ทัศนวิสัย (Visibility) กับวิสัยทัศน์ (Vision) ส่วนไหนสำคัญกับชีวิตเรา
เปรียบการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจให้มีความคล้ายกัน เราควรต้องให้ความสำคัญในการวางแผนชีวิต การขับเคลื่อนเดินทางของชีวิตและธุรกิจอย่างไร และในส่วนของคำว่า ทัศนวิสัย (Visibility) และวิสัยทัศน์ (Vision) สองคำนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และส่วนไหนสำคัญกับชีวิตเราหรือการดำเนินธุรกิจเรา
1. ทัศนวิสัย (Visibility) คือ ความสามารถในการมองเห็นในสถานการณ์ปัจจุบัน มักใช้บ่อยในการกำหนดความสามารถในการมองเห็นเมื่อต้องขับขี่ รถยนต์ เครื่องบิน หรือยานพาหนะต่าง ๆ การมองเห็นในสภาพปัจจุบันมีความสำคัญต่อความปลอดภัยมาก ควรให้ความสำคัญกับในส่วนนี้ก่อนออกเดินทางหรือเมื่อต้องออกเดินทางด้วยการขับขี่ ในปัจจุบันความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีก็ได้พัฒนาความสามารถของอุปกรณ์เพื่อมาช่วยในการเดินทางลดปัญหาที่เกิดจากการที่ทัศนวิสัยเป็นศูนย์ หรือการมองไม่เห็นในสภาพปัจจุบัน เช่น ระบบนำทางอัตโนมัติในเครื่องบิน ที่ช่วยให้เครื่องบินสามารถบินลงจอดได้โดยไม่ต้องมองเห็นจุดอ้างอิงใด ๆ หรือเรียกว่าทัศนวิสัยเป็นศูนย์ (Zero Visibility) ด้วยระบบการลงจอดอัตโนมัติของเครื่องบินและระบบนำร่องความแม่นยำสูงของสนามบิน หรือหรือรถยนต์ที่มีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ทำให้สามารถขับขี่ได้เองโดยใช้อุปกรณ์ตรวจรับสัญญานที่สื่อสารกันเองระหว่างรถอัตโนมัติด้วยกัน เป็นต้น
ความสามารถในการมองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรให้ความสำคัญกับการมองเห็นในส่วนนี้ก่อนออกเดินทางหรือต้องทำอะไร เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการทำสิ่งใดๆ หากมีปัญหาควรหาวิธีหรือแนวทางเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ให้เหมาะสมเมื่อจำเป็นต้องออกเดินทางด้วยการขับขี่
2. วิสัยทัศน์ (Vision) คือ ความสามารถการมองเห็นทิศทางที่จะเกิดในอนาคต การมองเห็นในส่วนนี้เป็นความสามารถในแต่ละคนที่มีการมองเห็นที่แตกต่างกัน การมีความสามารถในการมีวิสัยทัสน์หรือการมองเห็นอนาคตในที่นี้ มักเหมาะกับผู้บริหารเพราะเป็นการที่จะทำให้มีโอกาสทางธุรกิจหรือโอกาสในการปรับปรุงการเดินทางของธุรกิจ หรือการก้าวเดินในชีวิตของตัวเองก็ได้ ตัวอย่างการมีวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่สามารถมองเห็นโอกาสและนำมาปรับปรุงการก้าวเดินขององค์กรจนประสบความสำเร็จ เช่น
- Steve jobs ผู้มองเห็นอนาคตของธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหลายครั้ง ตั้งแต่ ระบบคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ไปจนถึงสมาร์ทโฟน ซึ่งทุกครั้งจะเป็นการก้าวเดินธุรกิจในแบบที่คนอื่นมองไม่เห็น
- Mark zuckerberg ผู้พัฒนา Facebook โดยนำแนวคิดการพัฒนาการเชื่อโยงผ่านโชเลี่ยลที่มาจากการสร้างหนังสืออนุสรณ์รุ่นให้ทันสมัยสื่อสารกันไปมาได้ ซึ่งในยุคนั้นคนอื่นยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าทำได้อย่างไรและจะได้ประโยชน์จากมันได้จากตรงไหน
วิสัยทัศน์ มีประโยชน์เพราะเป็นสิ่งที่จะบ่งบอกถึงเป้าหมายทิศทางของเรา ใช้บอกแนวทางเป้าหมายให้ทราบ เพื่อที่จะดำเนินการเพื่อมุ่งบรรลุผล วิสัยทัศน์มี 3 องค์ประกอบ คือ
1. วัตถุประสงค์ (Purpose) คือ เหตุผลในการมีอยู่หรือการดำรงอยู่ขององค์กร โดยการพิจารณาเหตุผลนั้นจากมุมมองของลูกค้า เป็นการให้คุณค่าแก่ผู้ที่ใช้สินค้าหรือบริการของคุณ ซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์หลักขององค์กร ตัวอย่างเช่น บริษัททำสีหน้าต่างอาจขายเฉดสีหน้าต่าง แต่วัตถุประสงค์หลักของพวกเขาอาจทำเพื่อการควบคุมแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า
2. ภาพอนาคต (Picture of the future) คือ ภาพที่จินตนาการว่าจะเป็นอย่างไรหากองค์กรของคุณบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งไว้ ภาพอนาคตนี้ไม่ใช่สิ่งคลุมเครืออย่างการเป็นคนดี หรือการเป็นอันดับหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่คุณสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนกว่า
3. ค่านิยม (Values) เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตประจำวันที่บ่งชี้ถึงพฤติกรรม การตัดสินใจ หรือเป็นคุณค่าที่องค์กรอยากส่งมอบให้กับลูกค้า (Value Proposition)
จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้งสองส่วนคือ ทัศนวิสัย (Visibility) และวิสัยทัศน์ (Vision) ต่างมีความสำคัญที่เราต้องสนใจไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตหรือการทำธุรกิจ โดย ทัศนวิสัย (Visibility) จะสำคัญในการดำเนินชีวิตหรือธุรกิจในช่วงเวลาปัจจุบัน แต่วิสัยทัศน์ (Vision) นั้นก็ควรต้องมีการกำหนดมองไว้เพื่อเป็นแนวทางก้าวเดินในอนาคต