iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

CT52 ระบบโซ่อุปทานรูปแบบใหม่ กรณีศึกษาของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศบราซิล

 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สถาพร อมรสวัสดิ์วัฒนา

บทนำ

อุตสาหกรรมรถยนต์  ได้มีการขยายตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของโลก และเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมทั้งเป็นแหล่งความรู้ทางด้านเทคโนโลยี และการบริหารจัดการที่ใช้อ้างอิงในโลกอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมรถยนต์ ได้มีการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลกทำให้ผู้ประกอบการเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ได้แก่

- แรงกดดันในการลดต้นทุนการผลิตและระยะเวลาในการส่งมอบสินค้า

- การผลิตสินค้าที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

- วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์มีอายุสั้นลง และมีการพัฒนาสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น

- การหาตลาดใหม่ทั้งในแง่ของภูมิภาคและผู้บริโภคกลุ่มใหม่

- การติดต่อประสานงานและร่วมมือในโซ่อุปทานให้มีความเหนียวแน่นมากขึ้น

สำหรับประเทศบราซิล  ได้มีเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการลงทุนของอุตสาหกรรมรถยนต์ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเม็ดเงินจำนวนหนึ่งจะเป็นการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตของโรงงานที่มีอยู่เดิม  และมีเม็ดเงินจำนวนมากถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานใหม่ที่ล้ำสมัย  ส่งผลให้ประเทศบราซิลกลายเป็นประเทศที่มีระบบการผลิตรถยนต์ที่ดีและทันสมัยแห่งหนึ่งของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานและมีผู้ผลิตจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก การลงทุนสร้างนวัตกรรมใหม่ในการบริหารโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของคอนโดมิเนียมอุตสาหกรรม  (Industrial condominium)  ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศบราซิล 

คอนโดมิเนียมอุตสาหกรรม   (Industrial condominium) 

โรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่  7  แห่ง  (Ford, GM, VW, Renault ,PSA ,Daimler Chrysler, และ Toyota) ได้ลงทุนทำการผลิตรถยนต์ในประเทศบราซิลในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโรงงานเหล่านี้ได้ใช้ระบบ  Supply  parks   ที่เรียกว่า คอนโดมิเนียมอุตสาหกรรม  ซึ่งหมายถึง กลุ่มซัพพลายเออร์ทางตรง (Direct suppliers)  มีสถานที่ตั้งโรงงานภายในรั้วของผู้ผลิตรถยนต์และมีส่วนร่วมในค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคกับผู้ผลิตรถยนต์รายนั้นอีกด้วย  ซัพพลายเออร์ เหล่านี้จะรองรับระบบการผลิตที่ซับซ้อน อาทิ การดำเนินงานแบบ Just-in-time ที่สามารถลดปริมาณสินค้าคงคลังและสนับสนุนการผลิตที่สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้ ในบางครั้งจะเรียกซัพพลายเออร์กลุ่มนี้ว่า  “Systemists”  โดยที่การประกอบรถยนต์ขั้นสุดท้ายจะดำเนินการโดยผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น

กรณีศึกษาของประเทศบราซิล

กรณีศึกษานี้กำหนดให้มีผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่งที่เป็น Original equipment manufacturer หรือ OEM  มีซัพพลายเออร์ขั้นต้น (First-tier suppliers) 2 รายคือ บริษัท A และ บริษัท B  และมีซัพพลายเออร์ขั้นที่ 2 (Second-tier suppliers) 2 รายคือ บริษัท C และ บริษัท D โดยที่ซัพพลายเออร์  A  หรือ systemist นี้จะตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์  ในขณะที่ซัพพลายเออร์ B, C และ D  ตั้งอยู่ภายนอกบริเวณของรั้วโรงงานรถยนต์ดังแสดงในรูปที่ 1

ที่มา: งานวิจัยเรื่อง “New configurations in supply chains: the case of a condominium in Brazil’s automotive industry” โดย Silvio R.I. Pires และ Mario Sacomano Neto ในวารสาร Supply Chain Management: An International Journal ฉบับที่ 13 เล่มที่ 4 ปี 2008 หน้า 328-334.

แผนภาพที่ 1 กรณีศึกษาของโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศบราซิล

จากรูปที่ 1 ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ เป็นเจ้าแรกที่ทำการผลิตในประเทศบราซิล ตั้งแต่ปี 1957 ในเมืองเซาเปาโล  มีคนงานประมาณ  20,500 คน  โดยที่คนงานของบริษัทมี 15,000 คน  ส่วนอีก 5,500 คน ถูกจ้างโดยซัพพลายเออร์ โดยที่โรงงานี้มีกำลังการผลิต 1,600 คันต่อวัน

ด้านการจัดการการผลิต

ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์ มีการวางแผนการผลิตร่วมกัน ในการวางแผนการผลิตรวม (Master production schedule - MPS) โดยข้อมูลการวางแผนการผลิตในรอบ 6 เดือนของบริษัทผลิตรถยนต์ จะถูกส่งผ่านระบบการแลกเปลี่ยนอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) ไปยังซัพพลายเออร์ทุกราย โดยที่การผลิตในระยะเวลา 2 สัปดาห์ถัดไปจะถูกกำหนดเป็นที่แน่นอนเสมอ

ในการผลิตจะใช้ระบบ Factory Information System หรือ FIS จะนำยอดจองรถจากดีลเลอร์มาคำนวณรุ่นของรถและรูปแบบที่ต้องทำการผลิต ๆ พร้อมทั้งคำนวณจำนวนวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่จำเป็นพร้อมทั้งปริมาณที่ต้องการและระยะเวลาที่ใช้และส่งต่อไปยังซัพพลายเออร์ทุกราย เพื่อส่งมอบชิ้นส่วนที่จำเป็นต่อการผลิต นอกจากนั้นการทำงานในส่วนนี้ยังครอบคลุมไปถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ การศึกษาการทำงาน วิธีการในการขนส่งชิ้นส่วน และการควบคุมการไหลของวัสดุ ผลจากการใช้คอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมพบว่า

- สามารถลดต้นทุนการดำเนินกิจกรรมกับซัพพลายเออร์ได้

- สามารถลดต้นทุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการติดต่อประสานงานภายในคอนโดมิเนียม

- สามารถลดต้นทุนการผลิตและสินค้าคงคลังจากการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกัน

- สามารถใช้ประโยชน์จากระบบสาธารณูปโภคร่วมกันได้

กระบวนการโลจิสติกส์

โรงงานผลิตรถยนต์มีซัพพลายเออร์ ภายนอกทั้งหมด  400  ราย โดยใช้ระบบการขนส่งแบบวนรอบ (Milk run) และ Kanban  ในการดำเนินการมีผู้ให้บริการโลจิสติกส์จากภายนอกเป็นผู้ดำเนินการขนส่งรับวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์แบบวนรอบกลับเข้าสู่โรงงาน และบริหารการขนส่งให้มีการบรรทุกทั้งสองขา ทั้งขาไปและขากลับ

ระบบโลจิสติกส์ในคอนโดมิเนียมจะประยุกต์ใช้การผลิตแบบโมดูล (Modularization) ระบบ Kanban ระบบ Just In Time โดยมีการทำการรวบรวมและกระจายชิ้นส่วน (Cross-docking) เป็นส่วนสำคัญในการผลิต

จากการศึกษาพบว่า ถ้ามีซัพพลายเออร์ในบริเวณของโรงงานนั้นจะสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 15 % นอกจากนี้ยังสามารถสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ได้อีกด้วย ซึ่งผลจากกรณีศึกษาที่น่าสนใจสามารถแสดงได้ดังตารางที่ 1

ที่มา: งานวิจัยเรื่อง “New configurations in supply chains: the case of a condominium in Brazil’s automotive industry” โดย Silvio R.I. Pires และ Mario Sacomano Neto ในวารสาร Supply Chain Management: An International Journal ฉบับที่ 13 เล่มที่ 4 ปี 2008 หน้า 328-334.

ตารางที่ 1 สรุปประเด็นจากกรณีศึกษาของโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศบราซิล

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการใช้คอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมจะสามารถลดต้นทุนของการผลิตผ่านทางความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ระหว่างผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าปลายทางได้

ที่มา:

งานวิจัยเรื่อง “New configurations in supply chains: the case of a condominium in Brazil’s automotive industry” โดย Silvio R.I. Pires และ Mario Sacomano Neto ในวารสาร Supply Chain Management: An International Journal ฉบับที่ 13 เล่มที่ 4 ปี 2008 หน้า 328-334.

.

สนใจบทความฉบับสมบูรณ์เพิ่มเติม ดาวน์โหลดที่เอกสารแนบด้านล่าง

 --------------------------------

ดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่

 เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2552

เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” จึงเป็นการนำบทความดังกล่าวที่น่าสนใจจำนวน 15 บทความ จัดทำเป็นรูปเล่ม เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวกสำหรับผู้สนใจในการศึกษาความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล

 --------------------------------

ที่มา

เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2552

โดย สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward