เที่ยวอินโดนีเซีย ชวาตะวันออก ภูเขาไฟอีเจี้ยน (Ijen Volcano)

ภูเขาไฟอีเจี้ยน (Ijen Volcano)

ภูเขาไฟอีเจี้ยน (Ijen Volcano) เสน่ห์ของภูเขาไฟสีน้ำเงินแห่งอินโดนีเซีย

ภูเขาไฟอีเจี้ยน (Ijen Volcano) ตั้งอยู่ในพื้นที่ จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดในโลก โดยมีจุดเด่น คือ ปรากฏการณ์ "เปลวไฟสีน้ำเงิน" (Blue Fire) ซึ่งเกิดจากก๊าซซัลเฟอร์ที่ระเหยขึ้นมาจากปล่องภูเขาไฟในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีสีเขียวมรกต ซึ่งเป็นแหล่งน้ำกรดธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาไฟอีเจี้ยน

ภูเขาไฟอีเจี้ยน (Ijen Volcano) เป็นอีกหนึ่งภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทของอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในเขตชวาตะวันออก (East Java) มีความสูงประมาณ 2,799 เมตร มีจุดเด่นคือ เปลวไฟสีน้ำเงิน (Blue Flame) จากเหมืองกำมะถันและภาพทิวทัศน์ของทะเลสาบสีเขียวมรกตในปากปล่องภูเขาไฟอันสวยงาม ภูเขาไฟอีเจี้ยนตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติบาลูรัน (Baluran National Park) ใกล้เมืองบันยูวังกี (Banyuwangi) และเมืองบอนโดโวโซ (Bondowoso) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะชวาและเกาะบาหลี

พิกัดแผนที่ https://maps.app.goo.gl/66Z423VfxVTscBaY8 

ประวัติและความสำคัญ ภูเขาไฟอีเจี้ยน เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาไฟที่ยังคงมีพลังใน ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่บนแนวภูเขาไฟแปซิฟิก (Pacific Ring of Fire) ที่มีการปะทุภูเขาไฟและเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งประวัติทางธรณีวิทยา ภูเขาไฟแห่งนี้ก่อตัวขึ้นจากการระเบิดของแมกมาที่สะสมอยู่ใต้เปลือกโลกมาหลายล้านปี พื้นที่ปล่องภูเขาไฟมีทะเลสาบกรด ซึ่งเกิดจากการละลายแร่ธาตุและซัลเฟอร์ที่ถูกปลดปล่อยออกมาบทบาททางเศรษฐกิจ

ภูเขาไฟอีเจี้ยน ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่กำมะถัน (Sulfur Mining) ซึ่งคนงานในท้องถิ่นจะขุดแร่กำมะถันจากปล่องภูเขาไฟและนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ

จุดเด่นของภูเขาไฟอีเจี้ยน

- เปลวไฟสีน้ำเงิน (Blue Fire) ปรากฏการณ์ที่เกิดจากก๊าซซัลเฟอร์ที่ระเหยขึ้นมาจากปล่องภูเขาไฟ เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศและจุดไฟขึ้นในช่วงกลางคืน ทำให้เกิดเปลวไฟสีน้ำเงินที่งดงามและหาชมได้ยาก มีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่สามารถพบเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ทะเลสาบกรดสีเขียวมรกต

- ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีสีเขียวสดใส เป็นผลมาจากการสะสมของกรดซัลฟูริกและแร่ธาตุในน้ำ ทะเลสาบแห่งนี้มีความเป็นกรดสูงมากจนไม่สามารถลงไปสัมผัสน้ำได้เส้นทางเดินป่าที่ท้าทาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าขึ้นสู่ปล่องภูเขาไฟเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงในการปีนขึ้นไปยังจุดชมวิวบรรยากาศยามเช้าและกลางคืน

- ภูเขาไฟอีเจี้ยน มีความสวยงามตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าและกลางคืนที่นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและเปลวไฟสีน้ำเงินได้พร้อมกัน

การเดินทาง 

สนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินบันยูวังกี (Banyuwangi Airport) ซึ่งมีเที่ยวบินตรงจากจาการ์ตาและสุราบายา

- ทางบก สามารถนั่งรถจากเมืองสุราบายาหรือบาหลีมายัง เมืองบันยูวังกี โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง

- ทางเดินเท้า เมื่อถึงจุดเริ่มต้น (Paltuding Base Camp) นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าขึ้นไปยังปล่องภูเขาไฟเคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

เตรียมตัวให้พร้อม 

- ควรสวมใส่รองเท้าสำหรับเดินป่า เสื้อผ้าที่อบอุ่น และนำไฟฉายติดตัวมาด้วย เนื่องจากการเดินขึ้นเขาในช่วงกลางคืนต้องการแสงสว่างและความระมัดระวัง

- หน้ากากกรองอากาศ ควรพกหน้ากากกรองอากาศเพื่อป้องกันการสูดดมก๊าซซัลเฟอร์ที่มีความเข้มข้นสูง

- เลือกช่วงเวลา ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งที่มีท้องฟ้าแจ่มใส

- จองไกด์นำเที่ยว แนะนำให้ใช้บริการไกด์ท้องถิ่นที่มีความชำนาญเพื่อความปลอดภัยและการเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพื้นที่

ภูเขาไฟอีเจี้ยน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและพลังของโลกใต้ผิวดิน การเดินทางไปเยือนที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นและปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาชมได้ยาก ภูเขาไฟอีเจี้ยนจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต