ธรณีวิทยาเบื้องต้น บทที่ 17 ธรณีวิทยาของประเทศไทย (Geology of Thailand)
สนใจดูเรื่องราวธรณีวิทยาคลิกที่นี่
ธรณีวิทยาเบื้องต้น (Introduction to Geology)
บทที่ 17 ธรณีวิทยาของประเทศไทย (Geology of Thailand)
17.1 โครงสร้างทางธรณีวิทยาของประเทศไทย (Geological Structure of Thailand)
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางธรณีวิทยา โดยโครงสร้างทางธรณีวิทยาของประเทศประกอบไปด้วยหินหลายชนิดและมีอายุแตกต่างกันตั้งแต่ยุคพรีแคมเบรียนจนถึงยุคควอเทอร์นารี ลักษณะทางธรณีวิทยาของไทยได้รับอิทธิพลจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก โดยเฉพาะการชนกันของแผ่นอินโด-ออสเตรเลียและแผ่นยูเรเชีย ทำให้เกิดภูเขา หุบเขา และแอ่งน้ำหลายแห่ง
โครงสร้างทางธรณีวิทยาของประเทศไทยมีความหลากหลายและซับซ้อน ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกในช่วงเวลาต่างๆ ของประวัติศาสตร์โลก พื้นที่ของประเทศไทยตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกอินโดจีน (Indochina Plate) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและแผ่นยูเรเชีย ทำให้เกิดโครงสร้างธรณีวิทยาที่สำคัญ เช่น รอยเลื่อน (Faults) และรอยแยก (Fractures) ที่มีผลต่อการเกิดแผ่นดินไหวและการเคลื่อนตัวของพื้นดิน
โครงสร้างทางธรณีวิทยาแต่ละโซน (zones) ได้แก่ แถบหินเก่าในภาคเหนือและภาคตะวันตก แถบภูเขาหินปูนในภาคกลางและภาคใต้ และแถบแอ่งตะกอนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีรอยเลื่อนทางธรณีวิทยาหลายสาย เช่น รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน และรอยเลื่อนปิง ที่มีศักยภาพในการเกิดแผ่นดินไหว ประกอบด้วยเทือกเขาและหุบเขาที่เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลก โครงสร้างหินแกรนิตและหินปูนเป็นที่แพร่หลายในภูมิภาคนี้ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ทำให้เกิดเทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินแปรและหินอัคนี
ภูมิภาคภาคกลาง ประกอบด้วยที่ราบลุ่มที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนที่พัดพามาจากแม่น้ำต่างๆ ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางการเกษตรของประเทศไทย เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดจากการทับถมของตะกอนจากแม่น้ำเจ้าพระยาและสาขา หินที่พบส่วนใหญ่เป็นตะกอนดิน ทราย และกรวด
ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ราบสูงโคราช เกิดจากการยกตัวของแผ่นดินและการกัดเซาะของแม่น้ำ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินทราย หินดินดาน และหินภูเขาไฟ ประกอบด้วยชั้นหินตะกอนที่มีอายุเก่าแก่ เป็นที่ราบสูงโคราช เกิดจากการยกตัวของแผ่นดินและการกัดเซาะของแม่น้ำ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินทราย หินดินดาน และหินภูเขาไฟ
ภูมิภาคภาคใต้ เป็นคาบสมุทรแคบๆ มีเทือกเขาทางตะวันตกและที่ราบชายฝั่งทางตะวันออก หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินปูน หินแกรนิต และหินภูเขาไฟประกอบด้วยเทือกเขาและชายฝั่งทะเลที่มีโครงสร้างธรณีวิทยาที่เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของทะเลStructure of Thailand)
- ภาคตะวันตก เป็นเทือกเขาสูงและที่ราบสูง หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินปูน หินทราย และหินดินดาน
ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อนและหลากหลาย
17.2 ทรัพยากรธรณีที่สำคัญของประเทศไทย (Important Geological Resources of Thailand)
ประเทศไทยมีทรัพยากรธรณีที่สำคัญและมีความหลากหลาย เช่น แร่ธาตุ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทรัพยากรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทรัพยากรแร่ที่สำคัญได้แก่ ดีบุก ทองคำ ทองแดง เหล็ก สังกะสี และฟลูออไรต์ ซึ่งพบได้ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคใต้ นอกจากนี้ ทรัพยากรหิน เช่น หินปูน หินแกรนิต และหินอ่อน ก็เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมอื่นๆ หินปูนถูกใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ ขณะที่หินแกรนิตและหินอ่อนถูกใช้ในงานตกแต่งและก่อสร้าง น้ำมันและก๊าซธรรมชาติพบได้ในอ่าวไทยและแถบทะเลอันดามัน ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตพลังงานในประเทศ ไทยมีทรัพยากรธรณีที่สำคัญหลากหลาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทรัพยากรธรณีเหล่านี้รวมถึงแร่ธาตุ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรน้ำใต้ดิน
- น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทะเลอ่าวไทยเป็นแหล่งสำคัญของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อการผลิตพลังงานของประเทศ
ทรัพยากรน้ำใต้ดิน ทรัพยากรน้ำใต้ดินมีความสำคัญในการใช้ในการเกษตรและการอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ที่มีการพัฒนาทางการเกษตรสูง
- แร่ธาตุ ประเทศไทยเป็นแหล่งสำคัญของแร่ธาตุต่างๆ เช่น ดีบุก ทองคำ ทองแดง เหล็ก และยิปซัม แร่ดีบุกจากประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกและเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญ นอกจากนี้ไทยยังมีทรัพยากรทางธรณีอื่นๆ เช่น หินปูนที่ใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมถึงทรัพยากรทรายและดินเหนียวที่ใช้ในการผลิตเซรามิกประเทศไทยมีทรัพยากรธรณีที่สำคัญหลายชนิด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
- แร่โลหะ เช่น ดีบุก ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง เหล็ก แมงกานีส และทองคำ
- แร่อโลหะ เช่น ถ่านหิน ยิปซัม หินปูน ดินขาว ฟลูออไรต์ บารีต์ เฟลด์สปาร์ และโพแทช
- เชื้อเพลิงธรรมชาติ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินลิกไนต์
- อัญมณี: เช่น ทับทิม ไพลิน บุษราคัม มรกต และเขียวส่อง
17.3 ภัยพิบัติทางธรณีวิทยาในประเทศไทย (Geological Hazards in Thailand)
ประเทศไทยเผชิญกับภัยพิบัติทางธรณีวิทยาหลายประการ เช่น แผ่นดินไหว ดินถล่ม และการกัดเซาะชายฝั่ง แม้ว่าไทยจะไม่ได้อยู่ในแนวแผ่นดินไหวที่รุนแรงเหมือนประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค แต่ก็ยังมีรอยเลื่อนที่มีศักยภาพในการทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรณีวิทยาหลายประเภท แม้ว่าอัตราการเกิดภัยพิบัติอาจจะไม่สูงเท่ากับบางประเทศ แต่ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ และต้องมีการเตรียมพร้อมและจัดการอย่างเหมาะสม การตั้งอยู่ในเขตที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรณีวิทยาอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น
- ดินถล่ม มักเกิดขึ้นในพื้นที่ภูเขาพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาและมีฝนตกชุกภัยดินถล่มมักเกิดขึ้นในพื้นที่ภูเขาสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกหนัก มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เมื่อปริมาณน้ำฝนสูง และมีผลกระทบต่อชุมชนและเส้นทางคมนาคม
- การกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่ง การกัดเซาะชายฝั่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศไทย ทำให้สูญเสียพื้นที่ชายฝั่งและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการประมงภัยพิบัติการกัดเซาะชายฝั่งเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งมีการกัดเซาะที่ทำให้พื้นที่ชายหาดหายไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อชุมชนและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
- แผ่นดินไหว ประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้กับแนวรอยเลื่อนที่สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตที่มีความเสี่ยงสูงต่อแผ่นดินไหว แต่ก็มีรอยเลื่อนสำคัญหลายแห่งที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางได้ แผ่นดินไหวอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
- น้ำท่วม เป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ราบลุ่มภาคกลางและภาคใต้ การจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผนการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม
การเข้าใจลักษณะทางธรณีวิทยาของประเทศไทยและการจัดการภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรณีวิทยาของประเทศไทย ช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรณีที่มีอยู่อย่างยั่งยืน และเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรณีวิทยาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
- ....
ภาพและรวบรวมโดย
ธรณีวิทยาเบื้องต้น (Introduction to Geology)
รวมข้อมูลและเรื่องราว ธรณีวิทยา