CT54 วางแผนวัสดุคงคลัง (Inventory planning) ด้วยการสร้างสมดุลในซัพพลายเชน (Demand supply balance)
ลิขสิทธิ์ สำนักโลจิสติกส์
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
ปัญหาสินค้าสำเร็จรูปขาดมือ (Inventory Out of Stock) นับเป็นปัญหาที่องค์กรหรือสถานประกอบการหลายแห่งประสบบ่อยครั้ง สินค้าสำเร็จรูปขาดมือเกิดขึ้นเมื่อมีความต้องการสินค้าแต่ไม่มีสินค้าที่จะส่งมอบให้แก่ลูกค้า ส่งผลให้ขาดโอกาสในการขายสูญเสียโอกาสทำกำไร ความเชื่อมั่นของลูกค้าลดต่ำลง ในด้านต้นทุนที่เกิดขึ้นนั้น ได้แก่ การสูญเสียรายได้เนื่องจากลูกค้าไปซื้อที่อื่น หรืออาจจะเป็นค่าใช้จ่ายในการลดราคาสินค้าเพื่อจูงใจให้ลูกค้ารอสินค้า นอกจากนี้การสูญเสียความเชื่อใจ และความพึงพอใจของลูกค้า สามารถนับเป็นค่าใช้จ่ายเนื่องจาการขาดแคลนสินค้าได้ด้วย
การวางแผนวัสดุคงคลัง (Inventory planning) มีด้วยกันหลายวิธี สำหรับการสร้างสมดุลในซัพพลายเชน (Demand supply balance) เป็นวิธีหนึ่งที่นำมาช่วยในการวางแผนวัสดุคงคลัง
Demand supply balance เป็นวิธีการคำนวณขั้นพื้นฐาน รวมทั้งเป็นกรอบของการวางแผนที่ทำให้มองเห็นภาพรวมของการจัดการซัพพลายเชน ได้แก่ ปริมาณนำออกจากระบบ ปริมาณที่นำเข้ามาในระบบ และปริมาณที่คงเหลืออยู่ในระบบ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของการวางแผน สถานประกอบการควรจัดทำตาราง Demand supply balance ในหลายรูปแบบ ดังตัวอย่างที่แสดงในตารางที่ 1 ถึงตาราง 5
ตารางที่ 1 Demand Supply Balance ของผลิตภัณฑ์เป็นรายปี
(ชิ้น) |
ต้นปี 2551 |
ขายปี 2551 |
ผลิตปี 2551 |
ต้นปี 2552 |
ขายปี 2552 |
ผลิตปี 2552 |
ต้นปี 2553 |
สินค้า ก |
500 |
(6,900) |
7,400 |
1,000 |
(7,500) |
7,300 |
800 |
สินค้า ข |
500 |
(700) |
1,000 |
800 |
(700) |
100 |
200 |
สินค้า ค |
1,200 |
(9,000) |
8,000 |
200 |
(10,000) |
12,000 |
2,200 |
ตารางที่ 2 Demand Supply Balance ของผลิตภัณฑ์เป็นรายไตรมาส
(ชิ้น) |
ต้น Q1 2553 |
ขาย Q1 2553 |
ผลิต Q1 2553 |
ต้น Q2 2553 |
ขาย Q2 2553 |
ผลิตQ2 2553 |
ต้น Q3 2553 |
สินค้า ก |
800 |
(2,000) |
2,000 |
800 |
(1,600) |
2,000 |
1,200 |
สินค้า ข |
200 |
(60) |
100 |
240 |
(60) |
100 |
280 |
สินค้า ค |
2,200 |
(800) |
500 |
1,900 |
(1,000) |
500 |
1,400 |
ตารางที่ 3 Demand Supply Balance ของผลิตภัณฑ์เป็นรายเดือน
(ชิ้น) |
ต้น ม.ค. 2553 |
ขาย ม.ค. 2553 |
ผลิต ม.ค. 2553 |
ต้น ก.พ. 2553 |
ขาย ก.พ. 2553 |
ผลิต ก.พ. 2553 |
ต้น มี.ค. 2553 |
สินค้า ก |
800 |
(650) |
700 |
850 |
(600) |
600 |
850 |
สินค้า ข |
200 |
(20) |
35 |
215 |
(20) |
30 |
225 |
สินค้า ค |
2,200 |
(300) |
200 |
2,100 |
(250) |
200 |
2,050 |
ตารางที่ 4 Demand Supply Balance ของผลิตภัณฑ์เป็นรายสัปดาห์
(ชิ้น) |
ต้น W1 2553 |
ขาย W1 2553 |
ผลิต W1 2553 |
ต้น W2 2553 |
ขาย W2 2553 |
ผลิตW2 2553 |
ต้น W3 2553 |
สินค้า ก |
800 |
(150) |
160 |
810 |
(150) |
160 |
820 |
สินค้า ข |
200 |
0 |
10 |
210 |
(8) |
10 |
212 |
สินค้า ค |
2,200 |
(70) |
50 |
2,180 |
(80) |
50 |
2,150 |
ตารางที่ 5 Demand Supply Balance ของผลิตภัณฑ์เป็นรายวัน
(ชิ้น) |
ต้น 1 ม.ค. 2553 |
ขาย 1 ม.ค. 2553 |
ผลิต 1 ม.ค. 2553 |
ต้น 2 ม.ค. 2553 |
ขาย 2 ม.ค. 2553 |
ผลิต 2 ม.ค. 2553 |
ต้น 3 ม.ค. 2553 |
สินค้า ก |
800 |
(30) |
30 |
800 |
(30) |
33 |
803 |
สินค้า ข |
200 |
0 |
2 |
202 |
0 |
2 |
204 |
สินค้า ค |
2,200 |
(15) |
15 |
2,200 |
(18) |
15 |
2,197 |
และยังอาจลงรายละเอียดต่อไปอีกเป็นรายชั่วโมง ถ้าหากว่าการจัดทำดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์ในการติดตามความเคลื่อนไหวของสถานะสินค้าคงคลัง และควบคุมการจัดการการผลิตและโลจิสติกส์ได้ละเอียดยิ่งขึ้น
นอกจากผลิตภัณฑ์หรือสินค้าสำเร็จรูปแล้ว ยังสามารถจัดทำ Demand supply balance ของวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ อะไหล่ วัสดุทุกอย่างที่ต้องการการวางแผนซัพพลายเชน รูปแบบของการทำ Demand supply balance จะเหมือนกับผลิตภัณฑ์ แต่ตัวแปรที่นำเข้ามาในระบบ และนำออกจากระบบจะเปลี่ยนไป กล่าวคือการนำเข้าระบบมักเป็นการซื้อเข้า การนำออกจากระบบคือการนำไปใช้ ดังตัวอย่างในตารางที่ 6
ตารางที่ 6 Demand Supply Balance ของวัตถุดิบเป็นรายเดือน
(ชิ้น) |
ต้น ม.ค. 2553 |
ใช้ไป ม.ค. 2553 |
ซื้อ ม.ค. 2553 |
ต้น ก.พ. 2553 |
ใช้ไป ก.พ. 2553 |
ซื้อ ก.พ. 2553 |
ต้น มี.ค. 2553 |
วัตถุดิบ ก |
700 |
(600) |
700 |
800 |
(600) |
0 |
200 |
วัตถุดิบ ข |
500 |
(400) |
350 |
450 |
(400) |
400 |
450 |
วัตถุดิบ ค |
300 |
(150) |
200 |
350 |
(150) |
200 |
400 |
การจัดทำ Demand supply balance ทำให้สามารถมองเห็นสถานะและการเคลื่อนไหวของสินค้าหรือวัตถุดิบคงเหลือในระบบในแต่ละงวดเวลา ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าและจ่ายออกจากระบบ คำว่าระบบในที่นี้ อาจหมายถึง สินค้าคงคลังทั้งหมดของสถานประกอบการ หรือหน่วยผลิตหนึ่ง ๆ หรือคลังสินค้าหนึ่ง ๆ หรือคลังวัตถุดิบหนึ่ง ๆ ก็ได้
สมการในการทำ Demand Supply Balance ของผลิตภัณฑ์ คือ
ต้นงวด + ผลิต – ขาย = ปลายงวด
หรือ ต้นงวด + ผลิต = ปลายงวด + ขาย
ผลิต = (ปลายงวด – ต้นงวด) + ขาย
จากสมการ Demand supply balance ดังกล่าวจะเห็นได้ว่า เวลาต้องการตัดสินใจว่าควรจะผลิตสินค้าเท่าไร ก็ต้องพิจารณาจากปริมาณที่ต้องการขาย ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของปริมาณสินค้าคงคลังด้วยเสมอ สมการอย่างง่ายที่มีการคำนวณเพียงบวกและลบเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง หลาย ๆ สถานประกอบการยังไม่ได้จัดทำ Demand supply balance เพื่อการวางแผนการผลิตและแผนสินค้าคงคลังปลายงวดอย่างเหมาะสม
--------------------------------
สนใจบทความดูได้ตามหัวข้อด้านล่าง
CT54 เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2554
เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ปี 2554” จึงเป็นการนำบทความดังกล่าวที่น่าสนใจ จัดทำเป็นรูปเล่มเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวกสำหรับผู้สนใจในการศึกษาความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล
--------------------------------
ที่มา
เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2554
โดย สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่