ่งในพระอัครสาวกผู้สำคัญในพุทธประวัติ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงยิ่งมาแต่โบราณ และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศ การได้มาสักการะพระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้จึงไม่ใช่เพียงการทำบุญ แต่คือการได้เชื่อมโยงกับเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ในพุทธประวัติและเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอน ชาวบ้านในพื้นที่และนักแสวงบุญจากทั่วทุกสารทิศนิยมเดินทางมาสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อขอพรในเรื่องสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อายุยืนยาว และเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยบุญกุศลและกำลังใจ กลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์และความสงบสุขจะโอบล้อมผู้มาเยือนทันทีเมื่อได้มายืนอยู่เบื้องหน้าพระบรมธาตุเจดีย์องค์นี้ ทำให้รู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนาและบรรพบุรุษที่สั่งสมบุญมาแต่เก่าก่อน เป็นการปลุกจิตวิญญาณแห่งศรัทธาให้ตื่นขึ้นอีกครั้งอย่างเปี่ยมพลัง
  • วิหารพระพุทธศรีสรรเพชญ์ (พระอุโบสถหลังเก่า): ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน วิหารแห่งนี้คืออีกหนึ่งงานพุทธศิลป์ที่งดงามจับตาและควรค่าแก่การศึกษาอย่างยิ่ง ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและลวดลายปูนปั้นที่วิจิตรบรรจงประดับตกแต่งอย่างพิถีพิถัน แสดงถึงความละเอียดอ่อนและฝีมืออันประณีตของช่างไทยในอดีตที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งแต่ละชิ้นงานล้วนเกิดจากแรงศรัทธาอันแรงกล้า โดยเฉพาะลวดลายดอกไม้ที่ประดับตามซุ้มประตูหน้าต่าง ซึ่งแต่ละดอกล้วนบ่งบอกถึงความศรัทธาและความตั้งใจในการสร้างสรรค์สิ่งอันเป็นมงคล และใบเสมาคู่ที่สลักเป็นลายเทพพนมและลายดอกไม้ แสดงให้เห็นถึงการผสานความเชื่อ ธรรมชาติ และความเป็นทิพย์เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนและงดงาม เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในวิหาร เราจะได้พบกับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ นั่นคือ พระพุทธศรีสรรเพชญ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกขานด้วยความเคารพรักว่า "หลวงพ่อรุ่งชัย" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่แผ่เมตตาบารมีและเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนมาอย่างยาวนาน ใบหน้าของท่านเปี่ยมด้วยความสงบและความเมตตา ดึงดูดให้ผู้คนเข้ามากราบไหว้ขอพรด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าและรู้สึกถึงความอบอุ่นใจ นอกจากนี้ ภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อพระครูนิรภัยวิเทต (หลวงพ่อทองอยู่) อดีตเจ้าอาวาสวัดเกยไชยเหนือ ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพรักและเป็นผู้บำรุงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน จริยวัตรอันงดงามและคุณูปการของท่านยังคงเป็นที่จดจำและเป็นแบบอย่างที่ดีงามให้กับคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน การได้มาเยือนวิหารแห่งนี้คือการได้สัมผัสถึงความงดงามทางศิลปะ แรงศรัทธาที่ไม่เคยเสื่อมคลาย และการได้ย้อนรำลึกถึงผู้ที่ได้สร้างสรรค์และดูแลสถานที่แห่งนี้ให้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มทั้งสายตาและจิตใจให้เปี่ยมสุข
  • พิพิธภัณฑ์ราชาจระเข้ยักษ์ “พญาด่างเกยไชย”: นี่คือจุดเด่นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจและแตกต่างจากวัดทั่วไปอย่างชัดเจน ทำให้วัดแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นพิเศษและเป็นที่รู้จักไปทั่ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงนิทรรศการที่หลากหลายและให้ความรู้เกี่ยวกับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสามเสาหลักของสังคมไทย ที่เป็นรากฐานของความมั่นคงและเอกลักษณ์ของชาติไทยมาอย่างยาวนาน รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งและตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ของ ราชาจระเข้ยักษ์ “พญาด่างเกยไชย” ซึ่งเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีเรื่องราวที่ถูกเล่าขานสืบต่อกันมาอย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่น เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติในอดีต ตำนานของพญาด่างเกยไชยไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านธรรมดา แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา ความเชื่อ และวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตที่ต้องอยู่ร่วมกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และสัตว์ป่าที่ดุดัน เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ไทยในปีพุทธศักราช 2531 ซึ่งตอกย้ำถึงความโด่งดังและความผูกพันของสัตว์ในตำนานตัวนี้กับจิตใจของผู้คน ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดง รูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ยักษ์ ที่มีความกว้างถึง 7.60 เมตร ยาว 44 เมตร และสูง 6.30 เมตร ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้มาเยือนทุกคนที่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง ขนาดอันมหึมาของมันดึงดูดสายตาและชวนให้จินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของพญาด่างในตำนานอย่างชัดเจนและน่าเกรงขาม รูปปั้นจระเข้ยักษ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ภายในลำตัวของจระเข้ยังถูกออกแบบให้เป็น ห้องพระสำหรับวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สงบเงียบ เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาและทำสมาธิได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากรูปปั้นได้อย่างชาญฉลาดและสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดมิติทางจิตวิญญาณเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงกับความสงบภายในได้อย่างไม่คาดคิด นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง ซากจระเข้สตัฟฟ์ เพื่อให้ความรู้ทางชีววิทยาเกี่ยวกับจระเข้แก่ผู้สนใจ ซึ่งเป็นส่วนที่เสริมสร้างความเข้าใจในธรรมชาติของสัตว์ชนิดนี้และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ป่า การผสมผสานระหว่างเรื่องเล่าทางศาสนา ตำนานพื้นบ้าน และองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่แปลกใหม่ สร้างสรรค์ และน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับทุกเพศทุกวัย เป็นการเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน และความเชื่อกับความรู้เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนและลงตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • ลอดขาจระเข้: เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่เหมือนใครและได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ที่มาเยือนวัด ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านในท้องถิ่นที่คุ้นเคยกับพิธีกรรมนี้ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากที่ไกลๆ เพื่อแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ การลอดขาจระเข้เชื่อกันว่าจะช่วย สะเดาะเคราะห์ ปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ความทุกข์โศกโรคภัยที่อาจเข้ามากล้ำกราย และเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ให้กับชีวิต ให้พ้นจากเรื่องร้ายๆ และพบเจอแต่สิ่งดีงาม ความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองตลอดปี เป็นพิธีกรรมที่เต็มไปด้วยความเชื่อ ความหวัง และศรัทธาของผู้คนที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ด้วยใจที่บริสุทธิ์และปราศจากอุปสรรค เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาด หากคุณได้มาเยือนวัดแห่งนี้ การได้ลอดขาจระเข้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพิ่มสีสันและพลังทางจิตใจให้กับการเดินทางของคุณ เป็นความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นและความศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากยิ่ง เป็นการชำระล้างจิตใจและเตรียมพร้อมรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

นอกจากจุดเด่นที่กล่าวมาแล้ว วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) ยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความผูกพันของชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา อันเป็นวันสำคัญยิ่งที่ระลึกถึงการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะมีการจัดงานนมัสการพระบรมธาตุอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาและเต็มไปด้วยผู้คนศรัทธาที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมแสดงความเคารพและศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าและพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นมงคลสูงสุด การได้เข้าร่วมงานนี้เป็นประสบการณ์ที่หาค่ามิได้และจะประทับอยู่ในความทรงจำไปตราบนานเท่านาน นอกจากนี้ ยังมี งานปิดทองไหว้พระห่มผ้าองค์หลวงพ่อพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ แสดงออกถึงความศรัทธาและความเคารพต่อองค์เจดีย์และพระพุทธคุณที่ยังคงสถิตอยู่คู่โลก และ เทศกาลกินตาล ซึ่งจัดขึ้นอย่างสนุกสนาน อบอุ่น และเต็มไปด้วยรอยยิ้มร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเกยไชย ในวันขึ้น 14 ถึง 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี เทศกาลเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสในการทำบุญและสร้างกุศลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมท้องถิ่น การรวมตัวของผู้คนในชุมชน และการสานสัมพันธ์ระหว่างผู้คนต่างวัย ต่างถิ่น ให้ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน สะท้อนถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างวัดกับวิถีชีวิตของผู้คนโดยรอบอย่างแท้จริง และยังคงสืบทอดต่อไปยังคนรุ่นหลังให้ได้เรียนรู้และรักษาไว้ซึ่งมรดกอันล้ำค่านี้อย่างภาคภูมิใจ

 

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด: เมื่อมาถึงวัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) แล้ว อย่าพลาดโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ:

  • สักการะพระบรมธาตุเจดีย์: นี่คือหัวใจแห่งศรัทธาของวัด ใช้เวลาสักครู่เพื่อยืนสงบนิ่งเบื้องหน้าพระบรมธาตุเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ก้มลงกราบด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเคารพ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุด สุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อายุยืนยาว และความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต การได้สัมผัสถึงพลังงานแห่งศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมาจากองค์เจดีย์ จะช่วยให้จิตใจสงบและเปี่ยมด้วยพลังบวกอันลึกซึ้งอย่างน่าอัศจรรย์
  • เยี่ยมชมวิหารพระพุทธศรีสรรเพชญ์: ก้าวเข้าสู่ภายในวิหารอันเก่าแก่ ชื่นชมสถาปัตยกรรมและลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรตระการตาที่ประดับประดาอยู่ทุกซอกมุม ชมองค์หลวงพ่อรุ่งชัยและรูปหล่อหลวงพ่อทองอยู่ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเข้าใจในพุทธศิลป์ที่งดงามและทรงคุณค่าของช่างไทยในอดีต เป็นการเดินทางผ่านกาลเวลาสู่ความงามที่ยังคงอยู่
  • สำรวจพิพิธภัณฑ์ราชาจระเข้ยักษ์ “พญาด่างเกยไชย”: ดื่มด่ำกับเรื่องราวของจระเข้ในตำนานอันน่าตื่นเต้นที่เคยโลดแล่นอยู่ในสายน้ำแห่งนี้ ชมรูปปั้นยักษ์ที่สร้างความอัศจรรย์ใจด้วยขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงความรู้ทางชีววิทยาจากซากจระเข้สตัฟฟ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานความรู้และความเชื่อเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อย่าลืมเข้าไปในห้องพระสำหรับวิปัสสนากรรมฐานภายในตัวจระเข้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์แห่งความสงบที่แปลกใหม่และหาได้ยาก
  • ลอดขาจระเข้: เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นความเชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ อย่าพลาดที่จะลองเข้าร่วมพิธีกรรมลอดขาจระเข้เพื่อสะเดาะเคราะห์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งอัปมงคล ความทุกข์โศกโรคภัย และเสริมดวงชะตาชีวิตให้พบเจอแต่ความโชคดี ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรือง เป็นประสบการณ์ที่ควรลองสักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดและลึกซึ้ง

วัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) ไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ แต่คือขุมทรัพย์ทางจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่รอคอยการมาเยือนและการค้นพบ ที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของพุทธศิลป์อันประณีตที่สืบทอดมายาวนาน ดื่มด่ำกับเรื่องราวและตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ที่ถักทอเป็นผืนผ้าแห่งศรัทธามานับศตวรรษ และค้นพบความสงบภายในจิตใจ ณ ดินแดนที่ศรัทธาและความมหัศจรรย์หลอมรวมกันอย่างลงตัวในทุกอณู ไม่ว่าจะเป็นการมาสักการะพระบรมธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุด การชื่นชมสถาปัตยกรรมที่งดงามดุจภาพวาดจากอดีตกาล การเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์จระเข้ยักษ์พญาด่างเกยไชยที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ หรือการเข้าร่วมพิธีกรรมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างการลอดขาจระเข้เพื่อสะเดาะเคราะห์ การเดินทางมายังวัดแห่งนี้คือการเปิดประสบการณ์ที่มิอาจลืมเลือน เป็นการเติมเต็มชีวิตด้วยปัญญา ความเมตตา และความอิ่มเอมใจอย่างแท้จริง ขอเชิญทุกท่านผู้แสวงหาการผจญภัยทางจิตวิญญาณ มาเยือนวัดพระบรมธาตุ (วัดเกยไชยเหนือ) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตำนานอันยิ่งใหญ่ สร้างความทรงจำอันล้ำค่าที่จะคงอยู่ตลอดไปในดวงใจ และสัมผัสถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงแผ่รัศมีมายาวนานกว่าหกศตวรรษ ที่นี่คือสถานที่ที่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตมาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์แบบ รอคอยให้คุณมาเยือนด้วยใจที่เปิดกว้างและพร้อมที่จะเรียนรู้

.

-----------------------

ที่มาข้อมูล

รวบรวมรูปภาพ

www.iok2u.com

-----------------------

เที่ยวนครสวรรค์ (Travel Nakhon Sawan)

เที่ยวไทย (Travel Thailand)

-----------------------

 

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่

 

20220910 พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา เมือง นครสวรรค์

https://photos.app.goo.gl/35kbpyGH3t4f2czi7

.

------------------------

 

 

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward