e-ngo system อีโง่ซิสเต็ม เจาะลึกสาเหตุเบื้องหลังความล้มเหลว
อีโง่ซิสเต็ม (e-ngo system) วิธีการหลีกเลี่ยงและแนวทางป้องกันที่คุณทำได้
.
แม้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศจะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการทำงานขององค์กรให้ดีขึ้น แต่บางครั้งระบบที่พัฒนาขึ้นกลับกลายเป็นปัญหาที่ทำให้ทุกอย่างดูโง่และไร้ประสิทธิภาพ ในบทนี้เราจะลองเสนอวิธีการหลีกเลี่ยงและแนวทางป้องกันที่คุณอาจนำไปใช้ได้
อีโง่ซิสเต็ม วิธีการหลีกเลี่ยงและแนวทางป้องกันที่คุณทำได้
หลังจากที่เราได้เห็น ตัวอย่างความล้มเหลวของระบบไอทีที่น่าขันแต่เจ็บปวด และเจาะลึกสาเหตุเบื้องหลังความล้มเหลวเหล่านั้นไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะมาเรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้เกิด "อีโง่ซิสเต็ม" ในองค์กรของเรา มาดูกันว่ามีแนวทางอะไรบ้างที่เราสามารถนำไปปรับใช้ได้
# วางแผนให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
การวางแผนที่ดี เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางในการพัฒนาระบบไอที หากมีการวางแผนที่ชัดเจนรอบคอบและครอบคลุมทุกด้าน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาและความล้มเหลวได้อย่างมาก
- กำหนดวัตถุประสงค์และขอบเขตของโครงการให้ชัดเจน ก่อนเริ่มต้นพัฒนา เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไรจากระบบนี้อย่างชัดเจน ระบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาอะไร? เพิ่มประสิทธิภาพด้านไหน? และมีผลลัพธ์ที่คาดหวังอย่างไร? การกำหนดวัตถุประสงค์และขอบเขตที่ชัดเจนจะช่วยให้ทีมงานโฟกัสไปที่เป้าหมายเดียวกัน และหลีกเลี่ยงการทำงานที่เกินขอบเขต
- วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างละเอียด ผู้ใช้งานคือคนที่จะต้องใช้ระบบนี้จริงๆ ดังนั้นการทำความเข้าใจความต้องการของพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราควรเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งานโดยตรง ผ่านการสัมภาษณ์ การจัดทำแบบสอบถาม หรือการสังเกตพฤติกรรมการทำงาน เพื่อให้เข้าใจปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา
- ประเมินทรัพยากรและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การพัฒนาระบบไอทีต้องใช้ทั้งเวลา เงินทุน และบุคลากร เราต้องประเมินทรัพยากรที่มีอยู่ให้เพียงพอ ต่อการดำเนินโครงการและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้า
ตัวอย่าง องค์กรหนึ่งตัดสินใจเปลี่ยนระบบ IT ใหม่โดยไม่ได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้ใช้ปลายทางให้ชัดเจน ส่งผลให้ระบบที่สร้างขึ้นมาไม่สามารถตอบโจทย์การทำงานจริงได้
แนวทางป้องกัน เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนที่รอบคอบ ทั้งในด้านการสำรวจความต้องการ การวิเคราะห์ความเสี่ยง และการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
# สื่อสารให้เข้าใจ ตรงไปตรงมา
การสื่อสารที่ดี เป็นกุญแจสำคัญในการทำงานร่วมกัน หากทีมงานสื่อสารกันอย่างเข้าใจและตรงไปตรงมา ก็จะช่วยลดความขัดแย้งและความเข้าใจผิด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาในการพัฒนาระบบได้
- ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อนเกินไป พยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความรู้ด้านไอทีก็ตาม
- รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ อย่ามองข้ามความคิดเห็นของผู้ใช้งาน เพราะพวกเขาคือคนที่รู้ดีที่สุดว่าต้องการอะไรจากระบบ
- จัดทำเอกสารและบันทึกการประชุม การจัดทำเอกสารและบันทึกการประชุมจะช่วยให้ทุกคนทบทวนข้อมูลและติดตามความคืบหน้าของโครงการได้ นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานอ้างอิงในกรณีที่มีความขัดแย้งหรือข้อสงสัย
ตัวอย่าง
ทีมพัฒนาและทีมผู้ใช้มีการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาระบบ
แนวทางป้องกัน สอนเทคนิคการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้ภาษาเดียวกัน และการจัดการประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกัน
เกร็ดความรู้ เครื่องมือการสื่อสารที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น Slack, Microsoft Teams, หรือ Trello สามารถช่วยให้การสื่อสารภายในทีมเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
# ทดสอบให้รอบคอบอย่าประมาท
การทดสอบ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาดก่อนนำระบบไปใช้งานจริง การทดสอบที่ไม่รอบคอบอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
- ทดสอบทุกฟังก์ชันและทุกสถานการณ์ การทดสอบควรครอบคลุมทุกฟังก์ชันของระบบ และทดสอบในทุกสถานการณ์ที่เป็นไปได้ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาด
- ทดสอบในสภาพแวดล้อมจริง การทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงจะช่วยให้เราค้นพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งานจริง ซึ่งอาจไม่พบในการทดสอบในสภาพแวดล้อมที่จำลองขึ้นมา
- ทดสอบความปลอดภัย การทดสอบความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการรั่วไหลของข้อมูล ควรทดสอบทั้งการเจาะระบบจากภายนอก และการทดสอบความปลอดภัยภายในระบบ
ตัวอย่าง
ระบบถูกพัฒนาเสร็จในเวลาจำกัด แต่ไม่ได้มีการทดสอบอย่างเพียงพอ ทำให้เมื่อเปิดใช้งานเกิดข้อผิดพลาดมากมาย
แนวทางป้องกัน อธิบายถึงความสำคัญของการทดสอบระบบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทดสอบความถูกต้องของฟังก์ชันไปจนถึงการทดสอบการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ
เกร็ดความรู้ ในการทดสอบระบบไอที มักใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น Unit Testing, Integration Testing, System Testing, และ User Acceptance Testing (UAT)
4. บำรุงรักษาสม่ำเสมอ อย่าปล่อยปละละเลย
ระบบไอทีก็เหมือนกับรถยนต์ หากไม่ดูแลรักษา ก็อาจเสื่อมสภาพและเกิดปัญหาได้ง่าย การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- อัพเดทซอฟต์แวร์และแพตช์ความปลอดภัย ซอฟต์แวร์ต้องได้รับการอัพเดทอยู่เสมอ เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การอัพเดทแพตช์ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีได้
- สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ การสำรองข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล ควรสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และเก็บข้อมูลสำรองไว้ในที่ปลอดภัย- ตรวจสอบและแก้ไขปัญหา: ควรมีการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อค้นหาและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะลุกลามใหญ่โต
ตัวอย่าง ระบบไอทีในองค์กรทำงานได้ดีในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเริ่มมีปัญหาจากการไม่ได้รับการบำรุงรักษา / แนวทางป้องกัน อธิบายถึงความสำคัญของการบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ การอัพเดตซอฟต์แวร์ และการตรวจสอบประสิทธิภาพระบบ
เกร็ดความรู้
การบำรุงรักษาระบบไอทีอาจรวมถึงการทำความสะอาดฮาร์ดแวร์ การตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบ และการปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน
# ความปลอดภัยต้องมาก่อน อย่าให้ใครมาเจาะระบบเราได้
ในยุคดิจิทัล ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง องค์กรควรมีมาตรการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการรั่วไหลของข้อมูลที่รัดกุม
- ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ รหัสผ่านที่แข็งแกร่งควรมีความยาวอย่างน้อย 8 ตัวอักษร และมีทั้งตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยทุก 3 เดือน
- ใช้ไฟร์วอลล์และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ไฟร์วอลล์จะช่วยป้องกันการเข้าถึงระบบจากภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจะช่วยป้องกันมัลแวร์และไวรัสที่อาจทำลายระบบหรือขโมยข้อมูล
- ให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยแก่พนักงาน พนักงานทุกคนควรมีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ เช่น การระวังอีเมลหลอกลวง (phishing) และการไม่เปิดไฟล์แนบจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่าง
ระบบ IT ขององค์กรถูกโจมตีจากภายนอก เนื่องจากไม่ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันความปลอดภัยอย่างเพียงพอ
แนวทางป้องกัน แนะนำวิธีการรักษาความปลอดภัยระบบ ทั้งการตั้งค่ารหัสผ่านที่แข็งแรง การใช้งานไฟร์วอลล์ และการตรวจสอบและอัพเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
เกร็ดความรู้ การเข้ารหัสข้อมูล (encryption) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันข้อมูลรั่วไหล
# ฝึกอบรมพนักงานให้เชี่ยวชาญ
พนักงาน คือ ผู้ใช้งานระบบหลัก ดังนั้นการฝึกอบรมให้พวกเขาเชี่ยวชาญในการใช้งานระบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- จัดอบรมการใช้งานระบบ องค์กรควรจัดอบรมการใช้งานระบบให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้พวกเขาเข้าใจวิธีการใช้งานระบบอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- จัดทำคู่มือการใช้งาน คู่มือการใช้งานจะเป็นแหล่งอ้างอิงที่สำคัญสำหรับพนักงาน ควรจัดทำคู่มือที่เข้าใจง่าย มีภาพประกอบ และอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- ให้การสนับสนุน องค์กรควรมีทีมงานที่คอยให้การสนับสนุนและแก้ไขปัญหาให้กับพนักงานในกรณีที่พวกเขาพบปัญหาในการใช้งานระบบ
ตัวอย่าง
พนักงานในองค์กรไม่ได้รับการฝึกอบรมในการใช้งานระบบใหม่ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการใช้งาน
แนวทางป้องกัน เน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง การจัดเวิร์กชอป และการสร้างคู่มือการใช้งานที่เข้าใจง่าย
# อย่าปล่อยให้เขาสู้กับระบบเพียงลำพัง
การนำระบบไอทีใหม่มาใช้ในองค์กร อาจทำให้พนักงานบางคนรู้สึกกังวลหรือไม่มั่นใจในการใช้งาน องค์กรจึงควรให้การสนับสนุนและช่วยเหลือพนักงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวและใช้งานระบบได้อย่างราบรื่น
- สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้าง สำหรับการถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พนักงานควรได้รับการสนับสนุนให้ถามคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบอย่างเปิดเผย องค์กรควรสร้างช่องทางการสื่อสารที่สะดวกและเข้าถึงง่าย เช่น กลุ่มสนทนาออนไลน์ หรือ Helpdesk เพื่อให้พนักงานสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
- จัดกิจกรรมให้พนักงานได้ทดลองใช้งานระบบจริง ก่อนนำระบบไปใช้งานจริง องค์กรควรจัดกิจกรรมให้พนักงานได้ทดลองใช้งานระบบในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพื่อให้พวกเขาคุ้นเคยกับระบบและค้นพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
- ให้รางวัลและยกย่องพนักงานที่ใช้ระบบได้ดี การให้รางวัลและยกย่องพนักงานที่ใช้ระบบได้ดี จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้พนักงานคนอื่น ๆ พยายามเรียนรู้และใช้งานระบบอย่างเต็มที่
ตัวอย่าง ระบบใหม่ในองค์กรซับซ้อนเกินไปจนผู้ใช้ต้องเสียเวลามากในการหาวิธีใช้งานเอง
แนวทางป้องกัน เน้นการให้การสนับสนุนผู้ใช้ด้วยการจัดตั้งทีมช่วยเหลือ การตอบคำถามอย่างรวดเร็ว และการให้คำแนะนำอย่างละเอียด
เกร็ดความรู้ การสร้างชุมชนผู้ใช้งาน (user community) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้พนักงานสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการใช้งานระบบได้
การหลีกเลี่ยง "อีโง่ซิสเต็ม" ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในองค์กร ตั้งแต่ผู้บริหาร ผู้พัฒนา ไปจนถึงผู้ใช้งาน การวางแผนที่ดี การสื่อสารที่ชัดเจน การทดสอบอย่างรอบคอบ การบำรุงรักษาสม่ำเสมอ การให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และการฝึกอบรมพนักงาน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ระบบไอทีประสบความสำเร็จและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับองค์กร การนำเสนอแนวทางป้องกันเหล่านี้สามารถช่วยให้องค์กรของคุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากระบบ IT และทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่าลืมว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ มนุษย์ยังคงเป็นผู้ควบคุมและตัดสินใจ องค์กรควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบไอที เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์
ข้อคิดวันนี้ "The best way to predict the future is to create it." - Peter Drucker
---------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
- ....
ภาพและรวบรวมโดย
อีโง่ซิสเต็ม (e-ngo system) ระบบงานดิจิทัลที่ทำให้เราดูโง่
รวมข้อมูลและเรื่องราวเทคโนโลยีสารสนเทศ