CT51 ปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจติดตั้งก๊าซ NGV เพื่อลดต้นท่ามกลางวิฤตการณ์น้ำมัน (Fundamental Decision Making for NGV Engine Installation during Fuel Crisis)
ลิขสิทธิ์ สำนักโลจิสติกส์
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
โดย ดร. พงษ์ธนา วณิชย์กอบจินดา
บทนำ
จากการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พบว่าปัญหาด้านวิกฤตการณ์พลังงาน โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน นับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมาขึ้นโดย เฉพาะ อย่างยิ่งการปรับตัวของราคาน้ำมันดีเซลที่มีการปรับตัวถึง 10 บาท ต่อ ลิตร [1] ในช่วงครึ่งปีแรกของ ปี พ.ศ. 2551 ถึงแม้ว่าระคาน้ำมันดีเซลจะมีการปรับราคาลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม – สิงหาคม 2551)[1] แต่จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ผันผวนต่อเนื่อง จนไม่สามารถคาดการณ์ราคาน้ำมันได้ว่าจะตีบตัวขึ้นทะลุ 150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อไหร่ และในที่สุดผู้ให้บริการขนส่งสินค้าของประเทศไทยอาจมีแนวโน้มจะต้องซื้อน้ำมันในราคาถึง 50 บาท ต่อ ลิตร ดังแสดงในแผนภาพที่ 1 ดังนั้นการปรับตัวของราคาน้ำมันนี้ได้ส่งผลกระโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าที่เป็นเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการทั้งในไทยและทั่วโลก แต่ขณะนี้กลับประสบปัญหาชะลอตัว
แผนภาพที่ 1 แนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันดีเซล
จากแผนภาพที่ 1 ได้สงสัญญานถึงแนวโน้มในการเพิ่มขึ้นของค่าน้ำมันดีเซลในอนาคต และจะเป็นวิกฤตการณ์ที่ส่งกระทบโดยตรงภาคธุรกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ซึ่งต้องใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบหรือต้นทุนหลักในการประกอบการ ต้นทุนนำมันที่ใช้ในการขนส่งสินค้าอาจสูงถึงประมาณ 50% ของต้นทุนการประกอบการซึ่งขึ้นอยู่ความสามารถในการบริหารจัดการของผู้ประกอบการแต่ละราย (ดังแผนภาพที่ 2)
แผนภาพที่ 2 การประมาณการต้นทุนการประกอบการผู้ให้บริการขนส่งสินค้า
ดังนั้นการนำพลังงานทางเลือกประเภทอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่าจึงเป็นอีกทางเลือกนึง ซึ่งในปัจจุบันผู้ประกอบการหลายรายได้หันมาติด NGV อย่างไรก็ตามในการติด NGV นั้นใช่ว่าจะคุ้มค่าและสามารถสร้างผลกำไรได้เสมอไป เนื่องจากในปัจจุบัน สถานบริการน้ำมัน NGV มันมีปริมาณน้อยกว่าความต้องการดังนั้นในการจะติด NGV ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐาน ต่าง ๆ ดังนี้
2 การวิเคราะห์ปัจจัยในการติดตั้ง NGV
ปัจจัยที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานจองเครื่องยนต์ NGV แต่ละประเภท
ในการติดตั้ง NGV กับรถบรรทุกหรือรถหัวลาก ผู้ประกอบการจะต้องทำการศึกษาลักษณะของเครื่องยนต์สำหรับ NGV มีกี่ประเภทและมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงการสอบถามกับบริษัทขนส่งที่เคยมีประสบการณ์การใช้ NGV ได้แบ่งประเภทเครื่องยนต์ NGV ไว้ 3 ประเภทคือ การใช้เครื่องยนต์ใหม่ที่ใช้ NGV อย่างเดียว NGV (Repowering) , การดัดแปลงเครื่องยนต์เดิมให้มาใช้ NGV อย่างเดียว (Dedicated Retrofit) , การดัดแปลงเครื่องยนต์ให้สามารถใช้เชื้อเพลิงร่วมได้ (Diesel Dual Fuel : DDF) การเปรียบเทียบของเครื่องยนต์แต่ละประเภทได้แสดงดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 การเปรียบเทียบการเลือกใช้เครื่องยนต์ NGV แต่ละประเภท
รายละเอียด |
ข้อเปรียบเทียบ NGV ทั้ง 3 ระบบ |
||
(DDF) NGV+Diesal |
Modify NGV |
NGV (Repowering) |
|
1. การประหยัดเชื้อเพลิง |
ประหยัด 10-15% |
ประหยัด 40-50% |
ประหยัด 60-70% |
2. ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง |
ระบบดูดควบคุมด้วยกลไก |
ระบบดูดควบคุมด้วยกลไก |
ระบบหัวฉีด ด้วยไฟฟ้า |
3. รูปแบการดัดแปลง |
ไม่ต้องดัดแปลง |
ดัดแปลงเครื่องยนต์เก่า |
เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ |
4. อายุการใช้งาน |
อายุการใช้งานน้อย |
ดัดแปลงไม่มีอาจเครื่องเสีย |
อายุการใช้งานนาน |
5. ปัญหาจากการใช้งาน |
เครื่องยนต์เสียหายเนื่องจากความร้อน |
N/A |
ไม่มี |
6. การใช้เชื้อเพลิง |
ใช้ได้ทั้งดีเซล และแก๊ส |
ใช้แก๊ส 100 % |
ใช้แก๊ส 100 % |
7. ระบบการป้องกันรถยนต์ |
เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ |
เกิดความร้อนฝาสูบแตก |
มี ECU ควบคุมทุกจุด |
8. ค่าใช้จ่าย |
150,000–300,000บาท |
400,000-600,000 บาท |
650,000- 1,300,000 บาท |
9. การรับประกัน |
ไม่มี |
6 เดือน หรือ 50,000 Km. |
1 ปี หรือ 100,000 Km. |
ปัจจัยที่ 2 จำนวนสถานบริการน้ำมัน และ เส้นทางในการขนส่ง
ในการใช้ NGV สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงจำนวนและตำแหน่งของสถานีบริการ NGV ซึ่งปัจจุบันเนื่องจากสถานีบริการ NGV นั้นยังมีจำนวนไม่มาก ทำให้เกิดปัญหาการแย่งกันเติม NGV ส่งผลในการทำให้เกิดการรอคอยการเติม NGV ที่ยาว ทำให้การบริหารรอบในการเดินรถไม่มีประสิทธิภาพ คือ ทำให้ รอบการเดินรถต่ำกว่าหมาย รายได้ของผู้ประกอบการลดลงบางครั้งหากเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลที่หาสถานบริการน้ำมันได้ทั่วกับ สถานบริการ NGV แล้ว การใช้น้ำมันดีเซลอาจทำให้ผู้ประกอบการมีผลประกอบการทีดีกว่าการใช้ NGV นอกจากนั้นผู้ประกอบการจะต้องคิดคำนวณถึงอัตราการบริโภค NGV ว่า ในการเติม NGV เต็มถึง 1 ครั้ง รถบรรทุกคันดังกล่าวจะสามารถมาวิ่งได้ระยะทางกี่ กิโลเมตร เนื่องจากการที่จะใช้ NGV ให้มีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการควรจะต้องมีแผนการเดินรถดังนี้
1. การขนส่งสินค้าระยะทางสั้น จะต้องมีสถานบริการสนับสนุนอยู่พื้นที่ทำการขนส่งสินค้า หรือ สามารถกลับมาเติม NGV ที่เดิมได้
2. การขนส่งสินค้าระยะทางไกล หากเติม NGV จากต้นทาง เมื่อเดินทางถึงปลายทางแล้ว NGV หมดถังจะต้องสามารถหา NGV เติมแล้ววิ่งกลับมาที่เดิมได้
ดังนั้นผู้ประกอบการควรจะต้องมีการทำ Mapping ของสถานบริการ NGV ในเส้นทางที่จะทำการขนส่งสินค้าดังแสดงในแผนภาพที่ 2
แผนภาพที่ 2 การทำ Mapping ของสถานบริการ NGV เพื่อประกอบการตัดสินใจการเลือกใช้ NGV
ปัจจัยที่ 3 การคำนวณหาผลตอบแทนการลงทุน
การลงทุนติดตั้ง หรือ Modify เครื่องยนต์ NGV สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงถือการคาดการณ์ในด้านการเพิ่มขึ้นของราคาค่าน้ำมัน เมื่อเทียบกับการลงทุนติดตั้งเครื่องยนต์ NGV และรายได้หรือปริมาณในการขนส่งสินค้า เนื่องจากการลงทุนสำหรับการติดตั้งเครื่องยนต์ NGV หรือ Modify เครื่องยนต์จะต้องใช้เงินทุน ต่อ คัน ซึ่งอยู่ในระหว่าง 500,000 ถึง ประมาณ 1,300,000 บาท หากผู้ประกอบการมีรถบรรทุกหรือรถหัวลากอยู่หลายคัน ก็จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ดังนั้นหากผู้ประกอบการทำการติดตั้งก็จะต้องตั้งเป้าในการคืนทุนโดยเร็ว ซึ่งหากไม่ได้คำนวณถึงอัตราการคืนทุนแล้วและปล่อยให้เนิ่นนานการติดตั้ง NGV จะไม่เพียงแต่เป็นการสร้างภาระของต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดการลดความความสามารถในการแข่งขันและเกิดหนี้สินขึ้นได้
ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่าง อย่างง่ายในการคำนวณหาจุดคุ้มทุนของของการตัดสินใจติดตั้ง NGV โดยจะตัวอย่างของการติดตั้งเครื่องยนต์ NGV + Diesel (ผู้เขียนไม่ได้นำอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ [หากจำเป็น] มาทำการคิดในตัวอย่างนี้) เป็นการขนส่งสินค้าในแต่ละเป็นการขนส่งเต็มเที่ยว อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบนำไปคำนวณก็สามารถทำได้โดยการลดทอนเป็น “ % “ หรือ โอกาสในการขนส่งสินค้าไม่เต็มเที่ยวเพื่อเป็นการประมาณในการหา Safe-Side หรือ คิดในกรณีของ “In Worst Case” ในการคำนวณจะต้องนำค่าใช้จ่ายในการติดตั้งซึ่งถือว่า เป็น Fix Cost และมาหักออกด้วย รายได้กับผลกำไร ซึ่งต้องรวมค่าใช้จ่ายในบริษัทต่อรถบรรทุกหนึ่งคันด้วย ซึ่งในการคำนวณนี้ผู้ประกอบการสามารถคิดออกมาในรูปแบบของ กิโลเมตร ได้คือ หากรถบรรทุกที่ติด NGV แล้ว วิ่งไปทั้งหมด กี่ กิโลเมตร แล้วทุนคืน ดังแสดงในแผนภาพที่ 3
แผนภาพที่ 3 ตัวอย่างการหาจุดคุ้มทุนของการติดตั้งเครื่องยนต์ NGV
3 สรุป
ในการตัดสินใจติดตั้งเครื่องยนต์ NGV ผู้ประกอบการควรมีการตัดสินใจละเอียดถ้วน เนื่องจากการลงทุนติดตั้งเครื่องยนต์ NGV จะต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงดังนั้นในการติดผู้ประกอบควรจะต้องมีหลักการในการพิจารณาพื้นฐาน ดังที่กล่าวมาคือ พิจารณาประเภทของเครื่องยนต์ การพิจารณาถึงจำนวนของสถานบริการ NGV และเส้นทางในการขนส่งสินค้า สุดท้ายคือการพิจารณาถึงผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งการพิจารณาถึงองค์ประกอบพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้ผู้ประกอบเห็นถึงความเป็นไปได้ในการติดตั้งในแง่ของผลตอบแทนการลงทุนรวมถึงการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
[1] การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 2551 available at : [http://www.pttplc.com/TH/nc_oi.aspx?], มิถุนายน 2551
--------------------------------
สนใจบทความฉบับสมบูรณ์เพิ่มเติม ดาวน์โหลดที่เอกสารแนบด้านล่าง
สนใจบทความอื่นในชุดนี้คลิกดูได้ตามหัวข้อด้านล่าง
CT51 เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2551
เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ปี 2551” จึงเป็นการนำบทความดังกล่าวที่น่าสนใจจำนวน 80 บทความ นำมาจัดทำเป็นรูปเล่มเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวกสำหรับผู้สนใจในการศึกษากรณีศึกษาความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล
--------------------------------
ที่มา
เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2551
โดย สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่