E-Book คู่มือการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ (Manual Offsite Government Practice)
ที่มาข้อมูล สานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จากการที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกในยุคปัจจุบัน ทำให้ประชากรในโลกทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้มากขึ้น ทั้งในการทำงานและการดำเนินชีวิตที่สามารถนำมาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ส่งผลให้รูปแบบและวัฒนธรรมการทำงานในองค์กร เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่พนักงานผู้ปฏิบัติงานจะต้องเข้ามาปฏิบัติงานประจำทุกวันที่สำนักงาน ไปสู่รูปแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานมากขึ้น พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้ทุกที่ทุกเวลา โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการปฏิบัติงานจากภายนอกสำนักงาน เช่น บ้านที่พักอาศัย หรือจากสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด สวนสาธารณะ เป็นต้น โดยพนักงานในยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องเข้ามานั่งทำงานเพียงแค่ในสำนักงานเป็นประจำทุกวันเหมือนเดิม
การทำงานนอกสถานที่ (Telecommute) หรืออาจพบเรียกในชื่อที่หลากหลายเช่น ทำงานทางไกล (Telework), การทำงานที่บ้าน (Work from Home), การทำงานแบบเคลื่อนที่ (Mobile work) หรือการทำงานจากรระยะไกล (Remote work) เป็นแนวคิดที่องค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศในปัจจุบันได้พยายามนำมาใช้อย่างกว้างขวางเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง
ประเทศไทยในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ ก็สามารถนำแนวคิดดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของข้าราชการและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในงานภาครัฐ ให้สามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้ดีขึ้นได้ และแนวคิดการทำงานนอกสถานที่ของรัฐจะเป็นส่วนสนับสนุนการลดปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหามลภาวะทางอากาศ รวมทั้งสามารถนำมาใช้ในกรณีที่มีเหตุให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติงานประจำที่สำนักงานได้ ในระยะยาวจะช่วยประหยัดงบประมาณจากการลดค่าใช้จ่ายที่มีของสำนักงานลง เป็นการสร้างวัฒนธรรมการทำงานของรัฐรูปแบบใหม่สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
รูปแบบและแนวทางการปฏิบัติงานนอกสถานที่ การปฏิบัติราชการนอกสถานที่มีรูปแบบและแนวทางปฏิบัติงาน ดังนี้
1. รูปแบบการปฏิบัติงานนอกสถานที่
- การปฏิบัติงานนอกสถานที่อย่างสม่ำเสมอ โดยกำหนดให้ข้าราชการหรือบุคลากรภาครัฐปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ให้ไม่ต้องเข้ามาที่สำนักงาน โดยกำหนดเป็นกรอบระยะเวลาสม่ำเสมอ เช่น 2 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 4 วันต่อเดือน เป็น ระยะเวลา 12 เดือน เป็นต้น
- การปฏิบัติงานนอกสถานที่เป็นครั้งคราว โดยกำหนดให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ โดยไม่ต้องเข้ามาปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน โดยกำหนดเป็นช่วง ระยะเวลาที่แน่นอน เช่น 5 วันทำการ หรือ 10 วันทำการ เป็นต้น
- สำหรับเวลาการปฏิบัติราชการนอกเหนือจากรูปแบบข้างต้น ให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติงานในสำนักงานตามปกติ
2. แนวทางการปฏิบัติงานนอกสถานที่ แนวทางการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ เป็นไปได้ทั้งในลักษณะของการทำงานเดี่ยว หรือการทำงาน ร่วมกันเป็นทีม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และการวางแผนการทำงานร่วมกัน โดยในช่วงที่ไม่ได้มาปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัล เพื่อการประชุม การหารือ การประสานงาน กับผู้บังคับบัญชา และผู้ร่วมปฏิบัติงาน โดยมีแนวทางการทำงานผ่านระบบและช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ อาทิ
- การประชุมแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น CISCO Webex Meeting , Microsoft Team, LINE Group Call เป็นต้น
- การประสานงานผ่านแอปพลิเคชันสนับสนุนการทำงานร่วมกันเป็นทีม เช่น CISCO Webex Team, Microsoft Team เป็นต้น
- การปฏิบัติงานร่วมกันผ่านแอปพลิชันการทำงานสำนักงานออนไลน์ เช่น Microsoft Office 365, Google G Suite เป็นต้น
- การปฏิบัติงานผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อทำงานผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัลที่สำนักงานกำหนด
ลักษณะงานในการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ สามารถจำแนกลักษณะงานได้ ดังนี้
1. ลักษณะงานที่สามารถปฏิบัติราชการนอกสถานที่ได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
- งานวิชาการในลักษณะของการศึกษาค้นคว้า คิดวิเคราะห์ การจัดทำรายงานการศึกษา การวิเคราะห์วิจัย รายงานทางวิชาการ การจัดทำข้อเสนอแนะ การออกแบบหรือพัฒนา ระบบคอมพิวเตอร์ การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม การพิจารณาวินิจฉัยข้อกฎหมาย หรือ งานรูปแบบอื่นที่หน่วยงานต้นสังกัดเห็นว่าสามารถปฏิบัติงานได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามา ปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน
- งานบริหาร และงานอำนวยการ ที่สามารถสื่อสาร กำกับและติดตามการดำเนินงาน กับ ผู้ปฏิบัติงานโดยผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัลได้
- งานลักษณะอื่นที่สามารถเข้าถึงผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัล และสามารถปฏิบัติงานได้ เช่นเดียวกับการปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน
- งานที่สามารถกำหนดเป้าหมาย และประเมินผลสำเร็จของงาน ได้อย่างเป็นรูปธรรม
2. ลักษณะงานที่ไม่สามารถปฏิบัติราชการนอกสถานที่ได้
- งานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เอกสาร หรือข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ในสำนักงานที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม
- งานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการให้บริการประชาชน เช่น งานทะเบียนราษฎร์ งาน บริการทางการแพทย์ และสาธารณสุข งานด้านการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
- งานที่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคในการปฏิบัติงาน เช่น งานด้านเทคนิคการแพทย์ งานควบคุมการจราจรทางอากาศ งานด้านการตรวจสอบวัตถุอันตราย เป็นต้น
คุณลักษณะของข้าราชการหรือบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติราชการนอกสถานที่
ข้าราชการหรือบุคลากรภาครัฐที่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ควรมีคุณลักษณะ ดังนี้
- เป็นผู้มีความรับผิดชอบสูง มีวินัย และมีศักยภาพในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
- เป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยต้องการการกำกับดูแลน้อย
- เป็นผู้ที่มีความพร้อมสามารถเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสม่ำเสมอ และมีทักษะในการ ปฏิบัติราชการผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัล
ผู้มีอำนาจสั่งให้ข้าราชการหรือบุคลากรภาครัฐปฏิบัติราชการนอกสถานที่
อำนาจในการสั่งให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ เป็นอำนาจของหัวหน้า ส่วนราชการ ระดับกระทรวง หรือระดับกรม ตามนัยของระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 ข้อ 11 ที่ระบุว่า “ในกรณีจำเป็น หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงหรือหัวหน้าส่วนราชการจะกำหนดวิธีลงเวลาการ ปฏิบัติราชการ หรือวิธีควบคุมการปฏิบัติราชการของข้าราชการที่มีการปฏิบัติราชการในลักษณะพิเศษเป็น อย่างอื่นตามที่เห็นสมควรก็ได้ แต่จะต้องมีหลักฐานให้สามารถตรวจสอบวันเวลาการปฏิบัติราชการได้ด้วย” ทั้งนี้ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้น หรือผู้บังคับบัญชาลำดับสูงขึ้นไปของข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐที่จะ ปฏิบัติงานนอกสถานที่ เป็นผู้เสนอหัวหน้าส่วนราชการเพื่อพิจารณาสั่งให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ พร้อมทั้งระบุเป้าหมายของงานที่จะปฏิบัติงานในช่วงเวลาที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติ ราชการ ณ สำนักงาน 6. แนวทางการกำกับและติดตามการปฏิบัติงาน ก่อนเริ่มการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ผู้ปฏิบัติงานควรมีการตกลงเป้าหมายการปฏิบัติงานในช่วงเวลา ที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติราชการ ณ สำนักงาน ร่วมกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้น โดยระบุเป็นผลสำเร็จของงานที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม ทั้งนี้อาจเป็นเป้าหมายที่ตัดทอนมาจากข้อตกลงการปฏิบัติราชการของข้าราชการ ในแต่ละรอบ การประเมิน
ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ ในการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของผู้ปฏิบัติงาน ในการกำกับและติดตามการ ดำเนินงานในช่วงที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติราชการที่สำนักงานอย่างสม่ำเสมอ และผู้ปฏิบัติงานจะต้องรายงาน ความก้าวหน้าการดำเนินงานให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นทราบเป็นระยะ โดยการกำกับและติดตามการปฏิบัติงาน อาจดำเนินการโดยผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัล เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานต่อ ผู้บังคับบัญชาชั้นต้น โดยผู้บังคับบัญชาชั้นต้นจะเป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการ และบุคลากร ภาครัฐ พร้อมทั้งรายงานผลสำเร็จของงานต่อหัวหน้าส่วนราชการ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- คู่มือการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ (Manual Offsite Government Practice)
- การเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีสนับสนุนการปฏิบัติงาน (ICT Preparation for Operational Support)
- แนวทางการดำเนินงานสำหรับหน่วยงานของรัฐ (Implementation guidelines for government agencies)
- รวมแหล่งลิงค์ความรู้ ที่อาจจะต้องใช้ในกรณีหากต้องทำงานที่บ้าน หรือกรณ๊ปิดประเทศห้ามเดินทาง
-
การทำงานนอกสถานที่อาจมีส่วนสำคัญในการสร้างแรงจูงใจ ผ่านรูปแบบการทำงานแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีความสนุกสนาน และผู้ปฏิบัติงาน สามารถมีสมาธิในการปฏิบัติงาน อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสามารถกระตุ้นให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนานวัตกรรม
ที่มา https://www.onde.go.th
สนใจดาวน์โหลดเอกสาร ด้านล่าง
---------------------------------------------------------
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมคลิก
คู่มือการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ (Manual Offsite Government Practice)
---------------------------------------------------------
---------------------------------------------
ดูเพิ่มเติมเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ได้ที่
COVID-19 รวมความรู้ที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 (COVID-19)
---------------------------------------------