วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) มีชื่อเต็มว่า วัดจันดีโบโรบูดูร์ แต่คนไทยมักรู้จักและเรียกกันในชื่อว่า วัดมหาบรมพุทโธ (Param Buddho) หรือวัดมหาบุโรพุทโธ เป็นวัดนิกายมหายาน ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะชวา อยู่ในเขตอำเภอมาเกอลัง จังหวัดมุนตีลัน ประเทศอินโดนีเซีย
วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงนับได้ว่าเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่โลก วัดพุทธที่มีชื่อเสียงแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 และ 9 ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะชวา สร้างขึ้นแบบมีสามชั้น ชั้นแรกเป็นฐานเสี้ยมที่มีลานสี่เหลี่ยมศูนย์กลางห้าแห่ง ลำต้นเป็นรูปกรวยที่มีแท่นวงกลมสามแท่น และที่ด้านบนสุดเป็นสถูปขนาดใหญ่ ผนังและราวบันไดตกแต่งด้วยภาพนูนต่ำอย่างดี ซึ่งแบ่งออกเป็น 9 ชั้น โดยเป็นสี่เหลี่ยม 6 ชั้น และวงกลม 3 ชั้น บนยอดมีโดมตรงกลาง ตกแต่งด้วยภาพพิมพ์แนวนูน 2,672 ภาพ และพระพุทธรูป 504 องค์ โดมตรงกลางล้อมรอบด้วยพระพุทธรูป 72 องค์ แต่ละองค์ประดิษฐานข้างในสถูปที่ถูกเจาะรูรอบแท่นทรงกลม สามชั้น ฐานเสี้ยมที่มีลานสี่เหลี่ยมศูนย์กลางห้าแห่ง ลำต้นเป็นรูปกรวยที่มีแท่นวงกลมสามแท่น และที่ด้านบนสุดเป็นสถูปขนาดใหญ่ ผนังและราวบันไดตกแต่งด้วยภาพนูนต่ำอย่างดี ครอบคลุมพื้นที่รวม 2,500 ตร.ม.
วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) ได้รับการบูรณะหลายครั้ง ได้รับการบูรณะด้วยความช่วยเหลือของ UNESCO ในปี 1970 โดยครั้งใหญ่ที่สุดเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1975 ถึง 1982 โดยรัฐบาลอินโดนีเซียและยูเนสโก ตามมาด้วยการจัดให้เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก
วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยราชวงศ์ไศเลนทร์ โดยสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมชวาที่ผสมกับประเพณีพื้นบ้านในการสักการะบรรพบุรุษของอินโดนีเซีย และแนวคิดนิพพานของศาสนาพุทธ วัดนี้มีอิทธิพลศิลปะคุปตะ ซึ่งสะท้อนถึงอิทธิพลของอินเดียในภูมิภาคนี้ แต่ยังคงมีฉากและองค์ประกอบมากพอที่ยังทำให้โบโรบูดูร์มีความเป็นเอกลักษณ์แบบอินโดนีเซีย อนุสรณ์นี้เป็นเจดียสถานแก่พระโคตมพุทธเจ้าและเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวพุทธ ผู้แสวงบุญจะเริ่มต้นที่ฐานอนุสรณ์และเดินตามเส้นทางรอบ ๆ อนุสรณ์ แล้วขึ้นไปข้างบนผ่านจักรวาลวิทยาแบบพุทธ 3 ชั้น กามธาตุ (โลกแห่งความต้องการ), รูปธาตุ (โลกของรูปร่าง) และ อรูปธาตุ (โลกที่ไร้รูปร่าง)
บางหลักฐานกล่าวว่า โบโรบูดูร์ถูกสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 และถูกทอดทิ้งไปหลังอาณาจักรฮินดูในชวาเสื่อมถอยลง และชาวชวาหันไปเข้ารับอิสลามหลังคริสต์ศตวรรษที่ 14 การมีตัวตนของสถานที่เริ่มเป็นที่รู้จักทั่วโลกใน ค.ศ. 1814 โดยเซอร์ ทอมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ตอนยังเป็นผู้ปกครองชวาของอังกฤษ โดยนำข้อมูลวัดมาจากชาวอินโดนีเซียท้องถิ่น
วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับพุกามในประเทศพม่า และนครวัดในประเทศกัมพูชา โบโรบูดูร์ยังคงเป็นจุดแสวงบุญยอดนิยม โดยชาวพุทธในอินโดนีเซียจะมีการจัดงานฉลอง วันวิสาขบูชาที่นี่ในทุกปี และโบโรบูดูร์ยังนับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย
ประวัติ
วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) สร้างขึ้นโดย กษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือ พุทธศักราช 1393 ตั้งอยู่บนที่ราบเกฑุ ทางฝั่งขวาใกล้กับแม่น้ำโปรโก สร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านตารางฟุตบนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 121 เมตร สูง 123 เมตร เป็นรูปทรงแบบปิรามิด มีลานเป็นชั้นลดหลั่นกัน 8 ชั้น และใน 8 ชั้นนั้น 5 ชั้นล่างเป็นลาน 4 เหลี่ยม 3 ชั้นบนเป็นลานวงกลม สามวงกลมยอดโดมกลางและบนลานกลมชั้งสูงสุดมีพระสถูปตั้งสูงขึ้นไปอีก 31.5 เมตร เป็นมหาสถูปที่ระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นกันไป มหาสถูปมีการตกแต่งด้วยภาพสลัก 2672 ชิ้น และ รูปปั้นพระพุทธรูป 504 องค์ โดมกลางล้อมรอบด้วย 72 รูปปั้นพระพุทธรูปแต่ละนั่งองค์อยู่ภายในสถูปเจาะรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ที่รอบล้อมสถูปเจดีย์ประธานด้านบนสุด. มีภาพสลักหินเล่าถึง 1460 เรื่องที่แสดงถึงชีวิตของพระพุทธเจ้าและข้อความทางพุทธศาสนาที่จารึกไว้ตามแกลเลอรี 1, 2, 3 และ 4 ของวัด ในชั้นบนสุดของโบโรบูดูร์ ที่ถือว่าเป็นส่วนยอดสุดของวิหาร มีลักษณะเป็นฐานวงกลมใหญ่ของเจดีย์องค์ประธาน เวลาที่มองมาจากที่ไกล จะเห็นเป็นเหมือนดอกบัวขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา ไม่พบภาพสลักใด ๆ ปรากฏอยู่เหมือนพ้นจากความต้องการทุกสิ่งทุกอย่าง มีผู้อุปมาภาพที่ปรากฏนี้ว่า แสดงถึงการหลุดพ้นจากทุกสรรพสิ่งในโลกหรือที่เรียกว่านิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ
มรดกโลก
วัดโบโรบูดูร์ (Borobudur) ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก สมัยสามัญครั้งที่ 15 ภายใต้ชื่อ "กลุ่มวัดโบโรบูดูร์" เมื่อ พ.ศ. 2534 ที่คาร์เทจ ประเทศตูนิเซีย ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้
(i) เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
(ii) เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมา ในด้านการออกแบบทาง สถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใด ๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(vi) มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์
ที่มาข้อมูล
- https://th.wikipedia.org/wiki
- https://whc.unesco.org / https://whc.unesco.org/en/list/592
ข้อมูลและรูปภาพ www.iok2u.com
-----------------------------------------
รวมข้อมูลแหล่งมรดกโลก (World Heritage Site)
-----------------------------------------