Nares อินโดนีเซีย ตะลุยแดนอิเหนากับสมาคมธรณี (8) น้ำตกขุนช้างจำศีล (มาดาการีปุระ)
ภาพที่ 1 เส้นทางไปน้ำตกขุนช้างจำศีล ซึ่งมักจะทำให้นักท่องเที่ยวต้องเปียกโชกกันเลยแหละ
ตะลุยแดนอิเหนากับสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย น้ำตกขุนช้างจำศีล (มาดาการีปุระ)
ก่อนที่คณะทัศนศึกษาของสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทยจะได้ปีนยอดภูเขาไฟในอินโดนีเชียนั้น วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 พวกเราจะได้โอกาสชิมลางไปที่ดูหินในบริเวณที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเชิงเขาด้านตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาไฟโบรโม และเทือกเขา Tengger ซึ่งเราจะลุยน้ำและปีนเส้นทางที่ระเกะระกะด้วยก้อนหินภูเขาไฟ เป็นเวลาประมาณ 20 นาที เพื่อเยี่ยมชมน้ำตก มาดาการีปุระ (Madakaripura Waterfall)
ว่ากันว่าน้ำตกแห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างน้อยในสองประการคือ เป็นน้ำตกที่อยู่ในซอกเขาที่มีหน้าผาล้อมรอบสูงถึง 200 เมตร นับว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในเกาะชวา (ยืนหนึ่งในอินโดนีเซียคือน้ำตก Sigura-gura ที่ทะเลสาบโทบา เกาะสุมาตรา) ตามเส้นทางที่เดินเข้าไปนั้นจะเย็นชุ่มฉ่ำโดยตลอด เพราะจะมีสายน้ำ และละอองน้ำโปรยปรายลงมาโดยตลอดจนนักท่องเที่ยวต้องใส่เสื้อกันฝน (ภาพที่ 1) หน้าผาสองข้างและที่น้ำตกจะมีความเขียวครึ้มจากมอสและพืชกลายพันธ์ขึ้นปกคลุม รวมทั้งชะโงกผา และซอกหินที่ซ่อนตัวอย่างน่าอัศจรรย์
ประการที่สอง มีตำนานเล่าขานว่า น้ำตกแห่งนี้คือสถานที่ที่บุคคลที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของอินโดนีเซียท่านหนึ่งได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายของท่าน ด้วยการจำศีลภาวนา จนร่างของท่านสูญหายไปจากโลก ท่านผู้นั้นคือ มหาปะติห์ กาจาห์ มาดา (Mahapatih Gajah Mada) (ภาพที่ 2)
ประวัติศาสตร์ของอินโดนีเซียช่วงหนึ่งจารึกไว้ว่า ระหว่างปีค.ศ. 1293 -1500 มีอาณาจักรฮินดูแห่งใหม่เกิดขึ้นในเกาะชวา ชื่อ อาณาจักรมัชปาหิต (Majapahit Kingdom) กษัตริย์เจ้าผู้ครองได้แต่งตั้ง ชายผู้หนึ่งให้ขึ้นเป็น Mahapatih (เทียบเท่ากับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน) Kajah Mada มีอำนาจในการปกครองดูแลกองทัพของอาณาจักร ตำนานยังพยายามขานไขว่า ชื่อของท่านนี้มีที่มาอย่างไร เพราะคำว่า Kajah แปลว่าช้าง และ Mada แปลว่า เมา ความหมายที่ตีความแล้วคือ ท่านเปรียบเสมือนช้าง (พาหนะของกษัตริย์) ที่ดุดัน เกรี้ยวกราด เหมือนคนเมา ยามเมื่อพบเจออุปสรรค ท่านเคยให้สัตย์ปฏิญาณไม่เอาเครื่องปรุง (Sumpah Palapa; Sumpah = ปฏิญาณ, Palapa = มะพร้าว, ของเผ็ด) ที่ว่า “เราจะไม่ทานอาหารที่ปรุงแต่ง เราจะทานแต่ข้าวปล่าว ผักต้ม น้ำเปล่า จนกว่าเราจะสามารถยืดครองหมู่เกาะชวาทั้งหมด รวมทั้ง มาเลเซีย บอร์เนียว และฟิลิปปินส์ได้
กาจาห์ มาดา สามารถทำได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ จนกระทั่งปีค.ศ. 1357 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตไปสู่ขอเจ้าหญิง Dyah Pitaloka Citraresmi แห่งนครซุนดา ให้แก่กษัตริย์ของมัชปาหิต แต่เขาแจ้งเจ้านครว่า จะสู่ขอไปเป็นนางสนม ทำให้เกิดสงครามระหว่างสองฝ่ายขึ้นมา นครซุนดาพ่ายแพ้ เจ้าหญิงจึงฆ่าตัวตาย (ภาพที่ 3) เมื่อกษัตริย์ทราบข่าวก็โกรธมาก กาจาห์ มาดา จึงไม่ได้รับการยอมรับจากกษัตริย์อีกต่อไป เขาจึงหลบไปเก็บตัวที่น้ำตกในเทือกเขาทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาไฟโบรโม และสูญหายไปในที่สุด น้ำตกแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า มาดาการีปุระ หรือ น้ำตกขุนช้างจำศีล จังซั่นแหล้ว
จากภาพถ่ายที่เห็นในสังคมออนไลน์ ข้าพเจ้าพบว่า ณ จุดสุดท้ายของน้ำตก อันมีลักษณะเหมือนหอคอย มีหน้าผาชันดิ่งลงมา มองเห็นชั้นหินที่แปลกตา (ภาพที่ 4) ไม่น่าจะเป็นแค่การตกทับถมของตะกอนภูเขาไฟตามปกติ ก็ตั้งใจไว้นะครับ ท่านสารวัตร ว่าจะเดินไปให้ถึงจุดนี้ เพื่อหาคำตอบว่า ลักษณะชั้นหินที่ดูแปลกๆ นี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร
จะไปด้วยกันไหมล่ะครับ ท่านสารวัตร
ที่มา
- https://www.facebook.com/nares.sattayarak
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------------------------------
บทความ ดร. นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak) รวมข้อมูล
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย-------------------------------------------------
ภาพที่ 2 ภาพวาด มหาปะติห์ กาจาห์ มาดา และรูปปั้นของท่านในท่านั่งวิปัสสนา ที่ทางเข้าน้ำตกมาดาการีปุระ
ภาพที่ 3 ภาพจินตนาการ เจ้าหญิง Dyah Pitaloka Citraresmi กำลังจะปลงพระชีพตนเอง หลังจากทราบข่าวการพ่ายแพ้ของกองทัพซุนดา
ภาพที่ 4 ภาพถ่ายหน้าผาของน้ำตกมาดาการีปุระ แสดงชั้นหินที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟที่น่าพิศวง