พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี (National Museum Ubon)
แผนที่ https://maps.app.goo.gl/Rey73ki7y8i8Qido9
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี: ประตูสู่มรดกอีสานใต้ อดีตกาลที่เล่าขานผ่านกาลเวลา สัมผัสวิญญาณแห่งอารยธรรม ลุ่มน้ำโขง เบิกฟ้าแดนอีสาน สำรวจมรดกเหนือกาลเวลา ณ อุบลราชธานี
หากหัวใจของคุณใฝ่หาการผจญภัยในห้วงลึกของประวัติศาสตร์อันยาวนาน อยากสัมผัสกลิ่นอายแห่งอารยธรรมที่ร้อยเรียงเรื่องราวจากอดีตกาลมาสู่ปัจจุบัน "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี" คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณ ทว่าคือประตูบานใหญ่ที่เปิดออกสู่โลกอันน่าอัศจรรย์ของดินแดนอีสานใต้ ดินแดนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งวัฒนธรรม ความเชื่อ และวิถีชีวิตที่หยั่งรากลึกมานับพันปี
การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือการออกเดินทางสู่การเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงแก่นแท้ของจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์อันเร้นลับ ไปจนถึงการก่อร่างสร้างเมืองและการเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรต่างๆ ที่เคยประทับรอยเท้าไว้บนผืนแผ่นดินแห่งนี้ คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ ศิลปะอันวิจิตร และเรื่องราวของบรรพบุรุษที่ถูกถ่ายทอดผ่านสิ่งจัดแสดงแต่ละชิ้นอย่างมีชีวิตชีวา เสมือนหนึ่งว่ากาลเวลาได้ย้อนคืนมาและเล่าขานเรื่องราวเหล่านั้นให้เราได้สดับฟังด้วยตัวเราเอง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามในอาคารทรงปั้นหยาเก่าแก่ที่เคยเป็นศาลากลางจังหวัดมาก่อน อาคารซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมดีเด่น แสดงให้เห็นถึงความงดงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วยตัวของมันเอง ภายในประกอบด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการที่หลากหลายถึง 10 ห้อง แต่ละห้องจะนำพาผู้มาเยือนดำดิ่งลงไปในมิติที่แตกต่างกัน ทั้งด้านภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี วัฒนธรรมพื้นบ้าน และชาติพันธุ์วิทยาของอุบลราชธานีและภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งอดีตกาลที่ส่งผ่านออกมาจากทุกอณูของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องที่จัดแสดงเรื่องราวของยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เผยให้เห็นร่องรอยการตั้งถิ่นฐานและวิถีชีวิตของมนุษย์โบราณ ห้องที่นำเสนอความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมทวารวดีและเจนละที่ส่งอิทธิพลต่อศิลปะและศาสนาในภูมิภาคนี้ หรือห้องที่สะท้อนถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมขอมและไทย-ลาวที่หล่อหลอมรวมกันเป็นเอกลักษณ์ของอีสาน
การได้มาเยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี จึงมิใช่เพียงแค่การมาเที่ยวชมสถานที่แห่งหนึ่ง แต่เป็นการเดินทางอันล้ำค่าที่เปิดโลกทัศน์และเติมเต็มจิตวิญญาณของผู้รักการเรียนรู้และชื่นชมในความงดงามของอดีต ที่นี่คือคลังความรู้ที่ไม่มีวันหมดสิ้น เป็นแหล่งรวมของเรื่องราวที่รอคอยให้คุณมาค้นพบและเชื่อมโยงเข้ากับปัจจุบัน เพื่อให้เราได้ตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และส่งต่อมาให้เราได้ภาคภูมิใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางผู้แสวงหาความรู้ นักประวัติศาสตร์มือสมัครเล่น หรือเพียงผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของโลกปัจจุบันเพื่อมาสัมผัสความสงบและเรื่องราวอันน่าทึ่ง ที่นี่คือสถานที่ที่คุณจะได้รับแรงบันดาลใจและประสบการณ์อันมิอาจลืมเลือนกลับไปอย่างแน่นอน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ตั้งอยู่ ณ ใจกลางเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทำเลที่เข้าถึงได้ง่ายและรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญอื่นๆ ของจังหวัด ที่อยู่ของพิพิธภัณฑ์คือ 318 ถนนเขื่อนธานี ตัดกับถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี รหัสไปรษณีย์ 34000
ประวัติและความสำคัญ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี มิได้เป็นเพียงอาคารจัดแสดงโบราณวัตถุ แต่เป็นสถานที่ที่หลอมรวมประวัติศาสตร์อันยาวนานของจังหวัดอุบลราชธานีไว้ด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในแง่ของตัวอาคารเองและสิ่งของที่จัดแสดงภายใน การเดินทางของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมของชาติอย่างแท้จริง
จากศาลากลางสู่พิพิธภัณฑ์: การเปลี่ยนผ่านที่ทรงคุณค่า
อาคารที่ใช้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานีในปัจจุบัน มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและยาวนาน ตัวอาคารเป็นตึกชั้นเดียวในรูปแบบสถาปัตยกรรมทรงปั้นหยาที่ได้รับอิทธิพลตะวันตก สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2461 (ค.ศ. 1918) ในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เดิมทีอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็น "ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี" ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดินของจังหวัดมาอย่างยาวนานกว่าหลายทศวรรษ
ในช่วงเวลานั้น ศาลากลางแห่งนี้เป็นทั้งที่ทำการของผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นศูนย์รวมของหน่วยงานราชการต่างๆ และเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์และการพัฒนาของจังหวัดอุบลราชธานีมากมายหลายครั้ง การเป็นศูนย์กลางการปกครองนี้เองที่ทำให้อาคารแห่งนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจิตใจของผู้คนในท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
ต่อมา เมื่อจังหวัดอุบลราชธานีมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว ทำให้ปริมาณงานราชการและจำนวนบุคลากรเพิ่มมากขึ้น อาคารศาลากลางเดิมเริ่มไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จังหวัดอุบลราชธานีจึงได้จัดสร้างศาลากลางหลังใหม่ขึ้น และย้ายหน่วยงานราชการส่วนใหญ่ไปประจำการที่อาคารหลังใหม่ ส่วนอาคารเก่าแห่งนี้ได้ถูกใช้งานต่อมาในฐานะที่ว่าการอำเภอเมืองอุบลราชธานีและที่ทำการของหน่วยงานราชการขนาดเล็กอื่นๆ อีกระยะหนึ่ง
จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2526 (ค.ศ. 1983) ด้วยเล็งเห็นถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอาคาร จังหวัดอุบลราชธานีจึงได้มอบอาคารศาลากลางเก่าแห่งนี้ให้กับกรมศิลปากร เพื่อดำเนินการซ่อมแซม บูรณะ และปรับปรุงให้เป็น "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัด" ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาและอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ที่มีคุณค่าให้กลับมามีชีวิตชีวาและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนอีกครั้ง
หลังจากดำเนินการบูรณะอย่างพิถีพิถัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศในขณะนั้น) ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พุทธศักราช 2532 (ค.ศ. 1989) นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของแหล่งเรียนรู้สำคัญแห่งนี้ และยังเป็นปีที่อาคารแห่งนี้ได้รับรางวัล "อาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2532" จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และทรงคุณค่าของอาคารแห่งนี้ และในที่สุด กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตโบราณสถานสำหรับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี เมื่อปีพุทธศักราช 2544 (ค.ศ. 2001) เพื่อคุ้มครองและอนุรักษ์มรดกชิ้นสำคัญนี้ไว้
นิทรรศการและสิ่งจัดแสดง: คลังแห่งปัญญาอีสาน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดีของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดอุบลราชธานี
การจัดแสดงถาวรของพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 10 ห้องจัดแสดงที่ครอบคลุมเนื้อหาอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ดังนี้:
-
ห้องข้อมูลทั่วไปของจังหวัดอุบลราชธานี: เป็นจุดเริ่มต้นที่ให้ภาพรวมของจังหวัด ทั้งในด้านภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ การปกครอง และข้อมูลสำคัญต่างๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจเนื้อหาในห้องอื่นๆ
-
ห้องภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เผยให้เห็นถึงลักษณะทางกายภาพของภูมิภาค ดิน หิน แร่ธาตุ และปัจจัยทางธรรมชาติที่ส่งผลต่อการตั้งถิ่นฐานและวิถีชีวิตของผู้คน
-
ห้องสมัยก่อนประวัติศาสตร์: นำเสนอเรื่องราวการกำเนิดของมนุษย์ในพื้นที่ การค้นพบเครื่องมือหิน โครงกระดูก และหลักฐานอื่นๆ ที่แสดงถึงการตั้งถิ่นฐานและการดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคแรกเริ่มในดินแดนอีสานใต้
-
ห้องวัฒนธรรมทวารวดีและวัฒนธรรมเจนละ: จัดแสดงโบราณวัตถุที่สะท้อนอิทธิพลของวัฒนธรรมจากอาณาจักรโบราณเหล่านี้ ซึ่งส่งผลต่อรูปแบบศิลปะ ศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดู ที่แพร่หลายในภูมิภาคนี้
-
ห้องวัฒนธรรมขอม: นำเสนอหลักฐานและโบราณวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และอิทธิพลของอาณาจักรขอม (เขมร) ที่เคยแผ่อำนาจและวัฒนธรรมเข้ามาในพื้นที่อุบลราชธานี เช่น ศิลปะขอม รูปเคารพ และสถาปัตยกรรม
-
ห้องวัฒนธรรมไทย-ลาว: สะท้อนการผสมผสานและหล่อหลอมของวัฒนธรรมจากดินแดนสยามและล้านช้าง (ลาว) ที่ก่อให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะของชาวอีสาน ทั้งในด้านภาษา ประเพณี และวิถีชีวิต
-
ห้องผ้าโบราณและผ้าพื้นเมือง: จัดแสดงผ้าทอพื้นเมืองอันวิจิตรงดงาม ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ และกรรมวิธีการผลิตที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญาและศิลปะการทอผ้าของท้องถิ่น
-
ห้องดนตรีพื้นเมือง: นำเสนอเครื่องดนตรีพื้นบ้านประเภทต่างๆ ที่ใช้ในการแสดงและประกอบพิธีกรรมทางวัฒนธรรม พร้อมข้อมูลและเรื่องราวเกี่ยวกับบทบาทของดนตรีในชีวิตประจำวันของชาวอีสาน
-
ห้องศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน: จัดแสดงเครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน งานฝีมือ หัตถกรรมพื้นบ้านที่สร้างสรรค์จากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณค่า
-
ห้องการปกครองและงานประณีตศิลป์ในพุทธศาสนา: บอกเล่าเรื่องราวการก่อตั้งเมือง การปกครอง และพัฒนาการของพุทธศาสนาในอุบลราชธานี รวมถึงจัดแสดงพระพุทธรูป งานพุทธศิลป์ และเครื่องประดับอันวิจิตรงดงามที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
สิ่งจัดแสดงที่ไม่ควรพลาด: อรรธนารีศวรหินทราย
ในบรรดาสิ่งจัดแสดงทั้งหมด "อรรธนารีศวรหินทราย" ถือเป็นไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ประติมากรรมแกะสลักชิ้นนี้เป็นรูปของพระศิวะและพระอุมาเทวีรวมกันเป็นองค์เดียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรวมกันของพลังหยินและหยาง หรือบุรุษเพศและสตรีเพศในศาสนาฮินดู อรรธนารีศวรองค์นี้มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในรูปสลักอรรธนารีศวรที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังมีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นทั้งในด้านกายวิภาคและรายละเอียดของเครื่องประดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงฝีมือช่างแกะสลักในอดีตที่ประณีตและเปี่ยมด้วยความเชื่อศรัทธา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะแหล่งรวบรวม อนุรักษ์ และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานีและภูมิภาคอีสานใต้ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำความเข้าใจรากเหง้าของตนเอง และยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาสัมผัสความงามและความลึกซึ้งของอารยธรรมแห่งดินแดนแห่งนี้ ที่นี่คือประจักษ์พยานแห่งกาลเวลาที่ยังคงยืนหยัดและเล่าขานเรื่องราวอันทรงคุณค่าให้แก่ผู้มาเยือนได้อย่างไม่รู้จบ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่รวบรวมโบราณวัตถุ แต่เป็นดั่งห้องสมุดมีชีวิตที่ร้อยเรียงเรื่องราวแห่งอารยธรรมอันเก่าแก่ของดินแดนอีสานใต้ให้เราได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด การเดินทางมายังที่แห่งนี้คือการเปิดประตูสู่โลกอีกใบ โลกที่กาลเวลาถูกหยุดนิ่ง เพื่อให้เราได้ย้อนกลับไปทำความเข้าใจถึงรากเหง้าของวัฒนธรรม ความเชื่อ และวิถีชีวิตที่หล่อหลอมรวมกันเป็นอุบลราชธานีในปัจจุบัน
จากอาคารศาลากลางเก่าแก่ที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครอง สู่การเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องในด้านสถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ทำหน้าที่อันทรงคุณค่าในการเก็บรักษาและเผยแพร่ความรู้ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์อันเร้นลับ ผ่านความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมทวารวดี เจนละ และขอม ไปจนถึงการผสมผสานของวัฒนธรรมไทย-ลาวที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิ่งจัดแสดงแต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นอรรธนารีศวรหินทรายอันเก่าแก่ ผ้าทอพื้นเมืองที่ประณีต หรือเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นเสมือนชิ้นส่วนปริศนาที่รอคอยให้เรามาประกอบรวมกันเพื่อสร้างภาพความเข้าใจที่สมบูรณ์
การได้เดินสำรวจผ่าน 10 ห้องจัดแสดง คือการเดินทางผ่านกาลเวลาอย่างแท้จริง คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยาที่กำหนดชีวิตของผู้คน ได้เข้าใจถึงความพยายามในการดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคแรกเริ่ม ได้ซาบซึ้งในความงดงามของศิลปะและภูมิปัญญาจากยุคสมัยที่แตกต่างกัน และได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์มรดกเหล่านี้ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง
.
-----------------------
ที่มาข้อมูล
-
รวบรวมรูปภาพ
-----------------------
เที่ยวอุบลราชธานี (Travel Ubonratchathani)
-----------------------

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
20250101 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี
------------------------







