ind4-002 ความรู้ความชำนาญในงาน อุตสาหกรรม 4.0
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) คือ การรวมเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิตและอุตสาหกรรม ส่วนสำคัญประกอบด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญในงานด้านต่างๆ ของอุตสาหกรรม 4.0
.
เทคโนโลยีสำคัญสำหรับการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 |
- ระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automation Technology) ระบบอัตโนมัติมีบทบาทในการจัดทำขั้นตอนการดำเนินงานแทนมนุษย์หรือลดขั้นตอนบางอย่างลง และมีการประยุกต์ใช้เพื่อควบคุมหรือตรวจสอบในการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าหรือบริการ โดยระบบอัตโนมัติมีระดับความสามารถตั้งแต่ระดับน้อยจนถึงสูง ซึ่งในระดับสูงจะมีการประยุกต์ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นร่วมด้วย เช่น การประยุกต์ระบบอัตโนมัติเข้าร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ และ IoT เพื่อใช้ในการอุตสาหกรรมการจัดการคลังสินค้าเป็นต้น |
- ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (Geographic Information System: GIS) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ขั้นสูง ทำหน้าที่ รวบรวม จัดการวิเคราะห์และแสดงผลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ในรูปแบบต่างๆ (กราฟ ตาราง และแผนที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้สามารถบริหารจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่ได้ สามารถประยุกต์ใช้สำหรับภาคการเกษตร การคมนาคม หรือการขนส่งได้ |
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เป็น ระบบการเรียนรู้ข้อมูลและทำนายข้อมูลด้วยเครื่องมือดิจิทัลตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับขั้นสูง (การคำนวนเชิงตรรกะ การคำนวนเชิงสถิติ โครงข่ายประสาทเทียมและอื่น ๆ) โดยเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้มนุษย์สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น เช่น การค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วขึ้น สนับสนุนข้อมูลเพื่อช่วยแพทย์วิเคราะห์ โรคมะเร็ง เป็นต้น ปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) โดยทั้งเทคนิค AI และ ML จะถูกนำมาใช้ในงานด้านอุตสาหกรรม 4.0 มากขึ้น เพื่อพัฒนาระบบอัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้จากข้อมูล คาดการณ์ และทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติ โดยเปิดใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การควบคุมคุณภาพ และระบบอัตโนมัติ |
- ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) การนำกลุ่มข้อมูลหรือข้อมูลขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนมาประมวลผล วิเคราะห์ประเมิน และคาดการณ์ โดยอาศัยเครื่องมือดิจิทัล เพื่อการตอบสนองผู้รับบริการแบบ Real-time อีกทั้งช่วยสนับสนุน วางแผน หรือสร้างสรรค์ แนวคิดใหม่ๆ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ในงานอุตสาหกรรม 4.0 จะมีการสร้างข้อมูลจำนวนมากเพิ่มขึ้น ทั้งจากการผ่าน เซ็นเซอร์ เครื่องจักร หรือระบบส่งต่อข้อมูล ในส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลนี้บางทีอาจเรียกว่าข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเป็นการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศหรือข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า นำมาช่วยปรับปรุงการตัดสินใจ และเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนในการดำเนินงาน |
- อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet Of Things: IoT) เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทางกายภาพ เช่น เครื่องจักร วัตถุสิ่งของ และการทำงานเชื่อมโยงเข้ากับระบบบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบตามเวลาจริง สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ การใช้เทคโนโลยี IoT ในการเชื่อมโยงข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเห็นความเคลื่อนไหวข้อมูลที่รวดเร็วและเป็นปัจจุบันมากขึ้น เช่นการติดอุปกรณ์ Sensor ในพื้นที่ป่าไม้เพื่อตรวจสอบการเจริญเติบโตของพื้นที่ป่า การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การเปิด/ปิดระบบอัตโนมัติ ซึ่งการใช้เทคโนโลยี IoT จะท?ำให้เกิดข้อมูลดิบมหาศาลสามารถนำ ไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Big Data Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่อไปได้ |
- Next Generation Telecom โทรคมนาคมยุคใหม่ (5G) เป็นเทคโนโลยีที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของการรับส่งข้อมูลที่ดีขึ้น มีแบนด์วิธ ความจุ และความปลอดภัยรวมทั้งความเสถียรในการรับส่งข้อมูลที่ดีมากขึ้น โดยเทคโนโลยี 5G นี้รองรับเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อเสริมให้ทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การรับส่งข้อมูลจาก Internet of Things (IoT) นอกจากนี้แล้วเทคโนโลยี 5G ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็น 6G และ 7G |
- Virtual Reality / Augmented Reality การนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) มาปรับใช้ในการจำลองภาพหรือสถานการณ์เหมือนจริง เพื่อบริหารจัดการความปลอดภัยสาธารณะ การขยายพื้นที่การรักษาสุขภาพไปยังพื้นที่ห่างไกล (Telemedicine) รวมถึงการเพิ่มรูปแบบใหม่ๆ ในการเรียนการสอน และการท่องเที่ยว |
- Block Chain / Distributed Ledger Technology เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ Shared Database หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “Distributed Ledger Technology (DLT)” โดยเป็นรูปแบบการบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ซึ่งทุกผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูลชุดเดียวกันทั้งหมด โดยใช้หลักการ Cryptography และความสามารถของ Distributed Computing เพื่อสร้างกลไกความน่าเชื่อถือ |
- ระบบไซเบอร์ฟิสิกส์ (Cyber-Physical Systems: CPS) เป็นการรวมระบบทางกายภาพเข้ากับความสามารถในการคำนวณและการสื่อสาร การผสานรวมกันจะช่วยให้สามารถตรวจสอบ ควบคุม และประสานงานกระบวนการทางกายภาพได้แบบทันทีทันใด การรวมระบบทางกายภาพเข้ากับระบบไซเบอร์ที่เป็นเทคโนโลยีดิจิทัล เกี่ยวข้องกับการใช้ตัวเซ็นเซอร์ ตรวจจับวัด ตัวกระตุ้นส่งข้อมูล หรือระบบฝังตัวเพื่อตรวจสอบและควบคุมกระบวน CPS ช่วยให้ได้รับข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำการสื่อสารและควบคุมการทำงานที่จะมีในอุตสาหกรรม 4.0 ตัวอย่างเช่น โรงงานอัจฉริยะ กริดอัจฉริยะ หรือยานยนต์ไร้คนขับ เป็นต้น
- การผลิตแบบเติมเนื้อวัสดุ (3D Printing) หรือที่นิยมเรียกกันว่าการพิมพ์ 3 มิติ เทคโนโลยีการผลิตแบบนี้จะช่วยให้สามารถสร้างชิ้นส่วนที่ซับซ้อนและปรับแต่งได้ง่ายรวดเร็วตามต้องการ ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิต ช่วยพลิกโฉมการผลิตทำให้สามารถสร้างชิ้นส่วนที่ซับซ้อนสอดคล้องกับหลักการของอุตสาหกรรม 4.0
- วิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robotics and Automation) อุตสาหกรรม 4.0 จะเน้นส่งเสริมให้มีการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาช่วยในการทำงาน เพื่อทำงานซ้ำๆ โดยอัตโนมัติ เพิ่มผลิตภาพ หรือปรับปรุงความปลอดภัย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและผลผลิต โดยในที่นี้นอกจากหุ่นยนต์หรือโรบอท (robot) แล้วยังรวมไปถึงหุ่นยนต์ที่มีการทำงานร่วมกันกับมนุษย์หรือโคบอท (cobots) หรือหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (autonomous mobile robots: AMR) หุ่นยนต์และยานยนต์ไร้คนขับถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการวัสดุ โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมต่างๆ
- แบบจำลองตัวแทนเสมือน (Digital Twin) เป็นตัวแทนเสมือนจริงของผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือระบบที่มี ช่วยให้สามารถติดตามตามเวลาจริง การจำลอง การปรับให้เหมาะสมของสินทรัพย์ทางกายภาพ การวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ได้แบบเรียลไทม์ Digital Twins ใช้สำหรับการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การจำลอง การจำลองและการปรับให้เหมาะสมของสินทรัพย์ทางกายภาพ อำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การปรับประสิทธิภาพให้เหมาะสม และการทดสอบสร้างต้นแบบเสมือนจริงในอุตสาหกรรม 4.0
- การประมวลผลคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และ เอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge Computing) จะช่วยให้มีการเข้าถึงทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในการประมวลผลข้อมูล หรือพื้นที่ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลตามต้องการ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขยายขนาดและการประมวลผลข้อมูล Edge Computing ทำให้การคำนวณและการจัดเก็บข้อมูลเข้าใกล้แหล่งที่มามากขึ้น ลดเวลาแฝงและเปิดใช้งานการประมวลผลตามเวลาจริงในแอปพลิเคชัน Industry 4.0
- ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เป็นการจัดการความปลอดภัยที่มาจากการเชื่อมต่อและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในงานอุตสาหกรรม 4.0 งานด้านนี้มักเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ทรัพย์สินทางปัญญา และการรับรองความสมบูรณ์และความพร้อมใช้งานของระบบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับระบบนิเวศอุตสาหกรรม 4.0 ที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น
- ระบบสร้างความจริง (Augmented Reality: AR) และระบบความจริงเสมือน (Virtual Reality: VR) เทคโนโลยีทั้งสองชนิด คือ AR และ VR เป็นส่วนหนึ่งในงานสร้างแบบจำลอง (simulation) มีส่วนช่วยในเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตัวอย่างที่พบในการใช้ในงานอุตสาหกรรม 4.0 มีหลายแบบ โดยมีวัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม การบำรุงรักษา และการสร้างภาพแบบจำลอง เพื่อมอบประสบการณ์ที่สมจริง การจำลองเสมือนจริง และคใช้ให้วามช่วยเหลือจากระยะไกล
ส่วนสำคัญในอุตสาหกรรม 4.0 แต่ละพื้นที่มี เทคโนโลยี ความท้าทาย การใช้งานเฉพาะของตนเอง การพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
---------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------
สนใจเรื่องราวเพิ่มเติมคลิกที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล