เที่ยวจีน เสฉวน เฉิงตู ตู้เจียงเอี้ยน ฐานวิจัยการเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ (Giant Panda Breeding Research Base)

ฐานวิจัยการเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ ตู้เจียงเอี้ยน

(Dujiangyan Giant Panda Breeding Research Base)

google map https://maps.app.goo.gl/G1pBuWED8y9w2F669

ตูเจียงเอี้ยน แพนด้า วัลเลย์: อ้อมกอดแห่งธรรมชาติ...ถิ่นพำนักของสมบัติล้ำค่าแห่งจีน

การเดินทางสู่ใจกลางมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เปรียบดั่งการก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งมนต์ขลัง ที่ซึ่งผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์โอบล้อมหุบเขาและสายน้ำ สร้างสรรค์เป็นถิ่นฐานอันสมบูรณ์แบบให้กับสัตว์ผู้สูงศักดิ์ ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยน หรือที่รู้จักกันในนาม "แพนด้า วัลเลย์" ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่คืออาณาจักรแห่งความหวัง จุดเริ่มต้นของการผจญภัยอันน่าอัศจรรย์ เพื่อการอนุรักษ์และคืนชีวิตให้กับ "แพนด้ายักษ์" สัญลักษณ์อันเป็นที่รักของมวลมนุษยชาติ ทุกย่างก้าวที่เดินลึกเข้าไปในหุบเขาแห่งนี้ คือการได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และความทุ่มเทของมนุษย์ในการพิทักษ์สายพันธุ์อันล้ำค่านี้ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป

เมื่อแสงอรุณแรกสาดส่องลงมายังหุบเขา เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วปลุกชีวิตให้ตื่นขึ้น เหล่าแพนด้ายักษ์ตัวกลมโตก็เริ่มออกมาอวดโฉมให้เห็นอย่างใกล้ชิด พวกมันเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า สง่างาม และน่าเอ็นดู ท่ามกลางป่าไผ่อันเขียวขจีที่รายล้อม แพนด้า วัลเลย์ ได้รับการออกแบบให้เป็นมากกว่าศูนย์วิจัย แต่มันคือ "บ้าน" ที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ เป็นสถานที่ที่แพนด้าป่วย แพนด้าสูงวัย หรือแพนด้าที่กำลังเตรียมตัวกลับคืนสู่ธรรมชาติ ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับถิ่นที่อยู่จริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ ร่มรื่น และชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ต่างจากศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้าอื่นๆ ที่อาจเต็มไปด้วยผู้คน

การมาเยือนแพนด้า วัลเลย์ คือการได้เห็นถึงความงดงามของการอยู่ร่วมกันระหว่างสัตว์ป่าและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางเดินที่ทอดยาวเลื้อยไปตามเนินเขา สลับกับสะพานไม้เล็กๆ ที่พาดผ่านลำธารใสสะอาด สัมผัสได้ถึงไอเย็นของผืนป่า และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของต้นไผ่ที่พัดพามาตามสายลม ความสงบและงดงามของทิวทัศน์ทำให้การเดินชมแพนด้าแต่ละตัวกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม ราวกับได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ ที่ซึ่งเวลาเดินช้าลง และหัวใจได้สัมผัสกับความสุขอย่างแท้จริง

ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นแหล่งพักพิงสำหรับแพนด้ายักษ์เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และวิจัยที่สำคัญระดับโลก ที่นี่คือห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้เข้ามาศึกษา เรียนรู้ และเข้าใจถึงความท้าทายในการอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องระบบนิเวศ ความมุ่งมั่นในการสร้าง "อาคารเขียว" ที่ผสานเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว คือตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของความเคารพต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นข้อพิสูจน์ถึงปณิธานอันแน่วแน่ที่จะรักษาผืนป่าแห่งนี้ให้เป็นมรดกอันล้ำค่าสำหรับชนรุ่นหลัง

ที่ตั้งและภูมิประเทศ

ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยน หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการว่า ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยแพนด้ายักษ์แห่งประเทศจีน สาขาตูเจียงเอี้ยน (China Conservation and Research Center for the Giant Panda, Dujiangyan Base) และเป็นที่นิยมเรียกกันว่า Panda Valley ตั้งอยู่ในเมืองตูเจียงเอี้ยน (Dujiangyan City) มณฑลเสฉวน (Sichuan Province) ประเทศจีน ที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขาอันเงียบสงบของตำบลยู่ถัง (Yutang Town) และตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของเทือกเขาฉงหลาย (Qionglai Mountains) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์

พื้นที่ของ Panda Valley มีความกว้างขวางถึง 133 เฮกตาร์ (ประมาณ 1.33 ตารางกิโลเมตร) หรือประมาณ 126 เอเคอร์ มีลักษณะเป็นหุบเขาแคบๆ ที่มีลำธารไหลผ่าน มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไผ่และพืชพรรณนานาชนิดกว่า 700 ชนิด ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญของแพนด้า และยังช่วยสร้างร่มเงาให้ความร่มรื่นตลอดทั้งปี ทำให้อากาศภายในศูนย์เย็นสบายและสดชื่นกว่าในเมือง ที่นี่อยู่ห่างจากนครเฉิงตู (Chengdu) เมืองหลวงของมณฑลเสฉวนประมาณ 50-55 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากใจกลางเมืองตูเจียงเอี้ยนประมาณ 5-18 กิโลเมตร

ภูมิอากาศในบริเวณนี้เป็นแบบกึ่งเขตร้อน มีความชื้นสูง และมีฤดูหนาวที่ไม่รุนแรงนัก อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดปีไม่มีข้อมูลที่ระบุเป็นตัวเลขเซลเซียสที่แน่นอน แต่ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาและป่าไม้หนาแน่น ทำให้อุณหภูมิภายในศูนย์มักจะเย็นสบายกว่าในเมืองเฉิงตู โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็น นอกจากนี้ ยังใกล้กับโครงการชลประทานตูเจียงเอี้ยนโบราณ ซึ่งเป็นมรดกโลก และภูเขาชิงเฉิง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า ทำให้พื้นที่นี้มีความสำคัญทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอย่างยิ่ง

ประวัติ

ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยน หรือ Panda Valley มีประวัติความเป็นมาที่สำคัญในการอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ของประเทศจีน ศูนย์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสำหรับแพนด้าที่มีอายุมาก แพนด้าที่ป่วย หรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยทำหน้าที่เป็นเสมือน "บ้านพักคนชรา" สำหรับแพนด้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษหลังจากประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2008 ที่สร้างความเสียหายให้กับศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้าที่ว่อหลง (Wolong Breeding Center)

Panda Valley ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน และเริ่มเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 (ค.ศ. 2015) โดยเป็นหน่วยงานในเครือของศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์เฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น ศูนย์แห่งนี้ได้กลายเป็นฐานสำคัญสำหรับการวิจัยและฝึกแพนด้ายักษ์ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยเน้นการปรับสภาพแพนด้าในสภาพแวดล้อมกึ่งธรรมชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกมันสามารถดำรงชีวิตอยู่รอดได้ในป่าจริง

นอกจากนี้ ศูนย์ฯ แห่งนี้ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์และวิจัยระดับชาติที่สำคัญสำหรับการกู้ภัยแพนด้าป่า การควบคุมโรค และความร่วมมือระหว่างประเทศในการศึกษาและอนุรักษ์แพนด้าอีกด้วย บทบาทของ Panda Valley จึงมิใช่เพียงแค่การเพาะพันธุ์ แต่ยังครอบคลุมถึงการดูแลรักษาแพนด้าที่อ่อนแอ การวิจัยเชิงลึกเพื่อความเข้าใจในพฤติกรรมและการปรับตัวของแพนด้า และการเป็นสะพานเชื่อมสู่การคืนแพนด้าสู่ถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความทุ่มเทอย่างต่อเนื่อง

ตำนานและความสำคัญ

ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยน หรือ Panda Valley ไม่ได้มีตำนานเล่าขานเฉพาะตัวที่โดดเด่น แต่ความสำคัญของมันหยั่งรากลึกอยู่ในบริบททางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ "แพนด้ายักษ์" ซึ่งถือเป็นสัตว์ประจำชาติและสัญลักษณ์อันเป็นที่รักยิ่งของจีน แพนด้ายักษ์ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์หายาก แต่ยังเป็นตัวแทนของสันติภาพ มิตรภาพ และความสามัคคี การพิทักษ์แพนด้าจึงไม่ใช่แค่การรักษาเผ่าพันธุ์ แต่เป็นการรักษาจิตวิญญาณและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติจีนไว้ด้วย

ความสำคัญของ Panda Valley ยังเพิ่มขึ้นจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้เคียงกับมรดกโลกของ UNESCO สองแห่ง ได้แก่ โครงการชลประทานตูเจียงเอี้ยนโบราณ (Dujiangyan Irrigation Project) ซึ่งเป็นระบบชลประทานอายุกว่า 2,000 ปี ที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาทางวิศวกรรมของจีนโบราณในการควบคุมน้ำและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้อย่างชาญฉลาด และภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาเต๋าที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน และเป็นแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋าอันเก่าแก่ สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งรวมจิตวิญญาณ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า ทำให้บริเวณนี้เป็นศูนย์รวมของความสำคัญทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างลงตัว

ภายในศูนย์วิจัยเอง การออกแบบอาคารและการจัดการพื้นที่ยังสะท้อนถึงความเคารพต่อธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง โดยในปี 2558 ศูนย์แห่งนี้ได้รับการรับรอง "อาคารเขียวระดับ 3 ดาว" ซึ่งเป็นการยกย่องการออกแบบที่ผสานอาคารเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนและยั่งยืน แม้จะไม่มีรายละเอียดการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ระบุความสูงหรือความกว้างเป็นหน่วยเมตรอย่างเฉพาะเจาะจง แต่แนวคิดของอาคารเขียวนี้ก็เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ การประหยัดพลังงาน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์พื้นที่ที่เกื้อกูลทั้งต่อแพนด้าและธรรมชาติโดยรอบอย่างแท้จริง

ดังนั้น Panda Valley จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะโครงการสาธิตเชิงนิเวศสำหรับการอนุรักษ์นอกถิ่นที่อยู่ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การเพาะพันธุ์ การให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มันเป็นสถานที่ที่ผสมผสานการเรียนรู้ การอนุรักษ์ และการชื่นชมความงดงามของสิ่งมีชีวิตเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นเครื่องเตือนใจถึงความรับผิดชอบของมนุษย์ในการปกป้องและรักษาโลกอันมีค่านี้ไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป

จุดเด่นและจุดที่น่าสนใจ

แพนด้ายักษ์และแพนด้าแดงในถิ่นที่อยู่กึ่งธรรมชาติ

แพนด้า วัลเลย์ คือโอกาสอันหาได้ยากยิ่งที่จะได้ใกล้ชิดกับแพนด้ายักษ์และแพนด้าแดงในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการจำลองให้ใกล้เคียงกับถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด ไม่เหมือนศูนย์เพาะพันธุ์ในเมืองใหญ่ที่อาจมีกรงเลี้ยงที่ดูประดิษฐ์ ที่นี่เน้นความกว้างขวาง ร่มรื่น และมีพืชพรรณธรรมชาติให้แพนด้าได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเป็นสุข นักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพอันน่าประทับใจของแพนด้ายักษ์ตัวกลมโตกำลังง่วนอยู่กับการเคี้ยวไผ่ กลิ้งตัวเล่นอย่างอารมณ์ดี หรือแม้กระทั่งปีนป่ายต้นไม้สูงอย่างคล่องแคล่วเกินคาด ซึ่งเป็นภาพที่สร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นในหัวใจให้กับผู้มาเยือนทุกคน

ตลอดทั้งปี มีแพนด้ายักษ์อาศัยอยู่ที่นี่มากกว่า 10 ตัว บางตัวเป็นแพนด้าสูงวัยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ บางตัวเป็นแพนด้าที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย หรือเป็นแพนด้าที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการกลับคืนสู่ป่าจริง นอกจากแพนด้ายักษ์แล้ว แพนด้าแดงตัวเล็กน่ารักที่ซุกซนและว่องไว ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด พวกมันมักจะเคลื่อนไหวไปมาตามกิ่งไม้ หรือออกมาเดินเล่นให้เห็นอย่างใกล้ชิด ความร่มรื่นของป่าไผ่และเสียงลำธารที่ไหลเอื่อยๆ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้การเฝ้าชมพฤติกรรมของแพนด้าเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและน่าจดจำอย่างแท้จริง

สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ร่มรื่นและยั่งยืน

สิ่งที่ทำให้ Panda Valley แตกต่างจากศูนย์แพนด้าอื่นๆ คือความโดดเด่นของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และได้รับการดูแลรักษาอย่างดีเยี่ยม พื้นที่แห่งนี้เป็นหุบเขาที่เขียวขจีตลอดทั้งปี เต็มไปด้วยป่าไผ่หนาแน่นที่ให้ร่มเงา เสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว และสายน้ำใสไหลเอื่อย สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและสดชื่นอย่างยิ่ง การออกแบบของศูนย์ฯ คำนึงถึงการรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด ผสมผสานอาคารต่างๆ เข้ากับภูมิทัศน์ได้อย่างกลมกลืน

ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนยังสะท้อนให้เห็นจากการที่ศูนย์ฯ ได้รับการรับรอง "อาคารเขียวระดับ 3 ดาว" ในปี 2558 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการออกแบบที่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการจัดการน้ำและของเสียอย่างยั่งยืน ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความตั้งใจจริงในการปกป้องโลกและสิ่งมีชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม การเดินเล่นไปตามเส้นทางที่ทอดยาวท่ามกลางพืชพรรณหลากหลายกว่า 700 ชนิด เป็นประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นการเติมเต็มพลังชีวิตจากธรรมชาติอย่างแท้จริง

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อการอนุรักษ์และวิจัย

Panda Valley ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งรวมแพนด้าให้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการวิจัยและอนุรักษ์ที่ทันสมัยและครบวงจร ภายในศูนย์ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการดูแลรักษาแพนด้าและเตรียมความพร้อมให้พวกมันกลับคืนสู่ป่าอย่างปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ได้แก่ โรงพยาบาลแพนด้าที่ทันสมัย พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์สำหรับการวิจัยและวินิจฉัยโรค รวมถึงกรงเฝ้าระวังและพื้นที่กักกันสำหรับแพนด้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

ศูนย์ฯ ยังมีโรงเรือนสำหรับแพนด้าที่ได้มาตรฐาน ห้องครัวแพนด้าที่สะอาดและถูกสุขอนามัย สำหรับเตรียมอาหารให้เหมาะสมกับแพนด้าแต่ละตัว รวมถึงศูนย์การศึกษาที่เปิดโอกาสให้สาธารณชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับแพนด้ายักษ์และแนวทางการอนุรักษ์อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังมีที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลและนักวิจัย การแบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซนหลัก ได้แก่ โซนกู้ภัยและกักกันแพนด้า โซนควบคุม ป้องกันและวิจัยโรคแพนด้า โซนฟื้นฟู ฝึกฝนและให้อาหารแพนด้า โซนต้อนรับและให้ความรู้แก่สาธารณะ โซนพืชพรรณธรรมชาติ และโซนสำนักงานและบริการด้านโลจิสติกส์ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติของการอนุรักษ์

โครงการอาสาสมัครดูแลแพนด้า (Panda Volunteer Program)

หนึ่งในประสบการณ์สุดพิเศษและเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Panda Valley แตกต่างจากศูนย์แพนด้าอื่นๆ อย่างชัดเจน คือการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าร่วม "โครงการอาสาสมัครดูแลแพนด้า" (Panda Volunteer Program) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่สร้างความใกล้ชิดกับแพนด้าเท่านั้น แต่ยังเปิดมุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลและภารกิจการอนุรักษ์ โครงการนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะผู้เข้าร่วมจะได้สวมบทบาทเป็นผู้ดูแลแพนด้าเป็นเวลาหนึ่งวัน โดยมีส่วนร่วมในกิจกรรมประจำวันต่างๆ

กิจกรรมอาสาสมัครเหล่านี้รวมถึงการช่วยทำความสะอาดกรงแพนด้า การจัดเตรียมไม้ไผ่สดและอาหารว่างอื่นๆ ให้กับแพนด้าตามมื้ออาหาร และการสังเกตพฤติกรรมของพวกมันภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ประสบการณ์นี้ไม่เพียงแต่ให้ความสุขจากการได้เห็นแพนด้าในระยะประชิด แต่ยังสร้างความตระหนักถึงความทุ่มเทและความพยายามในการดูแลสัตว์เหล่านี้อย่างแท้จริง โครงการนี้เปิดรับอาสาสมัครประมาณ 20 คนต่อวัน และต้องมีการจองล่วงหน้า พร้อมใบรับรองสุขภาพและค่าบริจาค ซึ่งเงินบริจาคจะถูกนำไปใช้เพื่อการอนุรักษ์แพนด้าอย่างต่อเนื่อง เป็นกิจกรรมที่คุ้มค่าและสร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงสำหรับผู้ที่หลงใหลในแพนด้าและต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์

การเดินทางสู่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยน หรือ Panda Valley คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์และแรงบันดาลใจ เป็นมากกว่าแค่การได้เห็นแพนด้ายักษ์ตัวเป็นๆ แต่เป็นการได้สัมผัสถึงความงดงามของธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ และความทุ่มเทของมนุษย์ในการพิทักษ์ชีวิตอันล้ำค่า ทุกย่างก้าวในหุบเขาแห่งนี้คือการได้ใกล้ชิดกับ "สมบัติล้ำค่าแห่งจีน" สัตว์ผู้สง่างามที่เปรียบดั่งทูตแห่งสันติภาพ ผู้ซึ่งย้ำเตือนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

จากภาพแพนด้าที่กำลังง่วนอยู่กับการเคี้ยวไผ่อย่างเอร็ดอร่อย แพนด้าแดงตัวน้อยที่ซุกซนบนต้นไม้สูง ไปจนถึงการได้เรียนรู้เบื้องหลังการทำงานหนักของผู้ดูแลและนักวิจัย ทุกสิ่งล้วนประทับตราความทรงจำอันล้ำค่าไว้ในหัวใจ Panda Valley ไม่เพียงแค่เป็นแหล่งอนุรักษ์ แต่ยังเป็น "บ้าน" ที่เปี่ยมด้วยความหวัง สถานที่ที่แสดงให้เห็นว่าด้วยความพยายามและความรัก เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตของสิ่งมีชีวิตและโลกของเราได้ การมาเยือนที่นี่จึงไม่ใช่เพียงแค่การท่องเที่ยว แต่เป็นการมีส่วนร่วมในเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของการอนุรักษ์ เป็นการเติมเต็มจิตวิญญาณด้วยความหวัง ความชื่นชม และความผูกพันอันลึกซึ้งกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตอันแสนวิเศษเหล่านี้อย่างแท้จริง